Page 39 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 39

การ​วิจัยเ​ชิง​ทดลองใ​นก​ ารศ​ ึกษา​นอก​ระบบ​และก​ ารศ​ ึกษา​ตาม​อัธยาศัย 10-29

บทน�ำ

       แบบก​ ารว​ ิจัยก​ ึ่งท​ ดลองใ​นก​ ารศ​ ึกษาน​ อกร​ ะบบแ​ ละก​ ารศ​ ึกษาต​ ามอ​ ัธยาศัย แบ่งไ​ดเ้​ป็น 7 แบบ ได้แก่
แบบท​ ี่ 1 การ​ศึกษา​แบบก​ ลุ่ม​เดียว และ​วัด​หลัง​การท​ ดลอง แบบท​ ี่ 2 การศ​ ึกษาแ​ บบก​ ลุ่ม​เดียว วัด​ก่อน​และ​
วัดห​ ลังก​ ารท​ ดลอง แบบท​ ี่ 3 การศ​ ึกษาแ​ บบม​ กี​ ลุ่มท​ ดลองแ​ ละก​ ลุ่มค​ วบคุม วัดห​ ลังก​ ารท​ ดลองเ​พียงค​ รั้งเ​ดียว
แบบท​ ี่ 4 การ​ศึกษา​กลุ่มท​ ดลองแ​ ละ​กลุ่ม​ควบคุม วัดก​ ่อน​และ​วัด​หลัง​การท​ ดลอง แบบท​ ี่ 5 การศ​ ึกษา​แบบ​
กลุ่ม​เดียว วัด​หลาย​ครั้ง​แบบ​อนุกรม​เวลา แบบ​ที่ 6 การ​ศึกษา​สอง​กลุ่ม​วัด​หลาย​ครั้ง​แบบ​อนุกรม​เวลา และ
​แบบท​ ี่ 7 การศ​ ึกษา​หลาย​กลุ่มห​ มุนเวียน​เข้า​รับก​ ารท​ ดลอง

       แบบ​ที่ 1 การ​ศึกษา​แบบ​กลุ่ม​เดียว และ​วัด​หลัง​การ​ทดลอง ข้อดี​ของ​แบบ​การ​วิจัย​นี้ คือ​ง่าย​ต่อ​การ
นำ�​ไป​ใช้ สามารถ​ใช้​ตอบ​คำ�ถาม​การ​วิจัย​อย่า​งก​ว้างๆ หรือ​ทดสอบ​สมมติฐาน​การ​วิจัย​ได้​ง่าย ไม่​เกิด​ปัญหา​
ความต​ รงข​ องง​ านว​ ิจัยใ​นด​ ้านอ​ ิทธิพลข​ องก​ ารว​ ัดก​ ่อนก​ ารท​ ดลอง จุดอ​ ่อนขอ​ งแ​ บบก​ ารว​ ิจัยน​ ีค้​ ือ มปี​ ัญหาด​ ้าน​
ความต​ รง​ภายในเ​กี่ยวก​ ับ เหตุการณ์​แทรก วุฒิภ​ าวะ ความล​ ะเอียด​ในก​ าร​เลือก​ตัวอย่าง และก​ าร​ขาดห​ ายไ​ป​
ของต​ ัวอย่าง มี​ปัญหา​ด้าน​ความ​ตรงภ​ ายนอกต​ ่ำ� 

       แบบท​ ่ี 2 การศ​ กึ ษาแ​ บบก​ ลมุ่ เ​ดยี ว วดั ก​ อ่ นแ​ ละว​ ดั ห​ ลงั ก​ ารท​ ดลอง ข้อดขี​ องแ​ บบก​ ารว​ ิจัยน​ ีค้​ ือ มขี​ ้อมูล​
พื้น​ฐาน​ของ​กลุ่ม​ตัวอย่างก​ ่อน​การ​ทดลอง​มา​เปรียบ​เทียบ​กับ​ผล​การ​ทดลอง จุด​อ่อนข​อง​แบบ​การ​วิจัย​คือ​ยัง​
มี​ความต​ รงภ​ ายในต​ ่ำ� เพราะ​อาจ​มี​ปัจจัยท​ ี่ม​ ีผ​ ล​ต่อ​ความต​ รงภ​ ายในท​ ี่​ไม่​ได้​ควบคุม​เกิดข​ ึ้น​ได้ เช่น เหตุการณ​์
พ้อง วุฒิ​ภาวะ​ใน​ระหว่าง​ทำ�การ​ทดสอบ​ก่อน​และ​หลัง​การ​ทดลอง และ​อิทธิพล​ร่วม​ระหว่าง​ความ​ลำ�เอียง​ใน​
การเ​ลือก​ตัวอย่างก​ ับ​ปัจจัยอ​ ื่นๆ

       แบบท​ ่ี 3 การศ​ ึกษาแ​ บบม​ ีก​ ลุ่มท​ ดลองแ​ ละก​ ลมุ่ ค​ วบคุม วัด​หลังก​ าร​ทดลอง​เพียงค​ รั้ง​เดียว ข้อดี​ของ​
แบบก​ ารว​ ิจัยค​ ือ นักว​ ิจัยส​ ามารถเ​ปรียบเ​ทียบผ​ ลก​ ารท​ ดลองร​ ะหว่างก​ ลุ่มท​ ดลองก​ ับก​ ลุ่มค​ วบคุมไ​ด้ ท�ำ ใหเ้​ห็น​
ผล​ของ​การ​ทดลองช​ ัดเจน​ขึ้น แต่ก​ ารใ​ช้​แบบ​การ​วิจัยน​ ี้ อาจ​เกิดค​ วามล​ ำ�เอียง​ใน​การเ​ลือก​ตัวอย่าง เนื่องจาก​
นัก​วิจัย​ไม่​ได้​สุ่ม​ตัวอย่าง​อาจ​ทำ�ให้ก​ ลุ่ม​ทดลอง​และก​ ลุ่ม​ควบคุม​มี​ลักษณะ​สำ�คัญ​บางอ​ ย่าง​แตกต​ ่าง​กัน​ตั้งแต่​
ก่อนก​ าร​ทดลอง​และ​ความ​แตก​ต่างน​ ี้​อาจม​ ี​อิทธิพล​ต่อ​ผล​ของก​ ารท​ ดลองไ​ด้

       แบบท​ ่ี 4 การศ​ กึ ษา​กลุ่มท​ ดลองแ​ ละ​กลุ่มค​ วบคุม วัดก​ ่อนแ​ ละว​ ัดห​ ลัง​การท​ ดลอง ข้อดี​ของ​แบบก​ าร​
วิจัยค​ ือ มกี​ ารว​ ัดก​ ่อนก​ ารท​ ดลองท​ ำ�ใหท้​ ราบข​ ้อมูลพ​ ื้นฐ​ านข​ องก​ ลุ่มท​ ดลองแ​ ละก​ ลุ่มค​ วบคุม จุดอ​ ่อนขอ​ งแ​ บบ​
การ​วิจัย​นี้​คือ อาจ​มี​ความ​ลำ�เอียง​ใน​การ​เลือก​ตัวอย่าง เนื่องจาก​นัก​วิจัย​ไม่มี​การ​สุ่ม​ตัวอย่าง โอกาส​ที่​กลุ่ม​
ทดลอง​และ​กลุ่ม​ควบคุม​จะ​แตก​ต่าง​กัน​ตั้งแต่​เริ่ม​ต้น​นั้น​เป็น​ไป​ได้​มาก และ​มี​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​การ​สรุป​เปรียบ​
เทียบผ​ ลก​ าร​ทดลองใ​นเ​ชิง​เหตุผล

       แบบ​ท่ี 5 การ​ศึกษา​แบบ​กลุ่ม​เดียว วัด​หลาย​ครั้ง​แบบ​อนุกรม​เวลา ข้อดี​ของ​แบบ​การ​วิจัย คือ การ​
ศึกษา​แบบ​นี้​เป็นการ​ศึกษา​ระยะ​ยาว ทำ�ให้​นัก​วิจัย​สามารถ​ประเมิน​ลักษณะ​การ​เปลี่ยนแปลง​ของ​ตัวแปร​
ตามไ​ด้​ละเอียดช​ ัดเจน เห็น​แนว​โน้ม​ของ​การ​เปลี่ยนแปลง​จาก​กราฟ จุด​อ่อนข​อง​แบบ​การ​วิจัยน​ ี้​คือ นัก​วิจัย​
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44