Page 54 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 54

13-44 ความรทู้ างสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี ำ� หรับนกั นเิ ทศศาสตร์
รวมอยูด่ ว้ ย ผ้ทู น่ี บั ถือศาสนาอสิ ลามเรียกว่า มุสลมิ หมายถึง ผรู้ กั สันติ ชาวมุสลมิ เช่อื วา่ ศาสนาอสิ ลามมี
มาคกู่ บั โลกตงั้ แตม่ นษุ ยค์ แู่ รกคอื อาดมั กบั อฟี (อวี า) พระอัลเลาะห์ทรงสร้างโลกและสรรพส่ิง ทรงสร้าง
มนษุ ยพ์ รอ้ มทรงบญั ญตั สิ ง่ิ ทคี่ วรและไมค่ วรปฏบิ ตั ิ พระบญั ญตั คิ อื คำ� สอนของศาสนาอสิ ลามและพระนาม
ของศาสดาพยากรณ์ท่ีปรากฏในพระคัมภีร์มี 25 องค์ อาดัมเป็นศาสดาองค์แรกและพระนบีมูฮัมมัดเป็น
ศาสดาผนู้ �ำองค์สดุ ทา้ ย

       ชาวมสุ ลมิ เชอื่ วา่ ศาสนาอสิ ลามมพี ระบัญญัติครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดในสมัยพระนบีมูฮัมมัด
ซง่ึ เปน็ ผนู้ ำ� โองการของพระเจา้ มาเผยแผ่ สงั่ สอนและปฏบิ ตั ติ นเปน็ ตวั อยา่ ง ตอ่ มาสาวกของพระนบมี ฮู มั มดั
ไดร้ วบรวมคำ� สอนเป็นเลม่ เรียกวา่ คัมภีร์อลั กุรอาน ซึ่งชาวมสุ ลมิ จะดำ� เนินชีวิตตามแนวทางของคมั ภรี ์นี้
เป็นส�ำคัญ โดยถือว่าเป็นโองการที่พระอัลเลาะห์ประทานผ่านศาสดาผู้เป็นศาสนทูต ค�ำสอนของศาสนา
อิสลามนอกจากการเป็นบทบัญญัติทางศาสนาแล้วยังมีลักษณะการเป็นบทบัญญัติที่เป็นกฎหมายทาง
อาณาจกั รทเ่ี ปน็ กฎหมายแพง่ และอาญาดว้ ย คมั ภรี อ์ ัลกรุ อานจงึ เป็นธรรมนูญชีวิตของชาวมุสลมิ ทงั้ หมด
(ทองหล่อ วงษ์ธรรมา, 2551: 49)

       ศาสดานบมี ฮู มั มดั เกดิ ทเี่ มอื งเมกกะ ประเทศซาอดุ อี าระเบยี เมอ่ื พ.ศ. 1114 เนอ่ื งจากกำ� พรา้ บดิ า
มารดาแตว่ ยั เยาวจ์ งึ อยใู่ นความดแู ลของลงุ อบฎู อลบิ และไดต้ ดิ ตามไปคา้ ขายตา่ งแดน เมอ่ื อายไุ ด้ 25 ปไี ด้
แตง่ งานกับเศรษฐีนมี ่ายชาวเมืองเมกกะชอ่ื นางคอดยี ะห์ และมบี ตุ รชาย 2 คนหญิง 4 คน แตบ่ ตุ รชาย
ทงั้ หมดเสยี ชวี ิตตัง้ แต่เดก็ ท่านพยายามสร้างความสงบในสังคม มักจะไปทถี่ �้ำนอกเมอื ง “ถำ�้ ฮริ ออ”์ ซงึ่ ท่ี
นท่ี า่ นไดร้ บั โองการของพระเจา้ ผา่ นเทวทตู ยบิ รออีล เมอ่ื อายไุ ด้ 40 ปี จากนน้ั ท่านเริม่ ประกาศศาสนา ให้
ผู้คนเลิกนับถือบูชาเทพเจ้าทั้งหลายอันเป็นประเพณีของชาวอาหรับในขณะนั้น ท�ำให้มีผู้ต่อต้านและหา
หนทางก�ำจัดท่าน นบีมูฮัมมัดจึงหนีไปยังเมืองเมดินะฮ์ แปดปีต่อมานบีมูฮัมมัดได้รวบรวมผู้คนและกลับ
ไปยดึ เมกกะได้ มกี ารท�ำลายรูปเคารพและประกาศนิรโทษกรรมผู้หลงผิด นับจากน้นั ศาสนาอิศลามจึงได้
เรมิ่ เผยแผ่ไปยังทอ่ี ื่นๆ

       หลักค�ำสอนส�ำคัญของศาสนาอิสลาม
       ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์แบ่งออกเป็น 30 ภาค (ญุฮ์) 114 บท (ซูเราะห์) และ 6,000
โองการ (อายะห์) ก�ำหนดให้ชาวมสุ ลิมต้องมีศรทั ธาใน 6 ประการ คอื

            ประการทห่ี น่ึง ศรทั ธาในอลั เลาะห์ ดว้ ยการเอ่ยพระนามเสมอ อลั เลาะห์มีอยู่องค์เดยี ว ไม่
ทรงมบี ตุ รและไมท่ รงเป็นบตุ รของใครและไมม่ ีแบบอยา่ งใดๆ ที่ยกข้นึ มาเปรยี บเทียบ

            ประการทส่ี อง ศรทั ธาในเทวทตู เชอ่ื วา่ ทตู สวรรคม์ จี รงิ สรา้ งโดยอลั เลาะหม์ เี ปน็ จำ� นวนมาก
มชี ่ือและหน้าทตี่ ่างๆ กัน เชน่ ญบิ รออลั มีหนา้ ทนี่ �ำโองการของพระเจา้ มาสมู่ นุษย์ รกิบ-อตดิ้ ท�ำหน้าที่
บนั ทึกความด-ี ความชั่วของมนษุ ย์ เป็นตน้

            ประการทส่ี าม ศรทั ธาในคัมภีร์ เชื่อวา่ อัลเลาะหป์ ระทานคัมภรี ์มาแล้วจ�ำนวนมากแต่คัมภีร์
อลั กุรอานเป็นคัมภีรส์ ุดท้ายและมีความสมบรู ณท์ ่ีสดุ

            ประการท่สี ี่ ศรทั ธาในบรรดาศาสนทูต (นบ)ี
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59