Page 20 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 20

13-10 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ

อนญุ าตเ​ลน่ อ​ ะไรด​ ว้ ยน​ ดิ น​ งึ ไ​ดไ​้ หม โดยบ​ อกเ​ขาว​ า่ มภ​ี าษาไ​ทยท​ ฟี​่ งั ย​ าก พดู ย​ ากอ​ ยู่ 3-4 ตวั คอื มวย (Boxing),
ห​มวย (Chinese girl), สวย (beautiful), ซวย (unlucky) แล้ว​ผม​ก็​ให้​นาย Carlton แปล​ภาษา​ไทย 3-4
ประโยค ต่อ​ไป​นี้ สลับ​ไป​สลับ​มา คือ ห​มวย​สวย​มาก - ห​มวย​ซวย​มาก - มวย​สวย​มาก - และ​มวย​ซวย​มาก
ถาม​ไป 2-3 ทีเ​ท่านั้นแ​ หละค​ รับ Mr. Carlton ใบ้​รับ​ประทาน​เลย​ละค​ รับ นี่ข​ นาด​เก่ง ๆ กำ�ลังจ​ ะ​ได้ส​ าว​ไทยไ​ป​
เป็น​เมีย​นะ แต่​ที่​ผม​ต้องการส​ รุป​จากน​ ิทานเ​รื่อง​นี้​ก็​คือ​ว่า ต่อ​ให้​พูด​ไม่​ค่อยร​ ู้​เรื่อง ก็​ยัง​ได้​เรื่อง ขอ​ให้​ขยัน​พูด​
หน่อย​แล้วก​ ันใ​นก​ รณี​นี้​คือ ได้​เมีย ฉะนั้น ภาษาอ​ ังกฤษ​ก็​ไม่​ได้​น่า​กลัว​อะไรน​ ักหนา

การ​ใช้​ภาษา​ผิด ๆ ถูก ๆ นี้ เกิด​กับ​ทุก​คน​ที่​เรียน​รู้​ภาษา​ของ​คน​อื่น มี​อยู่​ครั้ง​นึง ผม​นั่ง​เครื่อง​การบินไทย​จาก​
กรุงเทพฯ ไปโ​ตเกียว เขาจ​ ้าง​สาว​ญี่ปุ่น​เป็นแ​ อร์โ​ฮสเตส คงก​ ะจ​ ะใ​ห้เ​สิร์ฟน​ ักท​ ่องเ​ที่ยวช​ าวญ​ ี่ปุ่น​ที่มา​เที่ยวเ​มือง​
ไทย ขณะ​ที่​เธอ​กำ�ลังเ​สิร์ฟอ​ าหารแ​ ละเ​ครื่อง​ดื่ม 2-3 แถว ก่อน​ที่จ​ ะถ​ ึงที่น​ ั่ง​ของผ​ ม ผม​ได้ยิน​เธอถ​ าม​ผู้​โดยสาร​
เป็นค​ ำ�​ไทยส​ ำ�เนียงญ​ ี่ปุ่นว​ ่า “เอาก​ าแฟ​ไหมค​ ะ“ ผมน​ ึกใ​น​ใจว​ ่า trainer ของ​เธอ น่า​จะจ​ ับ​เธอไ​ป​อบรม​ซะใ​หม่
เพราะ​คำ�​ว่า “เอา” ใช้​ควบก​ ับค​ ำ�​ว่า “กาแฟ” ไม่ค​ ่อยจ​ ะส​ ุภาพ​นัก แต่พ​ อ​เธอ​มาถ​ ึงผ​ ม เธอต​ ัดค​ ำ�​หลังอ​ อก แล้ว​
ถาม​สั้น ๆ ว่า “เอาไ​หมค​ ะ” และเ​พื่อ​ให้ภ​ าษา​มีค​ วามส​ อดคล้องก​ ลมกลืน​กัน ผมก​ ็เ​ลยต​ อบ​เธอ ว่า “เอา​ครับ”
แล้วก​ ็ได้เ​อา​กาแฟ​อร่อย ๆ มา​กินห​ นึ่ง​แก้ว

ผม​อยาก​จะ​สรุปว​ ่า  เมื่อ​มี​การใ​ช้​ภาษา ก็​ต้องม​ ี​การ​ใช้​ผิด ๆ ถูก ๆ ปน ๆ กันไ​ป​เป็นธ​ รรมดา ซึ่งส​ ำ�หรับ​ผมแ​ ล้ว​
ถือเ​ป็นค​ วามเ​พลิดเพลินอ​ ย่าง​หนึ่ง อีกค​ รั้งน​ ึง ผมไ​ป​ฮานอย ถึงม​ ื้อ​กลางว​ ัน แวะเ​ข้าร​ ้านอ​ าหาร​ข้าง​ทาง ทั้งร​ ้าน​
ไม่มีใ​ครพ​ ูดภ​ าษาอ​ ังกฤษไ​ดแ้​ ม้แตค่​ นเ​ดียว ถามห​ าเ​มนกู​ ม็​ แี​ ตภ่​ าษาเ​วียดนาม ด้วยเ​หตทุ​ ีผ่​ มเ​ป็นค​ นก​ ินย​ าก เลย​
ไม่อ​ ยากส​ ั่ง​อะไรส​ ุ่มส​ ี่​สุ่ม​ห้า กะ​จะ​กินข​ ้าวร​ าด​ไข่​เจียว​เท่านั้นแ​ หละ​ครับ แต่ค​ ุณเ​อ๊ย เป็นม​ ื้อ​ข้าวไ​ข่เ​จียวท​ ี่​สั่ง​ได้​
ยาก​ทุรกันดาร​ที่สุด เพราะ​ยัง​ไง ๆ พี่​แก​ก็​ไม่​ยอม​รู้​เรื่อง แม้ว่า​จะ​ใช้​ภาษา​มือ ขยับ​เป็น​วง​รอบ 360 องศา​แล้ว​
ก็ตาม โชคด​ ี​ครับ ผม​เหลือบไ​ป​เห็นเ​มนู​เก่า ๆ เล่มน​ ึง วาง​อยู่บ​ น​โต๊ะ​ใกล้ ๆ หยิบม​ า​ดู อ๊ะ มีภ​ าษาอ​ ังกฤษ​ด้วย
แต่​ก็​เป็นภ​ าษาอ​ ังกฤษ​ที่​เขียนต​ าม​คำ�​อ่าน​ภาษาเ​วียดนาม โอ๊ย วัน​นี้จ​ ะ​ได้ก​ ิน​มั้ยเนี่​ยะ แต่​เอ๊ะ มีค​ ำ�​ว่า “boiled
rice” ให้เ​ห็น ผมพ​ ยายามท​ ีจ่​ ะส​ ั่ง “steamed rice” เพราะอ​ ยากก​ ินข​ ้าวส​ วย ไม่ใช่ข​ ้าวต้ม แต่ก​ อ็​ ีหรอบเ​ดิม พูด​
ยังไ​ง ๆ ก็ไ​ม่รู้​เรื่อง เลยน​ ึก​ในใ​จว​ ่า เอา​วะ “boiled rice” ก็ได้​วะ สัก​เดี๋ยว​นึง เขา​ก็ย​ กอ​ าหาร​มา​เสิร์ฟ ปรากฏ​
ว่า​เป็น​ข้าว​สวย​ครับ ไม่ใช่​เป็น​ข้าวต้ม​อย่าง​ที่​คิด ผม​ไม่​ได้​นึก​หงุดหงิด​อะไร​เลย เพราะ​อย่าง​น้อย ก็​มี​เรื่อง​เก็บ​
มาเ​ล่าใ​ห้​เพื่อน​ที่​บ้านฟ​ ัง​เล่น

มี​อีก​ตัวอย่าง​หน่ึง​ที่​แสดง​ว่า​โดย​ทั่วไป​แล้ว การ​เรียน​ภาษา​เป็น​เร่ือง​ที่ “ต้อง​ลอง​ผิด​ก่อน​ลอง​ถูก” จะ​ให้​ทำ�​ถูก​
โดย​ไม่​เคย​ทำ�​ผิด มัน​ออก​จะ​อัจฉริยะ​เกิน​ไป​หน่อย และ​ถ้า​กลัว​เกิน​ไป ไม่​กล้า​ใช้​ภาษาเพราะ​กลัว​ทำ�​ผิด ก็​จะ​
ไม่มีว​ ัน​ได้​ทำ�​อะไร ไม่ว​ ่า​จะ​ถูก​หรือผ​ ิด มัน​ออกจ​ ะเ​ศร้า​ไป​หน่อย​นะช​ ีวิต​แบบนี้ มัน​คล้ายก​ ับ​คำ�​พูดท​ ี่​ว่า “อกหัก​
ดีก​ ว่าร​ ัก​ไม่เ​ป็น “ เอ๊ะ​นี่​มันค​ นละ​เรื่อง​เดียวกันห​ รือเ​ปล่าน​ ะเ​นี่​ยะ

หลายว​ นั ก​ อ่ นผ​ มก​ ลบั ไ​ ปเ​ยย่ี มแ​ มท​่ ต​ี่ า่ งจ​ งั หวดั   แม่ผ​ มม​ รี​ ้านข​ ายข​ องชำ� มี​พม่าม​ าเ​ป็นล​ ูกค้าอ​ ยู่ห​ ลายค​ น วัน​หนึ่ง
มี​พม่า​คน​หนึ่ง​มา​ซื้อ​นํ้าตาล​ทราย พูด​กัน​ไม่รู้​เรื่อง​ครับ ต้องหา​กัน​อยู่​นาน​ที​เดียว กว่า​จะ​เจอ​ถุง​นํ้าตาล​ทราย​ที่​
มิสเตอร์​หม่อง​แก​ต้องการ พอ​เจอ​ปุ๊บ แม่​ผม​ถึง​กับ​โพล่ง​ออก​มา​ว่า “อ๋อ ไอ้​นี่เอง” วัน​หลัง มี​พม่า​อีก​คน​หนึ่ง
มา​ซื้อ​ของ​ที่​ร้าน แล้ว​ก็​พูด​กัน​ไม่รู้​เรื่อง​อีก แต่​ก่อน​ที่​จะ​เกิด​เหตุการณ์​ให้​แม่​ผม​ต้อง​เหนื่อย​เหมือน​อีหรอบ​เดิม
มิสเตอร์ห​ ม่องค​ นแ​ รกก​ ็​เดิน​เข้าม​ าใ​นร​ ้าน แล้วก​ ็​บังเอิญ​ที่ม​ ิสเตอร์​หม่องค​ น​ที่​สองน​ ี่ก​ ็จ​ ะซ​ ื้อ​นํ้าตาลท​ รายเ​หมือน​
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25