Page 37 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 37

ความรู้ดา้ นวฒั นธรรมและศาสนา 13-27

เร่ืองที่ 13.2.1
ความหมาย ก�ำเนิด ประเภท และหน้าท่ีของศาสนา

1. 	ความหมาย

       คำ� วา่ “ศาสนา” มรี ากศพั ทม์ าจากภาษาสนั สกฤต คอื ศาสนมั ตรงกบั ศพั ทภ์ าษาบาลี คอื ศาสนะ
แปลว่า ค�ำส่ังสอน ข้อบังคับ ในภาษาอังกฤษค�ำว่าศาสนาคือ Religion มาจากศัพท์ภาษาละตินว่า
Religio ซงึ่ หมายถงึ การรวมตวั และการประนปี ระนอม หรอื กฏเกณฑ์ ทผี่ กู มดั ใหก้ ระทำ� ดี อกี ความหมาย
หน่งึ หมายถึง การรวมเข้าดว้ ยกันคอื การสัมพันธใ์ หเ้ ปน็ หน่ึงเดยี วกับพระเจา้ หรอื เป็นความผูกพนั ระหว่าง
มนษุ ย์กับเทพเจา้ หรือพลงั เบอ้ื งบน (พิสฎิ ฐ์ โคตรสุโพธิ,์ 2544: 1)

       พจนานุกรมอ็อกฟอร์ด ให้ค�ำนิยามศาสนาว่า ความเช่ือและบูชาในอ�ำนาจเหนือธรรมชาติโดย
เฉพาะพระเจา้

       จ�ำนง อดิวฒั น์สิทธ์ิ (2547: 10) อธบิ ายว่า ตามรปู ศัพท์ศาสนาแปลว่าค�ำสงั่ สอน ซงึ่ หมายถึงขอ้
ก�ำหนดทางศีลธรรมท่ีเป็นขอ้ ห้ามไม่ให้บุคคลประพฤตชิ ั่วและขอ้ แนะแนวทางการประพฤติตนในทางที่ดที ี่
ถูกตอ้ ง ไมเ่ ป็นทเ่ี ดือดร้อนแกต่ นเองและผูอ้ ื่น ศาสนาจึงมีความหมายเดียวกบั กฎเกณฑท์ างศีลธรรมและ
จริยธรรมอันดีงามของสังคม

       พทุ ธทาสภกิ ขุ (2537: 40-41) อธบิ ายวา่ ศาสนาคอื คำ� สงั่ สอน เปน็ สงิ่ ทำ� ใหม้ นษุ ยร์ สู้ กึ ปลอดภยั
เปน็ ระบบทท่ี ำ� ใหส้ งั คมเกดิ สนั ติ เปน็ สง่ิ ทำ� ใหม้ นษุ ยไ์ ดร้ บั สง่ิ ทด่ี ที ส่ี ดุ ตลอดจนเปน็ สง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธใ์ิ นการกำ� จดั
ทกุ ข์ ชว่ ยให้ส�ำเร็จทุกประการ เปน็ อาหารใจ เปรียบเสมือนเครอ่ื งน่งุ ห่มของจิตใจ เปน็ เหมือนทีพ่ ักอาศยั
เป็นเครอ่ื งบ�ำบดั จติ ใจ ประโลมใจมนษุ ย์ให้อยูไ่ ด้ในความเป็นมนุษย์ทถี่ กู ต้อง

       แม้ว่าค�ำนิยามของศาสนาจะมีหลากหลายดังกล่าวข้างต้น แต่การที่จะจัดว่าอะไรมีลักษณะของ
ศาสนาจะตอ้ งมอี งคป์ ระกอบสำ� คัญ 7 ประการ ดงั น้ี (พิสฎิ ฐ์ โคตรสโุ พธ์ิ, 2544: 2)

       1. 	มผี ้กู อ่ ตง้ั (ศาสดา) หรอื คณะผกู้ อ่ ตง้ั (พราหมณ์ในศาสนาฮนิ ด)ู เป็นทย่ี อมรบั และเปน็ ความ
จริงทม่ี ีหลกั ฐานพสิ จู น์ได้

       2. 	มีหลกั ค�ำสอน (Doctrine) ท่ีเก่ียวเน่ืองกบั ศลี ธรรมและจรยิ ธรรม
       3. 	มหี ลักปฏิบตั ิ (Pratice) ในอนั ท่จี ะนำ� ผู้ท่มี ศี รัทธาใหบ้ รรลจุ ดุ หมายสูงสุด (Final goal)
       4. 	มีพธิ ีกรรมทางศาสนา (Ritual)
       5. 	มคี ณะหรอื บุคคลที่สบื ทอดทางศาสนา (The Fallowers) เช่น นักบวช หรอื พระ
       6. 	มสี ญั ลักษณ์หรือตวั แทนรวมไปถงึ ปชู นียวัตถุ (Religious symbol)
       7. 	มสี ถาบันทางศาสนาที่ท�ำหน้าท่เี ป็นศูนยก์ ลางบัญชาการ (Institute)
       จากองคป์ ระกอบนจ้ี งึ ทำ� ใหศ้ าสนามคี วามแตกตา่ งไปจากลทั ธิ เพราะลทั ธมิ คี วามหมายทแี่ คบกวา่
ศาสนา ลทั ธเิ ปน็ เพยี งคำ� สอนทคี่ ดิ คน้ พอื่ ประโยชนค์ นกลมุ่ ใดกลมุ่ หนง่ึ หรอื สมยั หนงึ่ สามารถเปลย่ี นแปลง
ไดต้ ามสถานการณ์ เชน่ ลทั ธนิ าซที ฮ่ี ติ เลอร์ ผนู้ ำ� ของเยอรมนั ในสมยั สงครามโลกครง้ั ทส่ี องไดก้ อ่ ตง้ั ขน้ึ เพอ่ื
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42