Page 266 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 266
15-36 พ ฤติกรรมมนุษย์แ ละจริยธรรมท างเศรษฐกิจแ ละธ ุรกิจ
หลักจริยธรรมของชาวอโศกจึงเรียกว ่า ระบบบ ุญนิยม ได้แก่ความห มายท ี่ว่า “บุญ” คือ การได้ให้ ได้บริจาค
ออกไปจ ากต ัว ส่วน “บาป” ก็ค ือ การเอา การร ับเข้าม าส ู่ต ัวเอง ระบบบุญน ิยมจ ึงเป็นส ิ่งท ี่จ ำเป็นท ี่ร ะบบทางเลือกท ี่ท าน
สังคมไม่ให้พ ัฒนาไปส ู่ค วามแ ตกส ลาย สาระส ำคัญข องร ะบบบ ุญน ิยมอ ยู่ท ี่ก ารค วบคุมห รือล ดค วามต ้องการส ่วนเกิน
ของม นุษย์ที่เรียกว ่า ตัณหา ให้ลดน้อยลง เพื่อลดภ าวะก ารถูกบ ีบคั้นเป็นท ุกข์ ลดก ารเอารัดเอาเปรียบกัน แต่ทำให้
“บุญ” กลายเป็นจ ุดหมาย และเป็นแรงจ ูงใจให้เกิดความข ยันขันแข็งในการท ำงาน เมื่อแสวงหาส ่วนเกินม าได้ ก็แบ่ง
ปันใหก้ ับเพือ่ นม นษุ ยท์ ขี่ าดแคลนก วา่ โดยพ ิจารณาว ่าการป ลดป ลอ่ ยต นเองใหห้ ลดุ พ น้ ไปจ ากอ ทิ ธพิ ลข องก เิ ลส เปน็ ส ิง่
ที่ม นุษย์ท ำได้โดยย ึดห ลักแ นวป ฏิบัติต ามพ ุทธธ รรม มนุษย์ท ี่เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นค นใหม่ท ี่ห ลุดพ ้นไปจ ากอ ิทธิพล
ของก ิเลส18 ที่เรียกว ่า อริยช น
คำว ่า “บุญ” จึงม กี ารต ีความแ ละข ยายค วามว ่าม ิใชเ่ป็นเรื่องข องป ัจเจกบุคคลเท่านั้นแ ตย่ ังเป็นเรื่องข องส ังคม
“บุญ” ของช าวอโศกจ ึงห มายถึง การ “ให้” แก่ส ังคมมากที่สุดเท่าท ี่จ ะทำได้ และร ับจากส ังคมให้น้อยที่สุด การ “ให้”
จึงเป็นการข ัดเกลาตนเอง จึงอ าจก ล่าวได้ว ่าระบบบ ุญน ิยมให้ความส ำคัญกับการให้ม ากกว่าก ารร ับ19
ดังน ั้น ระบบบ ุญนิยม จึงเป็นต ัวแ บบของร ะบบท ี่สามารถค ลี่คลายปัญหาความขัดแย้งร ะหว่างประสิทธิภาพ
ด้านการผ ลิตกับป ระสิทธิภาพด้านก ารกร ะจ ายผ ลผลิต เป็นทิศทางท ี่จ ะน ำสังคมไปส ู่ความมีอ ิสรเสรีภาพ มีความเป็น
ภราดรภาพ พัฒนาให้ค นในสังคมเกิดส มรรถภาพ
ระบบบุญนิยมที่มีรากฐานทางความคิดมาจากเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ให้เห็นเป็น
รปู ธ รรมเดน่ ช ดั ข ึน้ ในก ารด ำเนนิ ช วี ติ ร ว่ มก นั ข องก ลุม่ ค นต า่ งๆ ในร ปู แ บบข องช มุ ชนช าวอ โศก ชมุ ชนช าวอ โศกเปน็ ช มุ ชน
ที่ม ีจ ุดเริ่มต ้นจ ากท ี่ท ี่ม ีพ ุทธสถานห รือส ังฆส ถานห รือส ถานป ฏิบัติธ รรมร ูปแ บบอ ื่นม าก ่อน ต่อม าเมื่อม ีก ลุ่มญ าติธ รรม
