Page 24 - สัมมนาทางเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
P. 24
8-14 สัมมนาทางเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
เพิ่มข ึ้น ใหม้ ุมม องท ี่ก ว้างก ว่าก ารใหต้ อบแ บบสอบถาม แต่ม ีข ้อจ ำ�กัด คือ เสียเวลาแ ละค ่าใชจ้ ่ายม ากกว่า และ
ผู้ส ัมภาษณ์ต้องได้รับก ารฝึกฝน จึงจ ะได้ข ้อมูลท ี่ถูกต้องและรวดเร็ว
1.3 การสังเกต เป็นการเฝ้าดูสิ่งของ ปรากฏการณ์ การปฏิบัติงาน และบุคคลตามสภาพความ
เป็นจริง โดยใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ หรือใช้เครื่องมืออื่นๆ ประกอบ เช่น กล้องถ่ายรูปและจดบันทึกสิ่งที่
พบเห็น เป็นวิธีที่นิยมใช้กับก ารวิจัยเชิงค ุณภาพ ข้อดีของวิธีนี้ คือ ได้เห็นข ้อมูลท ี่เป็นจ ริงเหมาะก ับการว ัด
ด้านท ักษะพ ิสัย (การป ฏิบัติ) และจิตพ ิสัย (คุณธรรมจ ริยธรรม) จะได้ข้อมูลต ามส ภาพท ี่เป็นจ ริง ข้อจ ำ�กัด
คือ ใช้เวลาน าน ค่าใช้จ่ายส ูง และผู้สังเกตต ้องมีประสบการณ์ในก ารติดตามส ังเกตพ ฤติกรรมได้
1.4 การทดสอบ เป็นการวัดความสามารถทางสติปัญญา เช่น วัดความรู้ การใช้เหตุผล ข้อดี คือ
เป็นการส ะท้อนผลท ี่ได้จากการส อน หรือการอ บรม ข้อจำ�กัด คือ เป็นการวัดค วามร ู้ ความจ ำ� ไม่ครอบคลุม
การวัดท ักษะปฏิบัติ และคุณธรรมจ ริยธรรม เป็นต้น
1.5 การประเมินผลจากสภาพจริง (Authentic Assessment) เป็นกระบวนการสังเกต การบันทึก
และรวบรวมข้อมูลจ ากง านแ ละวิธีก ารท ี่ผ ู้เรียนท ำ�ในห ลายๆ ด้านโดยใช้วิธีก ารท ี่ห ลากห ลาย การป ระเมินผล
จากสภาพจ ริงเน้นให้ผู้เรียนส ามารถแก้ปัญหา เป็นผ ู้ค้นพ บ และผ ู้ผลิตค วามร ู้ ผู้เรียนได้ฝ ึกปฏิบัติจ ริง และ
เน้นพ ัฒนาการเรียนรู้ข องผู้เรียน
ลักษณะส ำ�คัญข องก ารป ระเมินผ ลต ามส ภาพจ ริงเป็น ได้แก่ (1) การป ระเมินผ ลท ีเ่น้นก ารป ฏิบัตจิ าก
สภาพจ ริง (2) การก ำ�หนดง านหรือป ัญหาแ บบป ลายเปิด เพื่อให้ผ ู้เรียนเป็นผ ู้ส ร้างคำ�ตอบเอง ด้วยก ารทำ�งาน
หรือผ ลิตผลงาน (3) การป ระเมินท ักษะท ี่ซับซ้อนใช้ค วามคิดร ะดับสูง (4) การใช้ข้อมูลห ลายอย่าง เพื่อการ
ประเมินโดยใช้วิธีก ารแ ละเครื่องม ือห ลายประเภท เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจง าน การร ายงาน
ตนเอง การบ ันทึก การส อบแบบเน้นป ฏิบัติจริง แฟ้มส ะสมง าน เป็นต้น (5) การป ระเมินมีส่วนร่วมระหว่าง
ครู ผู้เรียนและผ ู้ป กครอง
ข้อดีข องการประเมินต ามสภาพจริง คือ ทำ�ให้ค ุณลักษณะห รือพ ฤติกรรมที่วัดเป็นรูปธ รรมมากข ึ้น
โดยใชว้ ธิ กี ารป ระเมนิ ห ลายร ูปแ บบอ ยา่ งต ่อเนือ่ งแ ละต ามค วามเปน็ จ ริง การป ระเมนิ ไมแ่ ยกอ อกจ ากก ารเรยี น
การส อน ผูเ้รียนจ ะไม่รูส้ ึกว ่าถ ูกป ระเมิน จึงป ฏิบัตงิ านต ามป กติ นอกจากน ีข้ ้อดขี องก ารป ระเมินป ระเภทน ี้ คือ
ส่งเสริมการเรียนรู้ตามค วามแ ตกต ่างข องผ ู้เรียน และส่งผ ลต่อก ารพัฒนาค ุณภาพก ารส อนของครู ข้อจ ำ�กัด
ของก ารประเมินต ามส ภาพจ ริง หากค รูไม่เข้าใจไม่ย อมรับจะไม่สามารถประเมินตามส ภาพจ ริงได้ และท ำ�ให้
ครูม ีภาระง านเพิ่มมากข ึ้น เพราะต ้องป ระเมินอ ย่างต่อเนื่อง
1.6 การว ดั ผลภ าคป ฏบิ ตั ิ (Performance Assessment) เป็นการว ัดผลง านท ี่ให้น ักเรียนล งมือป ฏิบัติ
ซึ่งส ามารถวัดได้ท ั้งก ระบวนการและผลง าน ในส ถานการณ์จ ริง หรือในสถานการณ์จำ�ลอง สิ่งที่ควรค ำ�นึงใน
การส อบวัดภ าคปฏิบัติ คือ (1) ขั้นเตรียมงาน (2) ขั้นปฏิบัติงาน (3) เวลาที่ใช้ในก ารทำ�งาน (4) ผลง าน ดังนั้น
การส ร้างเครื่องม ือในก ารว ัด ควร (1) กำ�หนดท ักษะท ี่ว ัดจ ากจ ุดป ระสงค์ก ารเรียน (2) กำ�หนดข ั้นต อนข องก าร
ปฏิบัติงานท ี่จ ะว ัด (3)กำ�หนดก ิจกรรมในแ ต่ละขั้นตอน (4) กำ�หนดร ายการปฏิบัติในแต่ละข ั้นต อน (5) เขียน
รายการ สาระของงาน และ (6) กำ�หนดเกณฑ์การตัดสิน ผู้ว ัดค วรใช้การสังเกตควบคู่ไปก ับก ารบันทึกผลก าร
สังเกตในแบบประเมิน และค วรมีค ำ�ชี้แจงที่ชัดเจนและสมบูรณ์