Page 54 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 54

13-44 การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ

       4. 	 ผู้ส​ อนพ​ ึง​ระลึกเ​สมอ​ว่า​ไม่มี​วิธี​ใด​เป็น​วิธี​ที่ด​ ี​ที่สุด ผู้​สอนท​ ี่ใ​ช้​แนวก​ าร​สอน​เพื่อ​การส​ ื่อสารอ​ าจ​ใช้​
วิธี​การ​สอน​หลาย ๆ แบบต​ าม​ที่เ​ห็นว​ ่า​เหมาะส​ ม​กับ​ผู้​เรียน ไม่ว​ ่า​จะ​เป็นการ​เลียนแ​ บบ​บริบทต​ ่าง ๆ การ​เขียน​
เรียงค​ วามโ​ดยก​ ารว​ างก​ รอบใ​ห้เ​ขียน การเ​ขียนแ​ บบอ​ ิสระ การฝ​ ึกป​ ระโยค การว​ ิเคราะห์ป​ ริบ​ ท ซึ่งเ​ป็นพ​ ื้นฐ​ าน​
ที่​จำ�เป็นข​ อง​ทุกว​ ิธี

       5. 	 ผู้​สอน​จะ​ต้อง​ตระหนัก​ใน​หลัก​การ​ที่​ว่าการ​เขียน คือ การ​เขียน​ข้อความ​ที่​มี​ความ​สัมพันธ์​เชื่อม​
โยง​กัน ไม่ใช่​เขียน​แต่​เพียง​ประโยค​เดี่ยว ๆ เท่านั้น ผู้​เรียน​จะ​ต้อง​เขียน​เพื่อ​สนอง​จุด​ประสงค์​ของ​ตน​และ​
ผู้​อ่าน

       6. 	 ผู้​สอน​ควร​เปลี่ยน​บทบาท​จาก​ผู้​ชี้​ข้อ​ผิด​และ​ผู้​ตรวจ​ข้อสอบ​มา​เป็น​ผู้​อ่าน​และ​ช่วย​วิจารณ์​ฉบับ​
ร่างข​ องผ​ ู้เ​ขียนแ​ ทน และ​เปลี่ยนล​ ักษณะก​ าร​ทำ�งานร​ ะหว่างผ​ ู้ส​ อน​กับผ​ ู้เ​รียนแ​ บบต​ ัวต​ ่อต​ ัว​มาเ​ป็นผ​ ู้​สอน​และ​
ผู้เ​รียน​หลาย ๆ คน และผ​ ู้​เรียนก​ ับ​ผู้เ​รียนม​ า​แลก​เปลี่ยน​ความค​ ิดเ​ห็นใ​น​การท​ ำ�งาน

       โดย​สรุป​ใน​การ​สอน​ทักษะ​การ​เขียน​จะ​ต้อง​เน้น​ให้​ผู้​เรียน​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​ตัว​ภาษา และ​กลไก​ของ​
การ​เขียน​ก่อน และ​ใน​การ​ฝึก​เขียน​ต้อง​เริ่ม​จาก​การ​ฝึก​แบบ​ควบคุม ชี้แนะ จาก​นั้น​ท้าย​ที่สุด​จึง​เปิด​โอกาส​
ให้​ผู้​สอน​ได้​เขียน​อย่าง​อิสระ มุ่ง​เน้น​ให้​ผู้​เรียน​ช่วย​เหลือ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน ผู้​เรียน​ควร​มี​เวลา​เขียน เวลา​แก้ไข​
ปรับปรุงง​ านเ​ขียน และใ​ห้ผ​ ู้เ​รียน​ได้เ​ขียน​ในส​ ิ่งท​ ี่เ​กี่ยวข้อง​กับ​ชีวิตจ​ ริง และใ​ช้ว​ ิธี​การ​สอน​หลายร​ ูปแ​ บบ

