Page 19 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 19
Case Studies: Professional Experience in English 13-9
สมยั เรียนภ าษาในโรงเรียนชั้นประถม ช้ันม ัธยม ผมก็ไม่ต่างจากคนรุ่นเดียวกัน พูดง ่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้เก่งก ว่า
ชาวบ ้าน แต่ท ่ีต่างจากเพ่ือนหลาย ๆ คนร่วมห ้อง ก็คือ ผมไม่ได้เรียนภาษาอ ังกฤษอย่างทุกข์ท รมาน ไม่ว่าผ ม
จะได้เกรด A, B, C หรือ D แถมยังมีความเพลิดเพลินในการเรียนอีกต่างหาก ด้วยความรักดังกล่าว ผมจึง
ไม่รู้ส ึกอ าย เม่ือใช้ภ าษาอ ังกฤษอ ย่างผ ิด ๆ บ่อย ๆ ผมข อย กเหตุการณ์บ างอ ย่างม าเล่าให้ฟ ัง ข้างล ่างน ี้นะค รับ
มีครั้งนึง ผมไปสัมมนาท่ีพัทยา มีหลายชาติเข้าร่วมสัมมนา ผมก�ำลังมองหาห้องสัมมนาชื่อ Terrace พอเดิน
ไปที่เคาน์เตอร์ ก็พูดชื่อห้องออกไป เขาช้ีบอกทางไปทางด้านหนึ่งของชั้นนั้น ผมเดินไปจนสุดทาง พบห้อง ๆ
หนึ่ง หน้าห ้องเขียนได้ด ้วยภาษาอ ังกฤษว ่า Toilet ผมค ิดในใจว ่า “เอาวะ ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว” ก็เลยเข้าไปท�ำ
ธุระใน Toilet เสียหน่ึงคร้ัง ขณะท่ีนั่งก็นึกร�ำพึงในใจว่า การออกเสียงภาษาอังกฤษของเรานี่ มันแย่ขนาดน้ี
เชียวร ึ
ชีวติ การง านบงั คบั ใหผ้ มตอ้ งใชภ้ าษาองั กฤษ ท้ัง ๆ ที่ท ักษะภาษาอังกฤษก ็อย่างง้ัน ๆ แหละครับ มีอ ยู่ครั้งห นึ่ง
ผมร่วมเดินทางกับคณะไปแ ข่งขันฝีมือแรงงานเยาวชนท่ีป ระเทศแคนาดา เขาใช้ให้ผมไปซ ้ือด ินน้ํามันท่ีเยาวชน
ไทยคนหนึ่งต้องเอามาใช้ประกอบการแข่งขันช่างอัญมณี โชคร้ายจริง ๆ ย่านที่ผมไปหาซ้ือดินนํ้ามัน มีแต่คน
พดู ฝรง่ั เศส ผมอธบิ ายแทบตายดว้ ยภาษาองั กฤษอนั จ�ำกดั ทมี่ อี ยู่ กวา่ จะท�ำใหเ้ จา้ ของรา้ นรวู้ า่ ผมตอ้ งการดนิ -นา้ํ
มัน ซ่ึงตอนน้ันผมไม่รู้ด ้วยซ ้ําว่าภาษาอังกฤษมันเรียกว่าอะไร (ตอนน้ีจ �ำได้แ ล้วว่า มันเรียกว่า plasticine) พูด
นานทีเดียวจนเม่ือยมือและเม่ือยปาก แต่ก็ส�ำเร็จครับ โดยเจ้าของร้านตอบว่า “อ๋อ เข้าใจแล้วครับ แต่ร้านเรา
ไม่มีข าย” และเขาก ็พยายามบ อกให้ผมไปซ ้ือท่ีอีกร ้านหนึ่งซึ่งต้องเดินไปอ ีกประมาณ 200 เมตร เมื่อเดินไปถึง
ร้านท ่ีสองน้ีผ มไม่ล�ำบากแล้วครับ เพราะผ มเพียงย ื่นแผ่นกระดาษท ี่เขียนค �ำว ่า plasticine เท่าน้ันเอง ส�ำหรับ
คนตัวเล็ก ๆ อย่างผม การซื้อดินน้ํามันได้ส�ำเร็จคร้ังนี้เก็บเอามาเป็นความภูมิใจเงียบ ๆ ได้หลายวัน
ทีเดียว และผมยังได้ข้อสรุปอีกว่า การจะสื่อสารให้ส�ำเร็จ ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ภาษาท่ีพูดเปล่งเสียงออกไปทาง
ปากเท่าน้ัน แต่ท �ำย ังไงก็ได้ ท่ีท �ำให้ค นท่ีเราพูดด้วยรู้เรื่อง
และจริง ๆ แล้ว การท�ำอะไรผิด ๆ พลาด ๆ ไปบ้าง ก็อาจจะดีเหมือนกัน มีอีกคร้ังหนึ่ง ผมไปที่เยอรมัน ก�ำลัง
มองห าห ้องน้ํา พอเดินไปพ บก็ม ีอยู่สองห ้องต ิดก ัน ห้องหน่ึงม ีป้ายเขียนว ่า Herr อีกห้องหน่ึงเขียนว่า Damen
ผมนึกในใจตามประสาคนไม่รู้ Herr น่ีมันคล้าย ๆ กับ Her คงจะเป็นห้องนํ้าผู้หญิงละมั้ง ส่วน Damen น่า
จะเป็นห ้องน้ําผู้ชาย เพราะม ีค�ำว ่า men ขณะท ่ีผ มก �ำลังจ ะเดินเข้าไปใน damen กม็ ี woman คนห นึ่งเดินส วน
ออกม า ผมเลยช ะงัก และหลังจ ากน ้ันก็ไม่เคยเข้าห ้องนํ้าผิดอ ีกเลยที่เยอรมัน
ไมใ่ ชเ้ พยี งแ คผ่ มเทา่ นนั้ ครบั ทท่ี �ำอะไรเฉมิ่ ๆ อยา่ งน้ี เพื่อนของผมห รือค นที่ผ มร ู้จักหลายค น ก็ท �ำผ ิดคล้ายก ัน
น่ันแหละ มีเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง ไปเยอรมันด้วยกัน หมอนี่เข้าไปที่ร้านแมคโดนัลด์ แต่ก็ไปตั้งนานกว่า
จะก ลับมา ผมถามว่า ท�ำไมไปนานนัก เขาต อบว่า พูดก ับค นข ายไม่รู้เรื่อง พูดตั้งหลายค รั้งว่าข อซ้อส ก็ไม่ย อม
หยิบซ้อสให้ ดันช้ีไปที่กระปุกเกลือ ผมถามว่า แล้วแกบอกเขาว่ายังไงล่ะ ไหนพูดภาษาอังกฤษให้ฟังซิ
ไม่น่าสงสัยเลยครับ เพราะแกออกเสียงค�ำว ่า sauce ฟังเหมือน salt มากกว่า แต่ถึงยังไงผมก็ต้องชมเพื่อน
คนนี้ว่า แม้จะพ ูดผิด แต่ก็ยังได้ซ ้อสม าก ิน ไม่เสียเชิงพี่ไทยท ่ีลุยไปในต ่างแดน
แต่อย่าว ่าอยา่ งน ้นั อ ยา่ งนี้เลยครับ ผมไปเจอฝรั่งคนห นึ่ง อยู่เมืองไทยมาหลายปี แถมจีบสาวไทย จะขอไปอ ยู่
กินที่สหรัฐด้วยซ้ำ� เพื่อน ๆ บอกว่า Mr. Carlton คนนี้พูดภาษาไทยเก่งมาก ฟังรู้เรื่องหมด ผมบอกว่า ขอ