Page 51 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 51
การว ิจัยป ระเมินผล 12-41
(1) โอกาสที่ผู้ให้สัมภาษณ์จะล้มเลิกการให้ข้อมูลก ลางค ันเกิดข ึ้นได้ง ่ายม าก เมื่อเปรียบเทียบก ับก าร
สัมภาษณ์ท ั่วไป
(2) ในป ระเทศท ี่ธ ุรกิจก ารค ้าอ าศัยโทรศัพท์เป็นเครื่องม ือในก ารข าย โดยอ ้างว ่าเป็นการ “สำ�รวจ” แต่
ที่จ ริงเป็นกลยุทธ์ในการข ายนั่นเอง การใช้โทรศัพท์เพื่อก ารนี้กันม าก ทำ�ให้เป็นที่เบื่อห น่ายของประชาชน ดังนั้นจึงมี
ผลให้ค นป ฏิเสธก ารส ำ�รวจทางโทรศัพท์ม ากขึ้น
(3) การท ี่ค นน ิยมใช้เครื่องต อบร ับโทรศัพท์ก ันม ากเพื่อ “กรอง” การร ับโทรศัพท์ อาจม ีส ่วนท ำ�ให้ก าร
สำ�รวจท างโทรศัพทท์ ำ�ไดไ้มส่ ะดวกบ ้าง แตผ่ ลก ารศ ึกษาในส หรัฐอเมริกาช ีใ้หเ้ห็นว ่าการใชเ้ครื่องต อบโทรศัพทย์ ังไมถ่ ึง
กับเป็นปัญหาสำ�คัญสำ�หรับการสำ�รวจทางโทรศัพท์
4. การใชเ้ วบ็ ไซต ์ ในย ุคท ีก่ ารใชค้ อมพิวเตอรแ์ พรห่ ลายอ ย่างเช่นในป ัจจุบัน การส ำ�รวจอ าจท ำ�ไดโ้ดยก ารใช้
เว็บไซต์ (website) ดังท ี่บ างสำ�นักโพลกระทำ�อยู่ การส ำ�รวจด้วยเว็บไซต์แตกต่างจ ากการเก็บร วบรวมข้อมูลว ิธีอื่นที่
วิธกี ารเสนอแ บบสอบถามต ่อผ ูต้ อบ กล่าวค ือ แทนทีจ่ ะใหพ้ นักงานส ัมภาษณม์ าส ัมภาษณแ์ ล้วจ ดบ ันทึกค ำ�ตอบไปห รือ
แทนที่จ ะส ่งแ บบสอบถามทางไปรษณีย์ ก็น ำ�เสนอแบบสอบถามทางเว็บไซต์เพื่อให้ผ ู้ท ี่ส นใจในป ระเด็นก ารส ำ�รวจได้ม ี
โอกาสร่วมแสดงค วามคิดเห็น หรือให้ค ำ�ตอบต่อแ บบสอบถามน ั้น ดังน ั้นในข ั้นเตรียมการ ผู้ป ระเมินจ ึงต ้องจ ัดส ร้าง
เว็บไซต์ขึ้นห ากย ังไม่มีเว็บไซต์เพื่อการน ี้ และต ้องส ร้างแบบสอบถามเพื่อนำ�เสนอในเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย
ในก ารด ำ�เนินก ารส ำ�รวจทางเว็บไซต์ ผู้ป ระเมินต้องน ำ�เสนอแบบสอบถามทางเว็บไซต์โดยกำ�หนดระยะเวลา
ช่วงหนึ่งเพื่อรับคำ�ตอบจากผู้ที่สนใจเมื่อได้รับคำ�ตอบเรียบร้อยแล้วก็ถึงขั้นการวิเคราะห์ผลต่อไป อย่างไรก็ตามมี
กลุ่มวิชาชีพหรือส มาคมบางแ ห่งที่ส ่งแ บบสอบถามม าให้สมาชิกตอบโดยผ่านทางอ ีเมล (e-mail) และข อให้ส มาชิกส ่ง
แบบสอบถามที่กรอกแ ล้วคืนทางอีเมล วิธีน ี้ก็ถ ือเป็นการสำ�รวจท างเว็บไซต์เช่นกัน
ขอ้ ดี ของก ารส ำ�รวจทางเว็บไซต์ คือ ประหยัดเงิน เวลา และกำ�ลังค น ผู้วิจัยสามารถท ำ�การส ำ�รวจได้ส ะดวก
แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำ�กัดที่ชัดเจนคือ ทำ�ได้ในวงจำ�กัดเฉพาะกลุ่มที่มีหรือเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ และโดยเฉพาะ
ผู้ที่สนใจประเด็นที่สำ�รวจเท่านั้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการสำ�รวจทางเว็บไซต์มีข้อจำ�กัดที่ก่อให้เกิดอคติอย่างชัดเจน
กล่าวค ือ มีก ารจ ำ�กัดผู้ต อบอ ย่างเห็นได้ช ัด
การควบคุมคุณภาพของข้อมูลจากการสำ�รวจทางเว็บไซต์ค่อนข้างทำ�ได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง
อัตราการตอบกลับในกรณีนำ�เสนอแบบสอบถามทางเว็บไซต์ทั่วไป หากเว็บไซต์นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
และแ บบสอบถามน ั้นถามเกี่ยวก ับประเด็นท ี่น ่าสนใจสำ�หรับสาธารณชนทั่วไป อัตราการต อบแบบสอบถามก ็จ ะส ูง ซึ่ง
อาจช่วยให้ได้ข้อมูลจากผู้ตอบมากขึ้น ส่วนการส่งแบบสอบถามทางอีเมลสำ�หรับสมาชิกกลุ่มวิชาชีพหรือสมาคมนั้น
อาจมีอัตราการตอบกลับสูงกว่า เนื่องจากผู้ตอบมีจุดสนใจหรือผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม แบบสอบถามที่
กระชับ และชัดเจน ซึ่งถามเกี่ยวกับประเด็นที่น่าสนใจย่อมมีผลในการกระตุ้นให้ผู้เปิดเว็บไซต์ตอบแบบสอบถามได้
สูงขึ้นอ ย่างแ น่นอน
5. การสังเกต ในการประเมิน การสังเกตเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มักจะใช้ประกอบกับวิธีการเก็บ
รวบรวมข้อมูลแ บบอื่นๆ การสังเกตมี 2 ลักษณะ ได้แก่
5.1 การส งั เกตป ระกอบก ารส �ำ รวจ การส ังเกตล ักษณะน ีม้ ักจ ะด ำ�เนินก ารเพื่อก ารแ สวงหาข ้อมูลม าเป็น
ส่วนป ระกอบในก ารท ีจ่ ะต อบป ัญหาก ารป ระเมิน โดยม ากม ักจ ะเป็นการส ังเกตโดยตรง เช่น การสังเกตส ภาพแ วดล้อม
ของชุมชนหรือวิถีชีวิตของแ หล่งข้อมูลท ี่ศึกษาหรือพฤติกรรมข องประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของ
งานประเมินแผนนั้น ๆ หลักการสำ�คัญในการสังเกตก็คือจะต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่าจะสังเกตปรากฏการณ์
หรือพฤติกรรมอะไร และการสังเกตนั้นควรจะเป็นระบบ คือมีการวางแผนการเตรียมการไว้อย่างครบถ้วน ฉะนั้น
ผู้สังเกตควรมีความรู้หรือคุ้นเคยกับปรากฏการณ์ที่สังเกตตามสมควร ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยสำ�รวจเรื่องการศึกษา