Page 134 - สังคมโลก
P. 134
7-28 สังคมโลก
เรื่องท่ี 7.2.1
สงครามสมัยโบราณ
การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ได้มีมาตั้งแต่เริ่มมีมนุษยชาติ เมื่อมนุษย์อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนหรือชุมชน การต่อสู้
ก็ขยายขอบเขตเป็นการสู้รบย่อยๆ และเมื่อชุมชนขยายตัวเป็นสังคมเมือง การสู้รบก็ขยายขนาดและความรุนแรงขึ้น
ตามลำ�ดับ กลายเป็นสงคราม ซึ่งสงครามในสมัยโบราณ (Ancient war) นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ยุคใหญ่ๆ
คือ สงครามยุคดึกดำ�บรรพ์ (Primitive war) และสงครามยุคอารยธรรม (Civilized war)
1. สงครามยคุ ดึกดำ�บรรพ์
ในยคุ กอ่ นอารยธรรม ซงึ่ มนษุ ยย์ งั ไมไ่ ดป้ ระดษิ ฐต์ วั อกั ษรสำ�หรบั เขยี นนนั้ มนษุ ยอ์ ยรู่ วมกนั เปน็ กลมุ่ เครอื ญาต ิ
(clan) หมู่บ้าน (village) หรือเผ่า (tribe) โดยผูกพันกันทางสายโลหิต อาศัยอยู่ตามถํ้าหรือหุบเขา และดำ�รงชีพ
อยู่ด้วยการล่าสัตว์ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอันเนื่องมาจากการแย่งชิงที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินได้เกิดขึ้น มี
การต่อสู้กันด้วยมือเปล่าและอาวุธที่หาได้จากธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ท่อนไม้ กระดูกสัตว์ เป็นต้น ต่อมาได้มีการ
พัฒนาอาวุธขึ้นเป็นหอก ขวาน ลูกดอก และธนู ซึ่งใช้เป็นเครื่องมือในการล่าสัตว์ด้วย การต่อสู้เกือบทั้งหมดกระทำ�
โดยผู้ชาย รูปภาพที่เขียนไว้ตามผนังถํ้าได้แสดงถึงการต่อสู้หรือสงครามระหว่างกลุ่มไว้อย่างชัดเจน39 ตัวอย่างคือ
รูปวาดสงครามของเผ่าอะบอริจิน ในเขตอูลูรู รัฐนอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี ของออสเตรเลีย สงครามระหว่างกลุ่มได้ขยาย
เพิ่มขึ้นด้วยสาเหตุหลากหลาย อาทิ การแย่งชิงผู้หญิง การทำ�นายของหมอผีให้ทำ�สงครามเพื่อความสมบูรณ์พูนสุข
ของเผ่า การแสดงอำ�นาจของเผ่า การแก้แค้นศัตรู เป็นต้น
2. สงครามยุคอารยธรรม
เมื่อสังคมมนุษย์พัฒนาสู่ยุคอารยธรรมที่มีการประดิษฐ์อักษรขึ้นใช้ รู้จักการเพาะปลูก มีการเลี้ยงสัตว์ไว้ใช้
แรงงานและเพื่อการบริโภค ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมก็เปลี่ยนแปลงไป จำ�นวนประชากรเพิ่มมากขึ้น เกิดเป็น
ชมุ ชนเมอื งหรอื นครรฐั มกี ารจดั องคก์ รทางการเมอื งเพือ่ ปกครองและบรหิ ารเมอื งและดนิ แดนโดยรอบ ผูป้ กครองเมอื ง
มฐี านะเปน็ เจา้ เมอื งหรอื “เจา้ ” มกี ารคา้ ขายแลกเปลีย่ นสนิ คา้ ระหวา่ งกนั ผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ และอำ�นาจทางการ
เมืองกลายเป็นประเด็นที่นำ�ไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสังคม ซึ่งที่จริงแล้วมักเป็นผลประโยชน์ของหัวหน้าชุมชนหรือ
ของชนชั้นปกครองมากกว่าที่จะเป็นของสมาชิกส่วนใหญ่ในสังคม ความขัดแย้งซึ่งเกิดจากการปล้นสะดม การแย่งชิง
ดินแดน การแผ่ขยายลัทธิความเชื่อ และการขยายอำ�นาจเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่เมืองของตน ทำ�ให้เกิดการสู้รบ
กัน ในขณะเดียวกันสู้รบก็ได้พัฒนามากขึ้นทั้งในด้านขอบเขตและความรุนแรง กลุ่มนักรบได้รับการจัดตั้งเป็นกองทัพ
ที่ใหญ่ขึ้น มีการใช้อาวุธหลากหลายชนิด กองทัพจัดเป็นหน่วยทหารราบเบาที่ใช้ดาบ หน่วยทหารราบหนักที่ใช้หอก
และโล่ หน่วยพลธนู หน่วยเครื่องดีดก้อนหิน หน่วยทหารม้า และหน่วยรถม้าศึก นอกจากนั้นยังมีกองทหารพันธมิตร
อีกด้วย40 มีการสร้างกำ�แพงเมืองสูงใหญ่ พร้อมคูหอป้อมปราการ และเครื่องดีดก้อนหินเพื่อทำ�ลายกำ�แพงเมือง
39 Wright, op.cit., p. 455.
40 “Military history”, Wikipedia, the free encyclopedia, http://en.wikipedia.org/wiki/military_history,
(29/7/2553)
ลิขสทิ ธิข์ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช