Page 20 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 20
15-8 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
2. การขัดแย้ง (conflict) การติดต่อสื่อความหมายเป็นสิ่งจำ�เป็นในการจัดระเบียบทางสังคม บางครั้งอาจ
จะเป็นผลสำ�คัญในการทำ�ให้สังคมไม่เป็นระเบียบ และหากการติดต่อสื่อความหมายระหว่างบุคคลหรือกลุ่มเกิด
การขัดแย้งอย่างรุนแรง (แม้การขัดแย้งในบางครั้งอาจจะเป็นหนทางหนึ่งของการหาทางออกของปัญหา เช่น ให้
คนไทยสวมหมวก อาจจ ะมีค นคัดค้านว่าไม่เหมาะสมเพราะอากาศร ้อน หมวกจะเพิ่มให้เกิดค วามห งุดหงิดข ึ้นไปอีก)
ความไม่เป็นระเบียบก็จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในที่ที่มีคนเป็นจำ�นวนมาก การขัดแย้งย่อมเกิดขึ้นเสมอไม่มากก็น้อย
เช่น ระหว่างนายจ้างกับกรรมกร นิสิตนักศึกษากับผู้บริหารประเทศ พ่อค้าคนกลางกับชาวนา ฯลฯ ซึ่งทั้งสองฝ่าย
จะพยายามรักษาผลประโยชน์ของตนถ้าหากว่าผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายไม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน ความขัดแย้ง
จะฟักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยตามวัน เวลาที่ผ่านไป นอกจากนี้ การขัดแย้งก็อาจเกิดในกลุ่มที่มีบุคคลจำ�นวนน้อยได้
เช่น ครอบครัว การที่สามีภรรยาขัดแย้งกัน เป็นการแสดงออกถึงทัศนคติและค่านิยมที่แตกต่างกันซึ่งจะเป็นการ
บั่นทอนชีวิตของก ารแต่งงาน
ผลที่เกิดขึ้นหลังจากการขัดแย้งนั้น ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีระดับการขัดแย้งรุนแรงมากน้อยเพียงไร ส่วนมากก็จะ
ออกมาในรูปต่างๆ เช่น เฉยๆ แค้นเคือง ทำ�ลายไมตรี พยาบาท หาพรรคพวกมาร่วมเกลียดชังบุคคลที่ขัดตน ฯลฯ
และอาจจะม ีป ฏิกิริยาในร ูป หมางเมิน ถกเถียง ด่าว่า ตบตี ยกพวกเข้าสู้ก ัน หรือท ำ�สงครามกัน เป็นต้น
3. การแข่งขัน (competition) เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นได้ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น อยุธยาปลูก
ข้าวเจ้า พม่าป ลูกข ้าวเจ้า ทั้งส องแห่งอ าจจะไม่รู้ส ึกต ัวว่าก ำ�ลังแ ข่งขันในต ลาดโลก แต่ในบ างข ณะการแข่งขันเป็นการ
จงใจหรือต่อต้านขัดขวางคู่ต่อสู้ เช่น การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง ที่ผู้สมัครพยายามโฆษณา บรรยาย
สรรพคุณว ่าต นดีอ ย่างไร พร้อมกับทับถมฝ ่ายต รงข้ามว ่าเลวร ้ายแค่ไหน เป็นต้น
อนึ่ง การแ ข่งขันนั้นมีม ากในสังคมเปิดที่ให้ทุกคนเลื่อนชั้น เลื่อนฐานะ และแข่งขันห าความสำ�เร็จต ามความ
สามารถได้อ ย่างเต็มท ี่ เช่น สังคมไทย อเมริกัน อังกฤษ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ
4. การประนีประนอมผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกัน (accommodation) เป็นวิธีการลดความตึงเครียดหรือให้
เกิดความแตกร้าวน้อยที่สุด เช่น ข้อพิพาทระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างอาจจะออกมาในรูปนายจ้างเพิ่มสวัสดิการให้
ลูกจ้างมากขึ้น และลูกจ้างก็ลดข้อเรียกร้องลงไปบ้าง เพื่อจะได้ประนีประนอมผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกันได้ หรือ
กรณีขาดดุลการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ก็อาจออกมาในรูปญ ี่ปุ่นซื้อส ินค้าของไทยมากขึ้น และเราก็ล ดการซื้อส ินค้า
ญี่ปุ่นลงไปบ้าง การประนีประนอมช่วยให้สังคมมีเสถียรภาพ แต่ก็มีข้อน่าสังเกตว่า การประนีประนอมผลประโยชน์
ที่ขัดแ ย้งกันอาจจะเป็นเพียงก ารช ั่วคราว เพื่อจ ะได้ขัดแ ย้งกันต่อไปอ ีกในอนาคต
5. การผ สมผ สานก ลมกลนื เขา้ หาก นั (assimilation) เปน็ การผ สมผ สานร ะหวา่ งค วามเชือ่ แ ละค วามป ระพฤติ
ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการเช่นนี้อาจจะทำ�ได้ไม่สมบูรณ์ เพราะเป็นการยากที่แต่ละคนจะรับวัฒนธรรมใหม่ๆ
ที่ตนไม่คุ้นเคย แต่เวลาจะเป็นเครื่องช่วยผสมผสานกลมกลืนกันได้ง่ายขึ้น เช่น ปัจจุบันพิธีต่างๆ แนวความคิด
และการแต่งกายของไทย ฯลฯ หลายอ ย่างม ีการใช้วัฒนธรรมข องช าติอื่นมาผสมผสานด้วย หรือแ ม้แต่ในประเทศท ี่
เจริญอย่างยิ่ง เช่น สหรัฐอเมริกาก็เป็นที่รวมของวัฒนธรรมต่างๆ เนื่องจากเป็นที่รวมของคนเป็นล้านๆ ที่อพยพมา
จากท ี่ต ่างๆ จึงมีว ัฒนธรรมผิดแผกแตกต ่างกันออกไป ซึ่งในท ี่สุดก ็น ำ�มาผ สมผ สานเป็นวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกา
ไป ด้วยเหตุนี้การผสมผ สานกลมกลืนเข้าหากันจ ึงเป็นการช ่วยส ่งเสริมให้สังคมม ีระเบียบ
6. การร่วมมือสนับสนุนซ่ึงกันและกัน (cooperation) บางทีกระบวนการนี้อาจจะเป็นกระบวนการที่มี
ความสำ�คัญที่สุด การร่วมมือกันเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือมากกว่านั้น เป็นรูปของ
การทำ�งานร่วมกัน เพื่อจุดหมายปลายทางร่วมกันแม้การแข่งขันจะจำ�เป็นในสังคมสมัยใหม่ (เช่น การแข่งขันสร้าง
ความเจริญ เพิ่มพูนความรู้ ฯลฯ) การร่วมมือก็ยังเป็นสิ่งสำ�คัญ เพราะมนุษย์อยู่ตามลำ�พังไม่ได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่น
ในการอยู่ร่วมกันในหลายด้าน ตั้งแต่เรื่องอาหารการกินจนถึงความรักใคร่ไมตรี หรือสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์บางกลุ่ม