Page 43 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 43
การว ิจัยเพื่อพัฒนาบทเรียนแ ละสื่อภาษาอังกฤษ 15-33
ด�ำ เนนิ ง านว จิ ยั น กั ว จิ ยั ไดป้ รบั ล ดต วั แปรบ างต วั ล ง หรอื ท �ำ ใหต้ วั แปรบ างต วั ค งที่ แลว้ ป รบั ก รอบเชงิ ท ฤษฎใี หม่
จะได้เป็นกร อบค วามคิดการว ิจัยเพื่อใช้ส ำ�หรับก ารว ิจัยเรื่องน ั้นเท่านั้น หากเปลี่ยนเรื่องด ำ�เนินการว ิจัยใหม่
โดยใช้ก รอบเชิงท ฤษฎีอื่นก็ต ้องส ร้างกรอบค วามคิดก ารว ิจัยใหม่อีกเช่นกัน
รูปแบบการเขียนกรอบความคิดการวิจัย เมื่อผู้วิจัยได้ทบทวนเอกสารต ่าง ๆ เรียบร้อยแ ล้ว ควร
นำ�รายละเอียดเกี่ยวกับตัวแปรที่ต้องการศึกษามากำ�หนดกรอบความคิดในการวิจัย เพื่อเป็นการกำ�หนด
ขอบเขตของการวิจัยและทำ�ให้เกิดภาพสรุปสุดท้ายของการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่
ศึกษา เป็นผลรวมค วามคิดข องน ักว ิจัยเข้ากับเรื่องราวท ฤษฎีต ่าง ๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นแ นวค วามคิดของ
ผ วู้ จิ ยั ท ตี่ อ้ งการห ลกั ฐ านเชงิ ป ระจกั ษม์ าพ สิ จู นค์ วามถ กู ต อ้ ง กรอบแ นวคดิ ในก ารว จิ ยั ส ามารถน �ำ เสนอไดห้ ลาย
ร ูปแบบ แต่ที่น ิยมใช้ในก ารวิจัยเพื่อพ ัฒนาบ ทเรียนและส ื่อภ าษาอ ังกฤษมี 2 รูปแ บบ คือ
4.1 การเขยี นกรอบแนวคดิ การวจิ ยั ในล กั ษณะบรรยาย เป็นการใช้ถ ้อยคำ�บรรยายความเกี่ยว
เนื่อง ลำ�ดับก่อน-หลัง และความสัมพันธ์ของตัวแปร การเขียนในลักษณะนี้ไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
มากน ัก
4.2 การเขยี นก รอบแ นวคดิ ก ารว จิ ยั ในล กั ษณะแ ผนภมู ิ เป็นการเชื่อมโยงให้เห็นค วามส ัมพันธ์
ระหว่างตัวแปรที่ต้องการศึกษาแสดงลำ�ดับการเกิดก่อนหลังของตัวแปร นอกจากนี้แผนภูมิที่สร้างขึ้นยัง
สามารถแ สดงค วามเปน็ เหตเุ ปน็ ผ ล ซึง่ น �ำ ไปส กู่ ารใชเ้ ทคนคิ ท างส ถติ ทิ เี่ หมาะส มในก ารว เิ คราะหต์ อ่ ไป มผี วู้ จิ ยั
บางรายเข้าใจเรื่องนี้คลาดเคลื่อนไปคือนำ�ขั้นตอนของการวิจัยมาสร้างเป็นแผนภาพ เชื่อมโยงขั้นตอน
การทำ�งานวิจัย ตั้งแต่ขั้นตอนการกำ�หนดปัญหาวิจัย การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง การกำ�หนดประชากร
กลมุ่ ต วั อยา่ ง การส รา้ งเครอื่ งม อื ว จิ ยั การเกบ็ ร วบรวมข อ้ มลู การว เิ คราะหข์ อ้ มลู และก ารจ ดั ท �ำ รายงาน แผนภาพ
ดังกล่าวนี้ไม่ใช่กรอบความคิดของการวิจัย แต่เป็นแผนภาพที่แสดงขั้นตอนการวิจัย (สุวิมล ว่องวาณิช.
2551)
5. วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย (Objectives) เป็นการร ะบุให้ผ ู้อ่านท ราบว ่าง านว ิจัยนี้มีวัตถุประสงค์
อย่างไร การเขียนควรแ บ่งเป็นข ้อ ๆ เรียงตามล ำ�ดับค วามสำ�คัญข องว ัตถุประสงค์ สำ�หรับงานว ิจัยเพื่อพ ัฒนา
บทเรียนและสื่อภาษาอังกฤษผู้วิจัยควรกำ�หนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนาบทเรียนหรือสื่อภาษา
อังกฤษพร้อมระบุเกณฑ์ของการพัฒนาไว้เป็นลำ�ดับแ รก จากนั้นจ ึงกำ�หนดว ัตถุประสงค์การว ิจัยที่เกี่ยวข้อง
เพื่อแ สดงให้เห็นรายล ะเอียดข องค ุณภาพของบทเรียนห รือส ื่อท ี่ได้พ ัฒนาข ึ้น ที่นิยมก ำ�หนดก ันม ากค ือ เพื่อ
เปรียบเทียบผ ลส ัมฤทธิ์ข องก ารเรียนร ู้โดยใช้บทเรียนห รือส ื่อท ี่พ ัฒนาโดยเปรียบเทียบผ ลก ่อนแ ละห ลังก าร
ใช้บ ทเรียนห รือสื่อนั้น แล้วจึงตามด ้วยความคิดเห็นท ี่ผู้ใช้บทเรียนหรือสื่อที่ผ ู้วิจัยสร้างขึ้น
6. สมมติฐานการวิจัย (Hypothesis) เป็นการแสดงการคาดเดาของผลการดำ�เนินการวิจัยตาม
ประเด็นที่กำ�หนดไว้ในวัตถุประสงค์ของการวิจัย สำ�หรับงานวิจัยเพื่อพัฒนาบทเรียนและสื่อภาษาอังกฤษ
ผู้วิจัยจะต้องตั้งสมมติฐานการวิจัยในส่วนที่เกี่ยวกับผลของการพัฒนาบทเรียนหรือสื่อที่สร้างขึ้นโดยนิยม
เขียนส มมติฐานในการพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำ�หนดไว้ แล้วตามด้วยส มมติฐานท ี่เกี่ยวก ับผลก ารนำ�
บทเรียนหรือสื่อภาษาอังกฤษไปใช้ ทั้งนี้ต้องเขียนสมมติฐานการวิจัยให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ
การว ิจัย