Page 41 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 41
ความร้ดู า้ นวฒั นธรรมและศาสนา 13-31
2) ศาสนาที่มีผู้นับถืออยู่ คอื ศาสนาทย่ี ังคงมีผนู้ ับถือและปฏิบตั ิจำ� นวน 11 ศาสนา ไดแ้ ก่
ศาสนาท่ีมีแหล่งก�ำเนิดในเอเชียตะวันออก มี 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาเต๋า ศาสนา
ขงจื้อ (ทั้ง 2 ศาสนามแี หล่งก�ำเนดิ ในประเทศจีน) และศาสนาชนิ โต (มแี หลง่ กำ� เนิดในประเทศญปี่ ุ่น)
ศาสนาท่มี แี หลง่ ก�ำเนดิ ในเอเชียใต้หรืออนิ เดยี มี 4 ศาสนา ไดแ้ ก่ ศาสนาพราหมณ์-
ฮินดู ศาสนาเชน ศาสนาพุทธและศาสนาซิกข์
ศาสนาที่มีแหล่งก�ำเนิดในเอเชียตะวันตก มีจ�ำนวน 4 ศาสนา ได้แก่ ศาสนายูดาห์
(ยิว) ศาสนาคริสต์ (ทั้งสองมีก�ำเนิดในดินแดนปาเลสไตน์) ศาสนาอิสลาม (ก�ำเนิดในประเทศอาหรับ)
ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (มถี ่นิ ก�ำเนิดในเปอร์เซยี ประเทศอหิ ร่าน)
3.3 การแบ่งประเภทตามวิวัฒนาการ แบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ ศาสนาธรรมชาติ (Natural
religion) และศาสนาองคก์ าร (Organizational religion)
1) ศาสนาธรรมชาติ คอื ศาสนาทเี่ กดิ มาจากความนบั ถอื ธรรมชาติ เชอื่ วา่ ปรากฏการณต์ า่ งๆ
ทเ่ี กดิ ขน้ึ จะตอ้ งมพี ลงั อยเู่ บอื้ งหลงั และสงิ่ นน้ั มอี ำ� นาจดลบนั ดาลใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ แตม่ นษุ ยไ์ มส่ ามารถเขา้
ถึงและรู้แจ้งได้ แนวคิดท่ีกล่าวมานี้จึงเช่ือว่าสรรพส่ิงในโลกจะต้องมีผู้สร้างซึ่งในยุคแรกยังไม่มีตัวตน
ลักษณะศาสนาธรรมชาติพอสรุปสาระส�ำคัญได้ 3 ประการคือ (1) ยึดถือไปตามความเชื่อท่ีเกิดข้ึนจาก
ความรู้สึกและการคาดคะเน เป็นความเชื่อท่ีสืบต่อๆ กันมาจากบรรพบุรุษ (2) เน้นด้านพฤติกรรมทาง
ศาสนาในรปู ของบรรทดั ฐานของแตล่ ะสงั คมซง่ึ อาจมคี วามเชอื่ ทเี่ หมอื นหรอื แตกตา่ งกนั ในแตล่ ะสงั คม และ
(3) เป็นความเช่ือท่ีผูกพันอยกู่ ับสภาวะเหนือธรรมชาติ
2) ศาสนาองค์การ คอื ศาสนาท่มี วี ิวัฒนาการมาเปน็ ลำ� ดบั จนกระทง่ั มกี ารจัดระเบียบ การ
ควบคมุ จดั ตง้ั เปน็ สถาบนั มกี ารจดั ระบบความเชอ่ื ทคี่ ำ� นงึ ถงึ ความเหมาะสม ตอบสนองสงั คมในแตล่ ะแหง่
เปน็ หลัก จึงมรี ะบบและรปู แบบเฉพาะตัว ศาสนาประเภทนม้ี คี วามม่ันคงถาวรเพราะเปน็ ระบบศาสนาทมี่ ี
รปู แบบของตนเอง เชน่ ศาสนาครสิ ต์ ศาสนาพทุ ธ ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู ศาสนาอสิ ลาม เปน็ ตน้ ศาสนา
องค์กรนี้อาจเรียกวา่ ศาสนาหลัก หรอื ศาสนาสถาบัน หรือศาสนาทางสังคมหรอื ศาสนาพิธกี าร
3.4 การแบ่งประเภทตามลักษณะผู้นับถือศาสนา แบ่งออกเป็นศาสนาแห่งชาติ (National
religion) และศาสนาแหง่ โลกหรอื ศาสนาสากล (Universal religion)
1) ศาสนาแห่งชาติ เป็นศาสนาที่มีผนู้ ับถอื จ�ำกัดอยูใ่ นถน่ิ ท่เี กดิ ของศาสนานั้น เช่น ศาสนา
ชนิ โตของญ่ีปุ่น ศาสนาเชนของชาวอินเดียบางส่วน ศาสนาขงจ้อื ของจนี เปน็ ตน้
2) ศาสนาแห่งโลก หรอื ศาสนาสากลเปน็ ศาสนาทแี่ พรก่ ระจายไปจากถน่ิ กำ� เนดิ ขยายไปยงั
ดินแดนอื่นๆ ทั่วโลก ผูน้ บั ถือไมไ่ ดจ้ �ำกัดเฉพาะถ่นิ กำ� เนดิ ของศาสนาแต่กระจายอย่ทู ่ัวไป
4. หน้าที่ของศาสนา
ศาสนาในฐานะสถาบันส�ำคัญของสังคมมีหน้าท่ีในฐานะฟันเฟืองท่ีจะท�ำให้สังคมด�ำรงอยู่และขับ
เคลือ่ นไปได้ มีหน้าทท่ี ง้ั ต่อบคุ คลและสงั คม กลา่ วคอื
4.1 ชว่ ยในการพฒั นาบคุ คล หลกั คำ� สอนของศาสนาชว่ ยอบรมหลอ่ หลอมความคดิ อบรมขดั เกลา
ใหบ้ คุ คลปฏบิ ตั ติ นในแนวทางแหง่ ความถกู ตอ้ งเกดิ ความสงบสขุ เชน่ ในศาสนาพทุ ธจะมกี ารอบรมในเรอื่ ง