Page 46 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 5
P. 46
5-36 การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เร่ืองท ี่ 5.2.3 สถติ ิที่ใชว้ เิ คราะหค์ วามสัมพันธ์
งานว ิจัยห ลายเรื่องท ี่ผ ู้ว ิจัยศ ึกษาค วามส ัมพันธ์ร ะหว่างต ัวแปร เช่น การม ีส ่วนร ่วมข องช ุมชนในก าร
ศึกษามีความสัมพันธ์กับรายได้ของคนในชุมชนหรือไม่ การป ระชาสัมพันธ์มีความเกี่ยวข้องก ับจำ�นวนผ ู้มา
สมัครเรียนก ารศึกษาท างไกลห รือไม่ การวิเคราะห์ค วามส ัมพันธ์ระหว่างข้อมูลจะตอบคำ�ถามเหล่านี้ได้
1. แนวคดิ เบ้ืองต น้ เกี่ยวกบั ก ารว ิเคราะหค์ วามสัมพันธ์
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร เป็นการจำ�แนกแยกแยะว่าตัวแปรมีความเกี่ยวข้องกัน
หรือไม่ เกี่ยวข้องก ันม ากน ้อยเพียงใด โดยก ารห าค ่าค วามส ัมพันธ์ร ะหว่าง 2 ตัวแปรข ึ้นไปจ ากห น่วยเดียวกัน
เช่น จากค นเดียวกัน จากบริษัทเดียวกัน ฯลฯ
การพิจารณาว่าตัวแปร 2 ตัวมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การเขียนแผนภาพ
การกร ะจาย (scatter diagram) โดยนำ�ค่า X และ Y มาท ำ� scatter plot ตัวอย่าง รายได้ของคนในช ุมชน
(ค่า X แกนนอน) กับระดับก ารม ีส่วนร่วมของช ุมชนในการศึกษา (ค่า Y แกนตั้ง)
ถ้าคนในชุมชนมีรายได้สูง (ค่า X) ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการศึกษาสูงด้วย (ค่า Y) คนที่มี
รายได้ปานกลางส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือปานกลาง คนที่มีรายได้ต่ำ�ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือต่ำ�ด้วย
เมื่อลากเส้นผ่านตรงกลางข องกลุ่ม จะได้ภ าพ ก ความสัมพันธ์มีท ิศทางเดียวกัน ค่าค วามส ัมพันธ์เป็นบ วก
ถ้าค นในช ุมชนม ีร ายได้ส ูงส ่วนใหญ่ก ลับใหค้ วามร ่วมม ือในก ารศ ึกษาต ่ำ� แต่ค นท ี่ม รี ายได้ต ่ำ�กลับให้
ความร่วมมือสูง จะได้ภาพ ข ความสัมพันธ์ก ลับทิศทาง ค่าความสัมพันธ์จ ึงต ิดลบ