Page 19 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 19
แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัยนิเทศศาสตร์ 1-9
เรือ่ งที่ 1.1.3
ประเภทของการวจิ ยั นิเทศศาสตร์
การวิจัยนิเทศศาสตร์ นอกจากจะจัดแบ่งประเภทตามการวิจัยทางสังคมศาสตร์ทั่วไป โดยใช้เกณฑ์การ
แบ่งตามเป้าหมายของการวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย และแนวทางการวิจัยแล้ว ยังสามารถจัดแบ่งประเภทตาม
แนวคิดหลักทางนิเทศศาสตร์ โดยใช้เกณฑ์การแบ่งตามองค์ประกอบของการสื่อสาร และระดับของการสื่อสารได้
อีกด้วย ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. แบ่งตามเป้าหมายของการวิจัย แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่ (Cozby. 1994: 8-10 และสุรพงษ์ โสธนะเสถียร.
2545: 6)
1.1 การวจิ ยั พนื้ ฐาน (Basic Research) เปน็ การวจิ ยั โดยมเี ปา้ หมายเพือ่ ใหไ้ ดค้ วามรูท้ ีเ่ ปน็ พืน้ ฐานทางวชิ าการ
(Basic Knowledge) อันอาจกล่าวได้ว่า เป็นการค้นหาความรู้เพื่อความรู้ การวิจัยประเภทนี้จะช่วยสนองต่อความ
สนใจของนักวิชาการที่จะนำ�ความรู้ที่ค้นพบไปขยายการศึกษาเพื่อแสวงหาความรู้ที่ลึกซึ้งขึ้นต่อไป หรือเป็นการวิจัย
เพื่อสร้าง ปรับ หรือทดสอบทฤษฎี
1.2 การวิจัยประยุกต์ (Applied Research) เป็นการวิจัยโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ความรู้ในเชิงประยุกต์
(Applied Knowledge) หรือหวังผลในการนำ�ความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติ การวิจัยประเภทนี้มักสนองต่อความต้องการของ
นักวิชาชีพในการนำ�ความรู้ที่ได้ไปใช้ในการทำ�งาน
2. แบ่งตามวตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่ (De Vaus. 2001: 1-2)
2.1 การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เป็นการวิจัยเพื่อตอบคำ�ถามว่า “ปรากฏการณ์ที่สนใจ
คืออะไร” หรือเป็นการพรรณนาหรือทำ�ความเข้าใจปรากฏการณ์ที่สนใจเท่านั้น โดยไม่มีการศึกษาว่า ปรากฏการณ์นั้น
อธบิ ายไดด้ ว้ ยอะไร หรอื ปรากฏการณน์ ัน้ จะไปอธบิ ายหรอื ท�ำ ใหเ้ กดิ อะไรตอ่ ไป เชน่ การวจิ ยั ทีม่ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ ศกึ ษา
พฤติกรรมการเล่นเกมออนไลน์ของเด็กเท่านั้น โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะทราบถึง ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการ
เล่นเกมออนไลน์ของเด็ก หรือพฤติกรรมการเล่นเกมออนไลน์จะทำ�ให้เกิดปรากฏการณ์ใดกับเด็กต่อไป เป็นต้น
2.2 การวจิ ยั เชงิ อธบิ าย (Explanatory Research) เป็นการวิจัยเพื่อตอบคำ�ถามว่า “ทำ�ไมจึงเกิดปรากฏการณ์
ที่สนใจขึ้น” หรือเป็นการค้นหาสาเหตุมาอธิบายปรากฏการณ์ที่สนใจ หรือเป็นการค้นหาว่า ปรากฏการณ์ที่สนใจนั้น
จะไปอธิบายหรือทำ�ให้เกิดปรากฏการณ์ใดต่อไป เช่น การวิจัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรม
การเลน่ เกมออนไลนข์ องเดก็ ซึง่ ผลการวจิ ยั อาจพบวา่ การสือ่ สารในครอบครวั มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการเลน่ เกมออนไลน์
ของเดก็ หรอื การวจิ ยั ทีม่ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมการเลน่ เกมออนไลนก์ บั ความกา้ วรา้ ว
ของเด็ก ซึ่งผลการวิจัยอาจพบว่า ยิ่งเด็กเล่นเกมออนไลน์มาก ยิ่งทำ�ให้เด็กมีความก้าวร้าวเพิ่มขึ้น เป็นต้น
3. แบ่งตามแนวทางการวิจยั แบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่ (Creswell. 2009: 12-15)
3.1 การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Research) เป็นการวิจัยที่ใช้แนวทางการวิจัยด้วยวิธีการแบบศาสตร์
ซึ่งถือว่า ปรากฏการณ์ต่าง ๆ สามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขได้ โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การให้นิยามเชิงปฏิบัติ