ของช าวอ โศกร วมก ลุ่มก ันอ ย่างเข้มแ ข็ง จึงจ ัดต ั้งข ึ้นเป็นห มู่บ้าน จึงเกิดเป็นช ุมชนต ามม าในภ ายห ลัง20 ในป ัจจุบันม กี าร
รวมต ัวก ันในร ูปแ บบข องช ุมชนช าวอ โศกอ ยูต่ ามภ ูมิภาคต ่างๆ ของป ระเทศ 21 แห่ง ได้แก่ ชุมชนส ันติอโศก (กรุงเทพฯ)
ชมุ ชนป ฐมอ โศก (นครปฐม) ชมุ ชนศ รษี ะอ โศก (ศรษี ะเกษ) ชมุ ช นศ าลอี โศก (นครสวรรค)์ ชมุ ชนส มี าอ โศก (นครราชสมี า)
ชุมชนร าชธานีอ โศก (อุบลราชธานี) ชุมชนทักษิณอโศก (ตรัง) ชุมชนดินหนองแ ดนเหนือ (อุดรธานี) ชุมชนเมฆาอ โศก
(บุรีรัมย์) ชุมชนศ รีโคตรบ ูรณ์อ โศก (นครพนม) ชุมชนสวนส ่าง ฝ ัน (อำนาจเจริญ) ชุมชนหินผ าฟ้าน ้ำ (ชัยภูมิ) ชุมช น
เลไลยอ์ โศก (เลย) ชุมชนแ ก่นอ โศก (ขอนแก่น) ชุมชนร ้อยเอ็ดอ โศก (ร้อยเอ็ด) ชุมชนศ รบี ูรพาอ โศก (ปราจีนบุรี) ชุมชน
เชียงรายอ โศก (เชียงราย) ชุมชนวังส วนฟ ้า (สระแก้ว) ชุมช นฮอมบุญ (แพร่) ชุมชนธรรมชาติอโศก (ชุมพร) และชุมชน
ภูผาฟ้าน้ำ (เชียงใหม่) (กนกศักดิ์ แก้วเทพ 2550)
ชุมชนอโศกมีองค์ป ระกอบหลักอยู่ 4 ส่วน ดังนี้คือ
1) แกนก ลางข องช ุมชน คือ พุทธสถาน หรือ วัด ภายในบ ริเวณว ัดป ระกอบด ้วย สมณะ (นักบวชช าย)
สิกขมาต ุ (นักบวชหญิง) ผู้เตรียมบวชท ั้งช ายและห ญิง (นาค กลัก ปะ) และฆ ารวาสที่ถ ือศีลแปด เรียกว ่า คนวัด อยู่
รวมก ันเป็นห มู่บ้านภายในวัด ผู้ท ี่อ าศัยที่ว ัดทั้งหมดจะท ำงานเต็มเวลาให้พ ุทธสถานแ ละชุมชน
18 คำว่ากิเลส นอกจากจะอนุโลมตามความหมายในความเข้าใจของคนทั่วไปที่หมายถึง ความชั่ว ความไม่ดีแล้ว ในทัศนะของชาว
อโศก กิเลสยังม ีความหมายถึง ความฟ ุ้งเฟ้อฟ ุ่มเฟือยท ี่เกินความจำเป็นข องชีวิต (สมบัติ จันทรว งศ์: 2531)
19 สำหรับชาวอโศก ระบบทุนนิยมที่ตักตวงผลตอบแทนมากกว่าต ้นทุนที่เรียกว่าการท ำกำไรนั้นเป็นการ “ขาดทุน” ในระบบบุญนิยม
เพราะเป็นการเพิ่มกิเลสอันเป็นสิ่งกีดขวางในก ารพัฒนาต นของอริยชน
20 ยกเว้นชุมชนร าชธานีอโศก (อุบลราชธานี) ชุมชนทักษิณอโศก (ตรัง) และชุมชนภ ูผาฟ ้าน ้ำ (เชียงใหม่) ที่เกิดจ ากก ารม ีก ลุ่มญ าติธ รรม
ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมอย่างเข้มแข็งและจัดตั้งหมู่บ้านขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นถึงได้มีการตั้งสังฆสถาน และพุทธสถานตามมาในภายหลัง
(กนกศ ักดิ์ แก้วเทพ 2550)
ลิขสทิ ธ์ขิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช