Page 260 - การจัดการผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
P. 260
14-34 ก ารจ ัดการก ารผลิตไม้ด อกไม้ประดับเชิงธุรกิจ
เร่อื งที่ 14.4.1
ความรู้ท ว่ั ไปเกี่ยวกับการผ ลติ บอนสี
1. ประวตั บิ อนส ี
บอนส ีเป็นไม้ป ระดับท ี่ม ีค วามส วยงามโดยเฉพาะใบท ี่ม ีร ูปท รงแ ละส ีสันส วยงามแ ปลกต า จนได้ร ับก ารข นาน
นามว ่า “ราชินีแ ห่งไม้ใบ (Queen of the Leafy Plant)” เป็นพ ืชที่จ ัดอ ยู่ในสกุล Caladium วงศ์ Araceae (Arum
Family) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caladium bicolor แต่เดิมเรียกก ันว่า “บอนฝ รั่ง” ทำให้ค าดเดาได้ว ่าเป็นพืชที่ไม่ได้ม ี
ถิ่นก ำเนิดในป ระเทศไทย
บอนส มี ถี ิน่ ก ำเนดิ อ ยใู่ นเขตร อ้ นข องอ เมรกิ าใต้ แพรห่ ลายเขา้ ไปท างย โุ รป อนิ เดยี อนิ โดนเี ซยี และป ระเทศไทย
ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัตพระนคร
หลังการเสด็จประพาสยุโรป ทรงนำพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ จากยุโรปเข้ามาปลูกในประเทศไทย รวมทั้งบอนสีด้วย ใน
ช่วงแรกปลูกเลี้ยงกันเฉพาะในกลุ่มของเจ้านายฝ่ายในและข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการ
นิยมป ลูกเลี้ยงบ อนสีท ี่แพร่ห ลายในประเทศไทย นับแ ต่ป ี พ.ศ. 2444 เป็นต้นม า การป ลูกเลี้ยงในระยะแ รกม ักปิดบัง
วิธีการปลูกเลี้ยงและการผสมพันธุ์ จนกระทั่งต่อมาความนิยมเสื่อมลง บอนสีพันธุ์ต่างๆ จึงได้มีโอกาสแพร่หลายสู่
ประชาชน ซึ่งก ารปลูกเลี้ยงบ อนสีได้ม ีต ่อเนื่องก ันมาต ลอดจนถึงประมาณป ี พ.ศ. 2470-2475 เป็นช ่วงท ี่บอนสีได้ร ับ
ความนิยมส ูงสุด มีก ารผสมพันธุ์บ อนส ีใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย มีการแ ลกเปลี่ยนซ ื้อขายกันอย่างแพร่หลาย มีการต ั้งช ื่อ
แยกห มวดห มู่ตามลักษณะ และสีสันข องใบออกเป็นกลุ่มๆ เรียกว่า ตับ โดยใช้ช ื่อตัวล ะครในว รรณคดีบ ้าง ชื่อจ ังหวัด
บ้าง ชื่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์บ้าง และจัดให้มีการประกวดกันที่สนามบาร์ไก่ขาว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่เป็นร้าน
ศรแดงอ นุสาวรีย์ประชาธิปไตยในป ัจจุบัน หลังจ ากป ี พ.ศ. 2475 บอนสีค ่อยๆ เสื่อมค วามน ิยมลงจ นกระทั่งในราวปี
พ.ศ. 2508 มีท นายความ 2 ท่าน ได้แก่ คุณย ิ่ง มีเมศ กุล และ มล.ประจวบ นพว งศ์ ณ อยุธยา เห็นภ าพค ุณอาภัสร า
หงสกุล ขณะก ำลังป ระกวดน างสาวจ ักรวาล มีร ูปต ้นไม้ต ้นห นึ่งใบส วยงามมากติดอยู่หลังภาพนั้น จึงได้สั่งบอนพันธุ์
รูปใบยาว จากบริษัท โพสแมนจอยเน่อร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาและนำมาทดลองปลูกเลี้ยงและผสมพันธุ์ได้
ลูกผสมพันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น บอนสีกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งราว ปี พ.ศ. 2522-2525 และมีการจัดตั้งสมาคม
บอนส ีแห่งประเทศไทย เพื่อส ่งเสริมอนุรักษ์แ ละพ ัฒนาการป ลูกเลี้ยงบ อนสี และรับจดท ะเบียนช ื่อบอนสี ปัจจุบันก าร
ปลูกเลี้ยงบ อนส ไีดม้ กี ารพ ัฒนาว ิธีก ารป ลูกเลี้ยงแ ละพ ัฒนาส ายพ ันธุใ์หม้ สี ีสันส วยงามแ ปลกต าไปจ ากเดิมม าก จนอ าจ
กล่าวได้ว่า บอนสีค ือบ อนของค นไทย
การตั้งชื่อบอนสี จะใช้ลักษณะสีของพื้นใบ รูปลักษณะใบแบบต่างๆ ความหมายจากประจุด (เม็ด พร่า)
ขนาดค วามถี่ห ่าง ลักษณะแ ละส ภาพข องป ระจ ุด ความห มายจ ากท รวดทรง ตัวอย่างบ อนส ีที่มีการต ั้งช ื่อเหมาะส ม เช่น
“พราหมณ์ส านนท์” จัดอยู่ในต ับพระอภัยมณี พื้นใบส ีโศกหนุนเขียว หมายถ ึง พราหมณ์ ความส งบ เยือกเย็น และ
เทพเจ้า เม็ดห ่างเป็นร ะเบียบ หมายถึง ความรอบคอบ มักน้อย สันโดษ ลักษณะก ารข ึ้นเป็นพุ่มกลม หมายถึง ความ
ซื่อสัตย์ เสมอต ้นเสมอป ลาย
ลขิ สิทธข์ิ องมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช