Page 40 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 40
14-30 การว ิจัยทางนิเทศศาสตร์
เร่ืองท่ี 14.2.5
การป ระยกุ ต์ใช้ผลก ารว จิ ัยการส่ือสารเพ่อื ก ารพ ฒั นา
ในก ารพ ฒั นาป ระเทศน ัน้ จ ำ�เปน็ ต อ้ งอ าศยั ก ารส ือ่ สารเปน็ ต ัวจ ักรส ำ�คญั ในก ารผ ลกั ด ันใหเ้กิดก ารเปลี่ยนแปลง
ในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการเกษตร สาธารณสุข การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และส ิ่งแวดล้อม ทั้งในร ะดับปัจเจกบุคคล
ไปจ นถึงร ะดับโครงสร้างข องอ งค์การต ่าง ๆ ในส ังคม นอกจากก ารส ื่อสารจ ะข ับเคลื่อนให้เกิดก ารพ ัฒนาแ ล้ว ในอ ีกม ิติ
การส ื่อสารย ังเป็นก ลไกส ำ�คัญในก ารโน้มน ้าวใหเ้กิดก ารย อมรับก ารพ ัฒนา ตลอดจ นส ื่อสารเพื่อส ร้างก ารม สี ่วนร ่วมใน
การพ ัฒนา แนวคิดเรื่องก ารส ื่อสารเพื่อก ารพ ัฒนาน ี้เป็นการผ สมผ สานร ะหว่าง 2 แนวคิด คือ (1) แนวคิดก ารพ ัฒนา ที่
เดิมเชื่อม ั่นท ี่จะใช้ก ารสื่อสารผลักด ันส ังคมไปส ู่ความทันสมัย จนม าถ ึงรูปแบบในปัจจุบันท ี่การพ ัฒนาเปลี่ยนร ูปแ บบ
ไปสู่การพัฒนาที่เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน (2) แนวคิดเรื่องการสื่อสาร ที่ใช้เป็นเครื่องมือหลักในการ
เผยแ พรว่ ธิ คี ดิ และเทคโนโลยเี พอ่ื น �ำ สงั คมไปส คู่ วามท นั ส มยั ในย คุ แ รก จนพ ฒั นาม าถ งึ ก ารส อื่ สารท ม่ี งุ่ เนน้ ก ารม สี ว่ นร ว่ ม
ของป ระชาชนเช่นเดียวกัน ดังน ั้นเมื่อก ล่าวถ ึงการส ื่อสารเพื่อก ารพ ัฒนาแ ล้ว จึงเป็นแ นวคิดท ี่น ำ�เอาห ลักก ารส ื่อสารม า
ประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะก่อประโยชน์สุขให้กับคนในสังคมจากเดิมที่เน้น
รูปแบบการสื่อสารจากรัฐสู่ท้องถิ่นหรือจากบนลงล่าง มาสู่แนวทางการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
จ ากภายในช ุมชนเอง ซึ่งก ารส ื่อสารเพื่อการพ ัฒนานั้น ต้องมีส่วนป ระกอบห ลากห ลายประการ สิ่งห นึ่งท ี่ข าดไม่ได้ คือ
ต้องมีจ ุดมุ่งหมายเพื่อช่วยส่งเสริมพ ัฒนาการความเจริญข องมนุษย์ในส ังคม อีกทั้งช่วยย กระดับค ุณภาพชีวิต พัฒนา
ทัศนคติ ความเชื่อ ค่าน ิยม และก ารเรียนร ู้ต ่าง ๆ อย่างถ ูกต ้อง กาญจนา แกว้ เทพ และค ณะ (2543) ไดศ้ กึ ษาป ระมวล
การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารเพื่อการพัฒนาชุมชนชนบทของไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จำ�แนกเป็นหมวดหมู่
ดังนี้
(1) การศึกษาสื่อมวลชน และก ารสื่อสารร ะหว่างบ ุคคลเพื่อการพัฒนาชนบท
(2) การศึกษาสื่อมวลชนเพื่อก ารพ ัฒนาช นบท
(3) การศ ึกษาส ื่อเฉพาะก ิจเพื่อการพ ัฒนาช นบท
(4) การศ ึกษาส ื่อพ ื้นบ ้านเพื่อการพัฒนาชนบท
จากการจัดจำ�แนกงานวิจัยออกเป็นกลุ่มการศึกษาต่าง ๆ ข้างต้น สามารถนำ�มาปรับเป็นแนวทางในการ
ประยุกต์ใช้เป็นแนวทางก ารใช้ผ ลการว ิจัยเพื่อก ารพ ัฒนาได้ ดังนี้
(1) การศกึ ษาส อ่ื บ คุ คลเพ่อื ก ารพ ัฒนา สื่อบุคคลนับเป็นส ื่อที่ม ีค วามส ำ�คัญต่อการพ ัฒนาอ ย่างย ิ่งโดยเฉพาะ
สังคมในชนบทที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ทางสังคมที่แนบแน่น กลุ่มผู้นำ�ทางความคิดในชุมชนเป็นกลุ่มที่มีบทบาท
สำ�คัญต่อการผลักดันการพัฒนาให้เกิดการยอมรับในหมู่ชาวบ้าน สื่อบุคคลเหล่านี้นอกจากแสดงบทบาทในฐานะ
ผู้นำ�ทางค วามค ิดส ่งผ่านข ้อมูลข ่าวสารก ารพัฒนาจ ากส ่วนกลางไปย ังช ุมชนแ ล้ว ยังมีบ ทบาทเป็นแหล่งข ้อมูลข่าวสาร
ที่สื่อสารระหว่างบุคคลกับชาวบ้านได้เลย ในการวิจัยนั้นผู้วิจัยอาจมุ่งศึกษาในตัวผู้ส่งสารในที่นี้คือ สื่อบุคคล ทั้งที่
เป็นบุคคลภายนอกชุมชน เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่จากองค์กรพัฒนาเอกชน นักการตลาด พ่อค้าเร่ ฯลฯ และ
สื่อบุคคลท ี่อาศัยภ ายในชุมชน เช่น ผู้นำ�ชุมชน พระสงฆ์ ผู้เฒ่าผู้แก่ โดยอาจกำ�หนดป ระเด็นศ ึกษาได้ด ังนี้
1) ศึกษาค ุณสมบัติของสื่อบ ุคคลท ี่เหมาะสมก ับส ื่อสารเพื่อก ารพัฒนาในบริบทต่าง ๆ
2) ศึกษาการแ สวงหาข ้อมูลข องสื่อบุคคลเพื่อการพัฒนา
3) ศึกษากลยุทธ์ในก ารส ื่อสารเพื่อการพัฒนาข องสื่อบ ุคคลในบ ริบทต่าง ๆ
4) ศึกษาบทบาทของส ื่อบุคคลท ี่ม ีต ่อก ารส ื่อสารเพื่อก ารพัฒนา