Page 26 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 26
15-14 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
1.2 จารีต ประเพณี (mores) จารีตและประเพณีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผูกพันทางสังคมที่มีความสำ�คัญ
หรือมผี ูบ้ ังคับในก ารไมถ่ ือป ฏิบัตนิ ้อยก ว่าก ฎหมาย ระเบียบ ข้อบ ังคบั แตก่ ย็ ังเป็นเครื่องท ีจ่ ะใชก้ ำ�กับพ ฤติกรรมในก าร
ดำ�รงชีพของมนุษย์ในสังคมอยู่ จารีตประเพณีนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สังคมนั้นๆ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อยึดถือปฏิบัติ
ในสังคมน ั้น และผ ู้ใดไม่ป ฏิบัติต ามก ็จ ะต ้องถ ูกส ังคมป ระฌ ามห รือล งโทษ สิ่งเหล่าน ี้ได้แก่ ข้อห ้ามต ่างๆ ในส ังคมไทย
เช่นเป็นที่ยอมรับนับถือกันว่าบุตรและธิดาต้องให้ความเคารพต่อบิดามารดา หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามสังคมย่อม
ประฌามและลงโทษ ดังนี้เป็นต้น
1.3 วิถีประชา (folkways) วิถีประชานั้นเป็นเสมือนวิถีทางแห่งการดำ�รงชีพของประชาชนในสังคมนั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งวิถีประชาก็คือ แนวทางที่กำ�กับสัมพันธภาพของบุคคลในสังคมนั้น มีข้อที่น่าสังเกตว่าวิถีประชานี้
มักจ ะเป็นเรื่องท ี่อ าจย ึดถือป ฏิบัติเคร่งครัด หรือผ ่อนค ลายได้ในก ลุ่มข องส ังคมเล็กๆ แต่โดยท ั่วไปแ ล้วอ าจถ ือป ฏิบัติ
เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น มารยาทในการรับประทานอาหารนิยมใช้รับประทานด้วยช้อนมากกว่าใช้มือ แต่ในสังคม
บางแห่งอาจใช้เพียงช้อนอย่างเดียว และในบางสังคมอาจใช้ช้อนกับส้อม และ/หรือในบางสังคมอาจใช้ทั้งช้อนส้อม
ช้อนกลาง หรือมีดประกอบกันด้วยก็ได้ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มชนของสังคมนั้น หากแต่สรุปได้ว่า
ในสังคมนั้นยึดถือเอาการรับประทานอาหารโดยใช้ช้อนเป็นสิ่งที่ดีงาม หากบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามเช่นนั้นก็อาจ
ถูกตำ�หนิต ิเตียนได้
ปทัสถานทางส ังคม มีประโยชน์ด ้านท ี่เกี่ยวกับก ารบ ริหารในแ ง่ท ี่เกี่ยวก ับทำ�ให้ส ามารถศึกษา และพ ยากรณ์
พฤติกรรมของบุคคลในสังคมใดสังคมหนึ่งได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการบริหารงานขององค์การ ที่ตั้งอยู่ใน
ท้องถิ่นห รือสังคมน ั้นเป็นอ ย่างมาก
ในทางว ิชามนุษยสัมพันธ์ได้ให้ความส ำ�คัญก ับป ทัสถ านทางสังคมข องก ลุ่ม (social norm) มาก และป ักใจ
เชื่อว่าประสิทธิภาพและประมาณงานของคนมิได้ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนหรือกฎเกณฑ์ที่องค์การตั้งขึ้นแต่อย่างใด
เราพอจ ะพ บเห็นป ทัสถ านทางสังคมกลุ่มบ างล ักษณะดังนี้
(1) คนงานคนใดก็ตามที่ทำ�งานมากกว่า proper day’s work จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ทำ�งานเพื่อเอาหน้า
(“speed king” or “rate buster”)
(2) คนงานใดก็ตามที่ทำ�งานน้อยกว่า proper day’s work จะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้คดโกง หรือเอาเปรียบ
เพื่อนร่วมงาน (“chiseler”)
(3) คนงานคนใดก็ตามที่นำ�เรื่องของกลุ่มไปบอกหัวหน้างาน ซึ่งอาจจะนำ�ผลเสียหายมาสู่หมู่คณะจะได้
ชื่อว่าเป็นพวกป ากโป้ง (“squealer”)
(4) สมาชิกของกลุ่มไม่ควรทำ�ตนเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง เพราะจะทำ�ให้ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกต้อง
สูญเสียไป
โดยทั่วไปความสอดคล้องหรือความเป็นระเบียบของกลุ่มจึงมักจะมีลักษณะใหญ่ๆ อยู่ 2 ประการ
คือ
ก. ความเข้าใจร่วมกันเป็นกฎเกณฑ์ และแนวทางในทางปฏิบัติบุคคลควรยึดถือเป็นหลักในการ
ดำ�เนินช ีวิตแ ละติดต่อส ัมพันธ์ก ับบุคคลอ ื่น (normative order)
ข. ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคม ซึ่งรวมถึงความผูกพันซึ่งกันและกัน การร่วมมือ การ
แบ่งงาน การแข่งขัน การขัดแ ย้งต ่างๆ ซึ่งค วามสัมพันธ์เหล่านี้ จะเป็นไปต ามแบบอย่าง (pattern social relation)
ซึ่งนอกจากจะขึ้นอยู่กับระเบียบปทัสถาน แล้วยังขึ้นอยู่กับสถานภาพและบทบาทของบุคคลที่ติดต่อสัมพันธ์กัน
ซึ่งบ ุคคลจะม ีส ิทธิหน้าที่ และค วามรับผ ิดชอบในก ารอยู่ร่วมก ัน