Page 248 - สังคมโลก
P. 248

10-8 สังคมโลก

อัน​ไม่​ชอบ​ธรรม​ใน​สังคม​แบบ​เจ้า​ขุน​มูลนาย​ใน​ขณะ​นั้น จน​นำ​มา​ซึ่ง​การ​ปฏิวัติ​ฝรั่งเศส​ใน ค.ศ. 1789 การ​ปฏิวัติ​ครั้ง​
นั้นเ​ป็นการล​ ้มล​ ้างร​ ะบอบส​ มบูรณาญาสิทธิราชยไ์​ด้ส​ ำเร็จ และน​ ำไ​ปส​ ู่ก​ ารป​ ระกาศส​ ิทธิข​ องม​ นุษยช​ นแ​ ละพ​ ลเมือง เมื่อ​
วันท​ ี่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1789 หรือ พ.ศ. 2332 โดยส​ มัชชาแ​ ห่งช​ าตไิ​ดก้​ ำหนดโ​ครงสร้างก​ ฎหมายฉ​ บับใ​หม่ พร้อมย​ กเลิก​
การใ​ห้​ความ​มีเ​อกสิทธิ์ ขจัดเ​รื่องส​ ินบน​และ​ล้มเ​ลิก​ระบบฟ​ ิวดัล (Feudalism)

       ทิล​ล7ี่ ตั้งข​ ้อส​ ังเกตว​ ่าการ​เติบโต​ของข​ บวนการ​เคลื่อนไหว​ภาคป​ ระชาส​ ังคม​ใน​ช่วงแ​ รกน​ ั้น​เกี่ยวพ​ ัน​เชื่อม​โยง​
กับ​การเ​ปลี่ยนแปลง​ทาง​เศรษฐกิจแ​ ละก​ ารเมือง​เป็นห​ ลัก เช่น กระบวนการก​ ลายเ​ป็น​รัฐสภา (Parliamentarization)
กระบวนการ​กลาย​เป็นท​ ุนนิยมต​ ลาด (Market capitalization) และก​ ระบวนการ​กลาย​เป็น​ชนชั้น​กรรมาชีพ (Prole-
tarianization) เป็นต้น

       ขบวนการเ​คลื่อนไหว​ทางการ​เมือง​ที่ว​ ิวัฒนาการข​ ึ้น​ใน​ช่วง​ปลายค​ ริสต์​ศตวรรษท​ ี่ 18 หลัง​จากเ​กิดเ​หตุการณ​์
ปฏิวัติใ​น​ฝรั่งเศส และก​ าร​ที่ป​ ระเทศ​โปแลนด์​ได้ม​ ี​รัฐธรรมนูญ​แห่งช​ าติข​ องโ​ปแลนด์ (Constitution of May 3, 1791)
ซึ่ง​เป็น​รัฐธรรมนูญ​ร่าง​ฉบับ​แรก​ของ​ยุโรป และ​ฉบับ​ที่ 2 ของ​โลก ตาม​หลัง​รัฐธรรมนูญ​สหรัฐอเมริกา ถือ​ได้​ว่า​เป็น​
ขบวนการเ​คลื่อนไหว​ภาค​ประชา​สังคมค​ รั้ง​แรกๆ ที่​มี​การบ​ ันทึก​ไว้​เป็นล​ ายล​ ักษณ์​อักษร

       ต่อม​ าป​ ลาย​คริสต์ศ​ ตวรรษ​ที่ 19 ขบวนการเ​คลื่อนไหว​ภาค​ประชา​สังคมจ​ ะม​ ี​ลักษณะ​เป็นการเ​คลื่อนไหว​เพื่อ​
แรงงานแ​ ละส​ ังคมนิยมเ​ป็นห​ ลัก ซึ่งน​ ำไ​ปส​ ูก่​ ารก​ ่อต​ ั้งพ​ รรคการเมืองแ​ ละอ​ งค์กรท​ ีม่​ แี​ นวคิดแ​ บบร​ ะบบค​ อมมิวนิสตแ์​ ละ​
ประชาธิปไตยแ​ บบส​ ังคมนิยม หรือใ​นส​ หร​ าชอ​ าณาจักรห​ ลัง ค.ศ. 1815 ภายห​ ลังจ​ ากไ​ด้ร​ ับช​ ัยชนะใ​นส​ งค​ ราม​ นโ​ปเ​ลียน​
กเ็​ริ่มเ​ข้าส​ ูภ่​ าวะว​ ุ่นวายท​ างส​ ังคม เช่นเ​ดียวกันก​ ับป​ ระเ​ทศ​ อื่นๆ ในย​ ุโรปท​ ีไ่​ดร้​ ับแ​ รงก​ ดดันท​ ีย่​ ังค​ งม​ อี​ ยูอ่​ ย่างต​ ่อเ​นื่องจาก​
การป​ ฏิรูป เช่น การ​ปฏิวัติร​ ัสเซีย​ใน ค.ศ. 1905 และ ใน ค.ศ. 1917 ซึ่งเ​ป็นการล​ ่มส​ ลายข​ อง​จักรวรรดิซ​ าร์ ส่ง​ผล​ให้เ​กิด​
การ​ล่มส​ ลาย​ของ​จักรวรรดิ​รัสเซียไ​ปจ​ นถึงส​ งครามโลก​ครั้ง​ที่​หนึ่ง