2. 	กิจ​กรรร​ มก​ าร​สอนเ​ขยี น

       จากท​ ีก่​ ล่าวม​ าแ​ ล้วข​ ้างต​ ้นว​ ่าใ​นก​ ารส​ อนเ​ขียนต​ ้องเ​น้นก​ ารฝ​ ึกจ​ ากแ​ บบค​ วบคุม ชี้แนะ และเ​ขียนอ​ ย่าง​
อิสระ ดังน​ ั้นก​ ิจกรรมท​ ี่ใ​ช้ใ​นก​ ารส​ อนเ​ขียนจ​ ึงม​ ีล​ ักษณะด​ ังก​ ล่าวข​ ้างต​ ้น โดยม​ ีร​ ายล​ ะเอียดข​ องก​ ิจกรรมแ​ ต่ละ​
ประเภท​ดังนี้ (สุม​ ิตร​ า อังว​ ัฒนก​ ุล. (2540: 186-196) และ​สุ​ภัทร​า อักษร​า​นุ​เคราะห์. (2532: 113))

       2.1 	 การ​เขยี น​แบบค​ วบคมุ (controlled writing) เป็นก​ ิจกรรม​การ​สอน​ทักษะ​การ​เขียน​ที่​ผู้ส​ อนจ​ ัด​
เนื้อหา​หรือ​รูป​แบบ​ภาษา​สำ�หรับ​ผู้​เรียน​ใช้​ใน​การ​เขียน เช่น ให้​เติม​คำ�​ใน​ช่อง​ว่าง ให้​เรียง​ประโยค​ตาม​ลำ�ดับ​
เหตุการณ์ การ​เขียน​ข้อความเ​ลียน แบบ​ที่ใ​ห้ การ​ลอก​ข้อความ โดยเ​ปลี่ยนแปลง​องค์ป​ ระกอบ​บางอ​ ย่าง​ของ​
ประโยค เช่น เปลี่ยน​คำ�​เอกพจน์​เป็น​พหูพจน์ เปลี่ยนก​ าล (tense) เป็นต้น กิจกรรมก​ าร​เขียน​แบบค​ วบคุม​
แต่ละ​กิจกรรม​จะ​เป็นการ​สร้าง​ความ​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​คำ�​ศัพท์ หรือ​โครงสร้าง​ประโยค​แบบ​ใด​แบบ​หนึ่ง
หรือ​เป็น​กิจกรรม​เพื่อป​ รับปรุงแ​ ก้ไขข​ ้อบ​ กพร่อง​ใน​การ​เขียน​อย่างใ​ดอ​ ย่าง​หนึ่งเ​ท่านั้น

       2.2 	 การ​เขียน​แบบ​มี​การ​ช้ีแนะ (guided writing) เป็น​กิจกรรมเ​พื่อ​ฝึก​ทักษะ​การ​เขียน​ที่​พัฒนา​มา​
จาก​การ​เขียน​แบบ​ควบคุม มี​ลักษณะท​ ี่​ให้​อิสระ​มาก​ขึ้น​กว่า​เดิม โดย​ผู้​สอน​ให้​เนื้อหา​และ​รูป​แบบ​ภาษา​เพียง​
บางส​ ่วนส​ ำ�หรับผ​ ู้เ​รียน​ใช้​ในก​ าร​เขียน ผู้​สอนอ​ าจ​จะ​ให้​ประโยค​เริ่ม​ต้น ประโยค​สุดท้าย โครงร​ ่าง คำ�ถาม​หรือ​
ข้อมูล​ที่​จำ�เป็น​สำ�หรับ​การ​เขียน​และ​ผู้​เรียน​จะ​มี​การ​อภิปราย​ร่วม​กัน​จด​บันทึก แลก​เปลี่ยน​ข้อ​ค้น​พบ และ​
กำ�หนด​กลยุทธ์​ใน​การ​เขียน​ของ​ตนเอง ดัง​นั้น ข้อ​เขียน​ของ​ผู้​เรียน​แต่ละ​คน​จึง​คล้าย​กัน แต่​ไม่​เหมือน​กัน
กิจกรรม​การ​เขียน​แบบ​ชี้แนะ​อาจ​จะ​ใช้​ข้อความ​จาก​สื่อ เช่น ภาพ หรือ​การ์ตูน​เดี่ยว​และ​ชุด เอกสาร​แผ่น​พับ​
เกี่ยวก​ ับ​สถานท​ ี่ท​ ่องเ​ที่ยว ข้อความโ​ฆษณา​จากห​ นังสือพิมพ์ หรือ​แผนที่ ตาราง หรือ​กิจกรรมต​ ่าง ๆ มาเ​ป็น​
ตัว​ชี้แนะก​ ็ได้
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59