Page 21 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 21
การพัฒนาภาวะผู้นำ� 15-9
สร้างขึ้น เป็นต้น ซึ่งจะหาดูได้จากมนุษย์ยุคใดก็ตามที่มีความร่วมมือสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำ�ให้มนุษย์สามารถ
อยู่ร่วมกันได้แ ละมีส ัมพันธภาพอ ันยาวนานต ่อกัน ในก รณีเช่นน ี้ความร ่วมมือสนับสนุนซึ่งก ันและก ันเป็นห ลักสำ�คัญ
ในการจ ัดร ะเบียบ ถ้าหากค วามร ่วมมือนี้ส ิ้นสุดลง การจัดร ะเบียบข องกลุ่มก ็จะส ลายไปด ้วย
โดยป กติแล้วคนเราจะด ำ�รงชีวิตอยู่ในส ังคมตามส ถานภาพและบ ทบาทของแต่ละบุคคลที่ส ังคมกำ�หนด เช่น
เป็นคนช รา เป็นเด็ก เป็นโสด เป็นผู้นำ� เป็นผู้ต าม เป็นผ ู้ได้รับการศ ึกษา ฯลฯ ซึ่งแต่ละค นจะถ ูก ำ�หนดให้มีส ถานภาพ
และม ีบทบาทต ่างๆ กันออกไป
ด้วยเหตุที่สังคมนั้น นอกจากจะกำ�หนดสถานภาพแล้ว ยังกำ�หนดบทบาทด้วย เช่น เกิดเป็นผู้หญิงจงให้
เห็นว่าเป็นหญิง หรือไม่หวังให้เด็กดื่มสุราอย่างผู้ใหญ่ หรือเป็นผู้นำ�แต่พูดไม่เป็นแม้กระนั้นบางคนมีตำ�แหน่ง
แต่ไม่มีบทบาท เช่น เป็นแ ม่แ ต่ไม่เลี้ยงลูก เป็นผ ู้นำ�แต่ไม่รับผ ิดช อบ นำ�เขาไม่ได้ หรือม ีบทบาทเป็นผ ู้นำ�ทั้งๆ ที่มิได้
เป็นผู้นำ�เลย กรณีเช่นนั้น นับว ่าม ีบ ทบาทแ ต่ไม่มีต ำ�แหน่งก็ได้
ความสำ�เร็จตามบทบาทจึงขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว และสถานการณ์ เนื่องจากในสภาพแวดล้อม
รอบตัวเรามีการเปลี่ยนแปลง และแต่ละคนมีบทบาทมากมาย สถานภาพและบทบาทไม่คงที่ จึงนับว่ามีความยุ่ง
ยากซับซ้อนของสถานภาพและบทบาทมาก มีอัตราการคาดหวังต่อผู้นำ�ในสังคมสูง และย่อมเป็นความยากลำ�บาก
ของการปรับตัวข องผ ู้นำ�แต่ละค น ยิ่งมีค วามยากลำ�บากเท่าไร ความยุ่งยากใจข องผ ู้นำ�ก็ยิ่งม ีมากเท่านั้น
นักศึกษาอ่านบทความต่อไปนี้แล้ว โปรดพิจารณาสภาพความคาดหวังต่อสังคมชนบทไทย พร้อมๆ กับ
พิจารณาไปด ้วยว่า สภาพความค าดห วังด ังกล่าวนั้นเป็นค วามค าดหวังต่อผู้นำ�ในส ังคมช นบทอย่างไรด้วย
ลกั ษณะสังคมช นบทไ ทย
คัดจ ากส ุว ิทย์ ยิ่งวรพันธุ์ พัฒนาชนบทในป ระเทศไทย
กรุงเทพฯ โรงพิมพ์อักษรสาส์น 2512 หน้า 16-22
นักม นุษยวิทยาท ี่ศ ึกษาถ ึงล ักษณะของสังคมชนบทไทยได้ให้ข้อสังเกตกว้างๆ ดังนี้ 1
1. ชาวนาไทยและคนไทยโดยทั่วๆ ไป มีนิสัยชอบทำ�อะไรตามลำ�พังตนเอง (individualistic) มากกว่า
การตั้งกลุ่มหรือรับผิดชอบการงานเป็นหมู่ เรื่องนี้จะเห็นว่าการจัดตั้งกลุ่มชาวนาหรือสหกรณ์ หรือการรวมกลุ่มใด
ก็ตามที่ได้ถอดมาใช้กับสังคมชนบทไทยในระยะเริ่มแรกนั้น มักจะประสบกับอุปสรรค ทั้งนี้มิใช่แต่ปัญหาระดับ
ความเข้าใจและการศึกษาแต่อิทธิพลของ ทำ�อะไรตามลำ�พังที่ได้ประพฤติปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านานนั้นต้องการ
เวลาท ี่จะปรับตัวมาเป็นแบบ group action
2. ในสังคมชนบทไทยไม่มีกลุ่มถ าวร (permanent group) บางค รั้งชาวช นบทอาจจ ับก ลุ่มกันเพื่อกิจกรรม
บางอย่างของชุมชน อย่างเช่น ร่วมกันจัดงานทำ�บุญงานวัด การลงแขกเหล่านี้เป็นการรวมกลุ่มแบบชั่วคราว พอ
กิจกรรมน ั้นส ิ้นส ุดล งก แ็ ยกย ้ายก ันไปแ ละก ารจ ัดก ลุ่มต ามล ักษณะน ีม้ ักม แี นวโน้มเอียงไปในท างญ าตพิ ีน่ ้องห รือค นใน
สกุลเดียวกัน
3. ลักษณะของสังคมชนบทไทยเป็นสังคมแบบกระจาย (atomized society) เป็นการรวมตัวอย่าง
หลวมๆ ไม่มีกลุ่มหรือสถาบันสังคมอื่นใด นอกจากสถาบันครอบครัวเป็นแบบ nuclear family อันประกอบด้วย
พ่อ แม่ และลูกเป็นส่วนสำ�คัญ สังคมแบบนี้จะเห็นว่ามีผู้นำ�ท้องถิ่นอยู่ในขอบเขตจำ�กัด กล่าวคือจะพบว่า ผู้นำ�
ในชนบทไทยมีครูประชาบาล พระภิกษุสงฆ์ และผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำ�ท้องถิ่นกันส่วนมาก อาจจะพบว่าโดยปกติ
พระส งฆ์เป็นผู้นำ�ที่ชาวบ้านเชื่อถ ือม ากท ี่สุด