Page 155 - การผลิตสัตว์
P. 155
การผลิตสัตว์เศรษฐกิจอื่นๆ 11-27
ในช่วงลูกนกอายุ 1–3 วันแรก การให้อาหารควรใช้วิธีโปรยอาหารลงบนภาชนะแบนๆ เช่น กระดาษแข็ง
ผิวหยาบ เพื่อช่วยให้ลูกนกจิกกินอาหารได้สะดวก เมื่อลูกนกรู้จักกินอาหารและแหล่งอาหารแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้
กินจากภาชนะที่ให้อาหารตามปกติ อาหารที่เลี้ยงลูกนกระยะนี้ควรมีโปรตีน 22–24 เปอร์เซ็นต์ สำหรับน้ำที่ให้กิน
ควรม ีการเติมย าปฏิชีวนะลงไปเพื่อป ้องกันโรคแ ละเสริมสร้างให้ลูกนกแข็งแรง
การคัดเพศลูกนกมักทำในวันแรกเกิด โดยค่อยๆ ปลิ้นทวาร และดูที่ตรงกลางปากทวาร จะเห็นติ่งเนื้อ
ร ูปหัวใจข องลูกน กก ระทาเพศผู้ ส่วนเพศเมียจ ะเรียบ
เมื่อลูกนกอายุ 2 สัปดาห์ ควรมีการตัดปากนกโดยใช้ที่ตัดปากแบบใบมีดร้อน ซึ่งจะช่วยห้ามเลือดด้วย
โดยการกะระยะประมาณหนึ่งในสามส่วนระหว่างปลายปากกับรูจมูก การตัดปากจะป้องกันการจิกกันและยังช่วย
ให้นกกระทากินอาหารได้มากขึ้น เพราะถ้าปากแหลมจะจิกกินอาหารเม็ดได้ยาก แต่ในการเลี้ยงแบบเกษตรอินทรีย์
จะไม่มีการตัดปาก เพราะจะเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติหรืออาจให้อาหารแบบผง ซึ่งนกสามารถจิกกินอาหารได้ ใน
ช่วงนี้อาจย้ายลูกนกไปเลี้ยงไว้ในกรงนกรุ่นก่อน หรืออาจรอจนอายุ 30–35 วัน แล้วจึงย้ายไปเลี้ยงไว้ในกรงนก
ใหญ่หรือนกไข่เลย แต่จะต้องคำนึงถึงความแออัดด้วย เพราะถ้ามีความแออัดมากอาจก่อให้เกิดความสูญเสียได้
เช่น การจ ิกกัน เป็นต้น ถ้าแออัดมากจะต้องท ำการย ้ายนกออกไปเลี้ยงในกรงอ ื่นเพื่อลดความแ ออัดดังกล่าว
นกกระทารุ่นอายุ 21–42 วัน ควรให้อาหารที่มีโปรตีน 22-24 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าให้อาหารที่มีโปรตีนต่ำ
จะมีผ ลกร ะท บต่อการเจริญเติบโต
2. การเลย้ี งนกใหญห่ รอื นกไ ข่
นกกระทาเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 42 วัน ในช่วงที่นกให้ไข่นี้จะไม่มีการย้ายนก เพราะจะทำให้นกหยุดไข่ การ
ย้ายนกมาเลี้ยงในกรงนกใหญ่จะดำเนินการก่อนที่นกจะไข่ โดยจะย้ายในช่วงอายุ 30–35 วัน นกกระทาจะให้ไข่
สูงสุดระหว่างอายุ 60–150 วัน หลังจากอายุ 8–10 เดือนจะให้ไข่ลดลง นกกระทาที่มีอายุ 1 ปี ควรให้ไข่ไม่ต่ำกว่า
ปีละ 260 ฟองต ่อต ัว
ในช่วงระยะให้ไข่ ควรให้นกกระทาได้กินอาหารที่มีโปรตีน 21-22 เปอร์เซ็นต์ หลังจากอายุ 10 เดือน
อาหารควรม ีโปรตีน 20 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณอาหารท ี่นกกระทาในระยะนี้ควรได้รับป ระมาณตัวละ 20–24 กรัมต่อว ัน
การให้แสงสว่างจะช่วยให้นกไข่ดีขึ้น โดยมีช่วงเวลาที่นกได้รับแสงไม่น้อยกว่าวันละ 14–16 ชั่วโมง และ
มีความเข้มข องแ สง 1–5 ฟุตแรงเทียน เพราะก ารให้แสงส ว่างจ ะกระตุ้นการท ำงานข องต่อมใต้ส มองให้สร้างฮอร์โมน
กระตุ้นให้รังไข่มีการทำงาน ช่วยกระตุ้นให้ผลผลิตไข่สูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการให้แสงสว่างในช่วงที่ไม่มีแสงจาก
ดวงอาทิตย์ โดยการใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดไฟฟ้าธรรมดา (หลอดนีออน) ก็ได้ ทั้งนี้ แสงจะ
ต้องกระจายอย่างสม่ำเสมอ และจะต้องไม่มีเงาบังทับรางน้ำและรางอาหาร เพราะนกกระทาจะไม่สามารถกินอาหาร
และน้ำได้
ลขิ สิทธข์ิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช