Page 15 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 15
Case Studies: Professional Experience in English 13-5
เกี่ยวกับภาษีซํ้าซ้อนประเทศล่าสุดคือสหรัฐอเมริกา ซ่ึงการท�ำต รงนั้นจะต้องมีความรู้ภ าษาอังกฤษท่ีดีถึงจ ะม า
ท�ำอ นุสัญญาซํ้าซ้อนได้ถึงจะมาน่ังโต๊ะเจรจากับฝรั่งซ่ึงเขามีความรู้ทางกฎหมายดี และต้องมีความรู้ทางบัญชี
พอสมควร ถึงจะเจรจาทางน้ีได้และเป้าหมายในชีวิตผมไม่คิดจะรับราชการจนเกษียณ เพราะผมมารับราชการ
เมื่ออายุ 34 ปีถึงจะสอบบรรจุ มันค่อนข้างจะช้า ในโลกปัจจุบันนี้การค้าขายมันมีบทบาทที่ส�ำคัญ เราต้องการ
ท่ีจ ะสร้างต ัวขึ้นม าเพ่ือให้ม ีฐ านะข ้ึนม า ไม่ถึงก ับร ํ่ารวยแต่ให้ใช้จ ่ายได้คล่องม ือ ก็ต้องม าอ ยู่ในส ายธุรกิจ ซึ่งเรา
สามารถจะท �ำได้แม้จะอ ายุ 60 ไปแล้ว เพราะร่างกายของเรานี่ เราดูแลรักษา สุขภาพดี เป้าหมายจึงอยู่ที่ว่าต้อง
รู้ภาษาอังกฤษท่ีดี ถึงจะสามารถที่จะให้ consult consultant คือให้ค�ำป รึกษาชาวต่างประเทศที่เข้ามาลงทุน
ภาษาอังกฤษต้องดีมาก ๆ และต้องเป็นภาษาอังกฤษกฎหมายที่ดีด้วย ถึงจะให้ consultant เขาได้และต้องมี
ความรู้ทางด้านบัญชีท่ีดีด้วยถึงจะให้ค�ำปรึกษาทางด้านการลงทุนและต้องรู้กฎหมายที่เก่งมากทั้ง
taxation ท้ังกฎหมายการลงทุนระหว่างประเทศ และท่ีส�ำคัญก็คือ ต้องรู้ร ะบบกฎหมายของต่างประเทศด้วย
ถึงจะให้ consultant ได้ ไม่อย่างน้ัน ไม่มีทางเลย และจะรู้กฎหมายของต่างประเทศได้ ภาษาอังกฤษต้อง
แตกฉาน ต้องแตกฉานม าก ๆ ด้วย ไม่ใช่แ ตกฉานธรรมดา สามารถอ่าน text book ของต ่างประเทศได้ ต้อง
ดูหลักสูตรของ University of London ว่าปริญญาโทเขาเรียนวิชาอะไรบ้าง ไม่ได้ไปเรียนไม่เป็นไร เราส่ัง
หนังสือม าอ่านโดยเอารากฐานก ฎหมายไทยน่ี เพราะกฎหมายไทยหลาย ๆ ตัวมีพื้นฐานกฎหมายต ่างประเทศ
ไม่ว่ากฎหมายซ้ือข ายก็ดี กฎหมายท่ีเกี่ยวกับก ารลงทุนก็ดี เรามีอนุสัญญาภาษีซ�้ำซ้อนที่ผ มพูดถึง เพราะฉะนั้น
ผมอยากจะเข้าไปอยู่ตรงน้ันด้วยเหตุนี้ น่ีคือเป้าหมายการเรียนภาษาอังกฤษอันน้ี จริง ๆ แล้วรหัสประจ�ำต ัว
ของผมคือรหัสของคณะบริหารธุรกิจ ผมลงกฎหมายธุรกิจไปแล้วเกิดความคิดข้ึนมาว่ามันจ�ำเป็นต้องเรียน
ภาษาอังกฤษ แล้วก ็เรียนภ าษาอังกฤษให้เก่งไปก่อน แล้วถ ึงจ ะมาเรียนบ ริหารธุรกิจของ มสธ. อีกค รั้งห น่ึง ให้
เป็นร ากฐาน เพราะตัวน ้ันม ันเป็นภาษาไทย เราอ ่านเอาเองเราก ็อ่านได้ พอเป็นพ้ืนฐ านเราก ็อ่านได้ ผมย ังคิดว่า
ถ้าจบป ริญญาของ มสธ. ไปแ ล้ว ผมว ่าย ังไม่พ อ อย่างน้อยต้องไป intensive ที่ต ่างประเทศ 6 เดือนห รือ 1 ปี
ถึงพอที่จะพูดได้คล่อง เพราะในชีวิตประจ�ำว ันเราอยู่ในประเทศไทย เราแทบจะไม่ได้ใช้เลย เว้นแต่จะไปเป็น
ไกด์ เด๋ียวนี้จ ะเป็นไกด์เถ่ือนไม่ได้ต้องผ่านการสอบ ท่ีน้ีร ากฐานภาษาอังกฤษของผมค ่อนข้างอ่อน อ่อนมาก ๆ
เพราะบ ้านเกิดข องผ มอ ยู่ต่างจ ังหวัด ผมเรียนมาม ันไม่มีสิ่งก ระตุ้นม าต ั้งแต่เด็ก ๆ ชีวิตในวัยเด็กเราก็คิดอ ย่าง
หน่ึง พอม ีชีวิตในว ันน ี้เราค ิดไม่เหมือนเด็ก เราก ็คิดถึงเป้าห มาย คิดถึงอนาคต แต่รากฐานของเราที่สร้างสมมา
มันเป็นร ากฐานท ่ีค ่อนข ้างอ่อน ผมเลยเจอปัญหามากในก ารเรียนภ าษาอังกฤษ แตกต่างจ ากคนอื่น ๆ ส่ิงท ี่ผม
อยากมากท ี่สุดในภ าษาอ ังกฤษค ือ ถ้าผ มสามารถเข้า class ได้ท ุกส ัปดาห์ ทั้งเสาร์และอ าทิตย์ได้ผ มจะด ีใจมาก
ๆ เลย ท่ีเคยเรียนก ับท่านอ าจารย์ ท่านรองศาสตราจารย์ที่เสาร์ที่แล้ว มันท �ำความเข้าใจได้ลึกซ้ึงม าก จากการ
ท่ีเราอ่าน ๆ มา พอได้ฟังอ่านพูดน่ี ผมรู้สึกว่าผมตามทันหมดเลย แต่ class เขาจะตามทันหรือเปล่าผมไม่รู้
แต่ผ มรู้สึกว ่าต ามทัน เพียงแ ต่เร็วม าก ก็เลยเกิดค วามคิดข ึ้นม าว ่า ถ้าส ามารถจัดได้ท ุกเสาร์ทุกอาทิตย์ โดยให้
นักศึกษาต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มผ มก ็ไม่มีปัญหา เพราะผมคิดว ่าการล งทุนท างการศ ึกษาเสียเท่าไหร่ก ็เท่ากัน ดี
กว่าไปกินเหล้า ดีกว่าสูบบุหรี่ ดีกว่าไปเท่ียวคลับไปเที่ยวบาร์ การลงทุนทางด้านการศึกษาจะเป็นการลงทุนที่
จะมีผ ลต่อไปอนาคต เท่าไหร่เท่าก ัน ผมไม่ก ลัว เพราะผ มไม่มีภาระอะไร ผมเป็นค นโสด ถ้าเสียค่าใช้จ ่ายเพิ่ม
ผมย ินดี แต่ถ ้าคนเดียวอาจารย์ก็คงไม่จ ัดแ น่นอน ต้องหาหลาย ๆ คนขึ้นไป...
อีกจุดห นึ่งท ี่ผมประสบมา ตัวผมนะจ ากก ารอ่านตำ�รา มสธ. นี่ คนอ ื่นอาจจ ะประสบไม่เหมือนผมก ็ได้
เพราะผ มเรียนอาจารย์ไว้ว่า ผมอ่อนภาษาอ ังกฤษมาก ๆ คืออยากให้ท ำ�ซักเล่มห นึ่ง หนังสืออีกเล่ม เป็น อยาก