       ใน​สหรัฐอเมริกา นัก​ทฤษฎี​รุ่นต​ ้นๆ เน้นไ​ป​ที่​สาเหตุข​ อง​ขบวนการว​ ่า เกิดจ​ าก​ความค​ ับ​ข้องใจ (grievances)
หรือ​ความ​ทุกข์​ร้อน จึง​นำ​ไป​สู่​ปฏิกิริยา​ของ​ผู้คน​ใน​รูป​ของ​การ​ร่วม​ขบวนการ วิธี​คิด​แนว​นี้​รู้จัก​กัน​ใน​นาม ทฤษฎี​การ​
หยุดช​ ะงัก (breakdown theory) แต่ม​ ิช​ ้าน​ านน​ ักท​ ฤษฎีร​ ุ่นต​ ่อๆ มาก​ ็พ​ าก​ ันป​ ฏิเสธท​ ฤษฎีด​ ังก​ ล่าว หลังจ​ ากม​ ีก​ ารศ​ ึกษา​
หลายช​ ิน้ ท​ ชี​่ วี​้ า่ ข​ บวนการเ​คลือ่ นไหวภ​ าคป​ ระชาส​ งั คมท​ เี​่ กดิ ข​ ึน้ ม​ ไิ ดเ​้ กดิ ข​ ึน้ อ​ ยา่ งล​ ุม่ ๆ ดอนๆ และไ​รท​้ ศิ ทางเ​สยี เ​ลยท​ เ​ี ดยี ว
มี​การ​กำหนดย​ ุทธศาสตร์ และ​วางแผน​กันด​ ้วย ดังน​ ั้น จึง​มิใช่​เป็น​ปฏิกิริยา​ของผ​ ู้​มี​ความค​ ับ​ข้องใจ​แบบไ​ม่มี​เหตุผล

       หลัง​จาก​นั้น​ก็​มี​ผู้​เสนอ​ทฤษฎี​ใหม่ รู้จัก​กัน​ใน​นามทฤษฎี​การ​ระดม​ทรัพยากร (resource mobilization
theory) ทฤษฎี​นี้​มุ่ง​ความ​สนใจ​ไป​ที่​การ​ทำความ​เข้าใจ​กับ​วิธี​การ และ​ยุทธศาสตร์​ของ​ขบวนการ​เคลื่อนไหว ต้องการ​
อธิบาย​ว่า เหตุ​ใด​บาง​ขบวนการ​จึง​ประสบ​ความ​สำเร็จ​มากกว่า​บาง​ขบวนการ ความ​สำเร็จ​นี้​ดู​จาก​ความ​สัมฤ​ทธิ​ผล​ใน​
การ​เปลี่ยน​นโยบาย​รัฐ หรือ​ใน​การ​ให้​รัฐ​ออก​กฎ​หมาย​ใหม่ๆ เพื่อ​สนับสนุน​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ข้อ​เรียก​ร้อง ทฤษฎี​นี้​ไม่​
สนใจ​เลย​ว่า​เหตุ​ใด​ขบวนการ​จึง​เกิด โดย​ถือว่า​เป็น​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ง่ายๆ คำ​เรียก​ขาน​ของ​ทฤษฎี​ว่า ทฤษฎี​การ​ระดม​
ทรัพยากร ก็​เนื่องเ​พราะ​ทฤษฎีพ​ ยายาม​แสดง​ให้​เห็นว​ ่า ความ​สำเร็จข​ อง​ขบวนการ​เรียก​ร้องข​ ึ้นอ​ ยู่​กับก​ ำลัง​ทรัพย์ และ​
ทรัพยากรต​ ่างๆ ที่​ขบวนการ​จะม​ ี​และน​ ำ​มา​ใช้ได้ ทรัพยากรอ​ าจ​ได้​จากก​ าร​จูงใจ​ให้​มีผ​ ู้​เข้าร​ ่วม​ขบวนการ​ได้ม​ ากๆ และ​
ช่วย​กันอ​ ุดหนุนด​ ้าน​ค่าใ​ช้จ​ ่าย ปัจเจกบุคคล​เข้า​ร่วมข​ บวนการก​ ็เ​พราะไ​ตร่ตรอง​แล้ว​เห็นว​ ่า จะ​ได้​ประโยชน์​จากก​ ารเ​ข้า​
ร่วม​จึง​ร่วม และ​ผล​ประโยชน์​นี้ จูงใจ​ให้​ร่วม​ลงทุน​ด้าน​ต้นทุน​ต่างๆ นอกจาก​นี้​ความ​สำเร็จ​ยัง​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​ขบวนการ
ด​ ัง​กล่าว​สามารถส​ ร้างเ​ครือ​ข่ายค​ วาม​สัมพันธ์ก​ ับ​ขบวนการห​ รือ​กลุ่ม​อื่นๆ ให้​ช่วย​การร​ ณรงค์​ได้​ดี​เพียงไ​ร​ด้วย

         7 Charles, Tilly, Social Movements 1768-2004 Boulder, CO: Paradigm Publishers, 2004.

                             ลขิ สิทธ์ิของมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช
   243   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253