Page 52 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 52
13-42 ความรู้ทางสังคมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีสำ� หรับนักนิเทศศาสตร์
หมวดที่สาม คอื หมวดประกาศก (Prophet หรือ Nebhiim) ประกาศกคือผทู้ พี่ ระเจา้ ทรงเลือก
ให้ทำ� หน้าที่เผยพระวาจาของพระเจา้ แกม่ นุษย์ทั่วๆ ไปให้ประพฤติตนถูกตามธรรมนองคลองธรรม คอื ให้
แสดงความศรทั ธาในพระเจา้ ดว้ ยความจรงิ ใจและประพฤตติ นในความยตุ ธิ รรม เมตตากรณุ า ประกาศกยงั
ท�ำหน้าท่ีวิพากษว์ จิ ารณ์สงั คมและทำ� นายเหตุการณส์ ำ� คญั ดว้ ย
คัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ซ่ึงเป็นส่วนที่ 2 (The New Testament) ประกอบด้วยหนังสือรวม
27 เลม่ เป็นบนั ทกึ ชีวติ และค�ำสอนของพระเยซู (ชชั ชัย คมุ้ ทวีพร, 2545: 401-402)
ผู้นับถือศาสนาคริสต์ (คริสตชน) ยึดหลักค�ำสอนในคัมภีร์ไบเบิลจะเน้นการรักษาบัญญัติ 10
ประการ ท่ีแสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งมนุษยก์ ับพระเจา้ และมนุษย์กบั มนุษย์ คอื
1. ไมม่ ีพระเจ้าอื่นใด
2. ไม่เอ่ยนามพระเจา้ โดยไมส่ มควร
3. จงระลึกถึงวนั ซับบาธ (วัน พัก ถือเป็นวันพกั ผอ่ น ใหท้ ำ� กิจกรรมที่เปน็ กศุ ล) และรกั ษาวนั นี้
ให้เปน็ วนั บริสทุ ธิ์
4. จงให้เกียรติแก่บดิ ามารดา
5. อย่าฆ่าคน
6. อย่าลว่ งละเมิดประเวณี
7. อยา่ ลักทรพั ย์
8. อยา่ เปน็ พยานเทจ็ ใสร่ า้ ยเพื่อนบา้ น
9. อย่าโลภครัวเรือนของเพอื่ นบา้ น
10. อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบา้ นหรอื โลภทาสทาสขี องเขา
จากการตีความพระคมั ภรี ์ คริสตชน เช่อื ว่า พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง รวมท้ังโลกและมนุษย์ แต่
มนษุ ยไ์ ดล้ ว่ งละเมดิ พระบญั ญตั ทิ ำ� ใหข้ าดความสมั พนั ธก์ บั พระเจา้ ตกอยใู่ นบาปเหน็ แกต่ วั เอารดั เอาเปรยี บ
ใช้แรงงานมนษุ ยจ์ งึ เกดิ การตอ่ สูแ้ ละสงคราม พระเจา้ ทรงรักมนุษย์และต้องการให้ส�ำนึกผดิ กลบั มาเปน็ คน
ชอบธรรม จงึ ทรงเลอื กชนเผา่ หนงึ่ ทจี่ ะเปน็ ผนู้ ำ� ความอยรู่ อด ผทู้ พี่ ระเจา้ ทรงเลอื กคอื อบั ราฮมั บรรพบรุ ษุ
ของชาวอสิ ราเอล (ชาวยวิ ) และเป็นจุดเริ่มตน้ ของพันธสัญญาเดมิ ทรงสนทนา ตักเตือน สงั่ สอน ลงโทษ
แตม่ นษุ ยม์ กั ทำ� ผดิ พระเจา้ ทรงประกาศเรยี กใหก้ ลบั ใจและรกั ษาพนั ธสญั ญาทใ่ี หไ้ วก้ บั พระองค์ เหตกุ ารณ์
ส�ำคัญคือชาวยิวถูกชาวอียิปต์ใช้แรงงานหนัก พระเจ้าทรงชี้ให้โมเสสน�ำชาวยิวอพยพไปสู่ดินแดนใหม่แต่
ชาวอียิปต์ไม่ยอม พระเจ้าทรงบันดาลให้เกิดทุภิกขภัยแก่ชาวอียิปต์นานัปการ เพ่ือให้ปลดปล่อยชาวยิว
วันแห่งอิสรภาพจึงถูกก�ำหนดเป็นวันส�ำคัญเรียกว่าการฉลองปัสกา (Pasqua) เมื่อส้ินโมเสส ชาวยิวต่าง
ลืมเลอื นค�ำสอนแต่เขาจ�ำได้ว่าพระเจา้ ทรงสัญญาว่าจะมผี นู้ �ำความรอดมาส่พู วกเขา และผนู้ ั้นคือพระเยซู
ดงั นน้ั โดยรวมแลว้ ครสิ ตชนจงึ มคี วามเชอ่ื สำ� คญั ในเรอื่ งของพระเจา้ เชอ่ื ในหลกั ตรเี อกานภุ าพ โดย
เช่ือในพระบิดา (พระเจ้า) พระบุตร (พระเยซู) และพระจิต (พระวิญญานบริสุทธ์ิของพระเจ้าท่ีเสด็จมา
ประทับในใจผเู้ ช่ือถือ) ว่าคอื พระเจ้าองค์เดียวกันแม้วา่ จะมพี ระนามและพระฐานะทีแ่ ตกตา่ งกัน ตลอดจน
มีความเช่อื ในหลักความรักต่อพระเจา้ และตอ่ เพ่ือนมนษุ ย์