Page 50 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 50

15-38 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ

       เวลา​ที่​คน​เรา​เกิด​ความ​ประหม่า​ตื่น​เต้น​ด้วย​สาเหตุ​ตาม​ที่​กล่าว​มา นัก​สรีรวิทยา ได้​พบ​ว่า​จะ​เกิด​ความ​
เปลี่ยนแปลง​ภายในร​ ่างกายห​ ลาย​อย่าง อาทิ มี​ระดับน​ ํ้าตาลใ​น​เลือดส​ ูง​ขึ้น อาหาร​จะถ​ ูกด​ ูด​ซึมเ​ข้าไป​ในร​ ่างกายม​ าก​ขึ้น​
กว่า​ปกติ สาร​ที่​เร่ง​การ​เผา​ไหม้​นํ้าตาล​ภายใน​เซลล์​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​ใน​กระแส​โลหิต ใน​ขณะ​เดียวกัน​แรง​ดัน​โลหิต​ก็​สูง
​เพิ่ม​ขึ้น การ​หายใจ​แรง​มาก​ขึ้น ร่างกาย​ต้องการ​ออกซิเจน​มาก​ขึ้น และ​ที่​สำ�คัญ​ที่สุด​ก็​คือ ใน​ขณะ​ที่​เกิด​การประหม่า​
ตื่น​เต้นใ​น​ร่างกาย​ของ​คน​เรา​จะเ​กิดพ​ ลังงานเ​พิ่มข​ ึ้น​อย่างม​ าก​ด้วย พลังงานช​ นิดน​ ี้​เรียกว​ ่า พลงั งาน​ต่นื ​เตน้ (nervous
energy) อันเ​ป็นพ​ ลังงานท​ ี่ท​ ำ�ให้​คนเ​รา​มี​กำ�ลังวังชา​ผิดจ​ ากเ​วลา​ปกติ

       บรรดาค​ นท​ ี่ม​ ี​ความช​ ำ�นาญห​ รือ​มีป​ ระสบการณ์ใ​น​การ​พูด​มาม​ าก​แล้ว อาการต​ ื่น​เต้น​จะ​เกิด​ขึ้นใ​น​ระยะแรกๆ
เท่านั้น เมื่อ​พูดไ​ปไ​ด้​สัก​เล็กน​ ้อย ความร​ ู้สึกต​ ื่นเ​ต้น​ก็​จะห​ มด​ไป แต่​พลังงานต​ ื่น​เต้น​นั้นจ​ ะช​ ่วยเ​พิ่ม​ความม​ ี​กำ�ลังวังชา​
ในก​ ารพ​ ูดใ​ห้ม​ ี​มากข​ ึ้น

       ฉะนั้น เรา​จึงค​ วร​เข้าใจธ​ รรมชาติข​ ้อ​นี้ไ​ว้​ให้​ดีว​ ่าค​ วาม​ประหม่า​ตื่นเ​ต้น​ที่ค​ วบคุม​ได้ห​ า​ได้​เป็นผ​ ลเ​สียไ​ม่ แต่​เป็น​
เครื่องแ​ สดงว​ ่าเ​มื่อผ​ ู้พ​ ูดห​ ายป​ ระหม่าต​ ื่นเ​ต้นเ​กิดค​ วามม​ ั่นใจใ​นต​ นเองแ​ ล้ว ผู้พ​ ูดจ​ ะม​ ีก​ ำ�ลังวังชาเ​ป็นพ​ ิเศษข​ ึ้นม​ าพ​ ร้อม​
ที่จ​ ะ​พูด​ต่อไ​ปไ​ด้​อย่าง​มีส​ มรรถภาพอ​ ันส​ ูง

2.	 วิธี​แก้ไข​ความ​ประหม่า​ต่นื ​เตน้ ​ไมใ่​หเ​้ ป็น​อุปสรรคแ​ กก่​ ารพ​ ูด

       ความจ​ ริง​เมื่อ​เราเ​ข้าใจ​ธรรมชาติ​ของ​ความป​ ระหม่า​ตื่นเ​ต้น​ที่​กล่าว​มา​แล้ว เราก​ ็ค​ วรจ​ ะม​ ี​ทัศนคติ​ที่ถ​ ูกต​ ้อง​ต่อ​
ตัว​เรา​เอง กล่าว​คือ ไม่​เกิด​ความ​สำ�คัญ​ผิด​ว่า​เรา​เป็น​คน​ผิด​ปกติ​ไป​จาก​คน​อื่นๆ หรือ​ไม่​ฝังใจ​ว่า​เรา​เป็น​คน​มี​จุด​อ่อน
เนื่องจาก​ความ​ประหม่า​อยู่​เสมอ​เมื่อ​จะ​ต้อง​ออก​ไป​พูด​ใน​โอกาส​สำ�คัญๆ ตรง​ข้าม​เรา​ควร​ระลึก​ไว้​เสมอ​ว่า เมื่อ​เรา​มี​
อาการข​ องค​ วามป​ ระหม่าต​ ื่นเ​ต้น เราก​ ำ�ลังไ​ดร้​ ับพ​ ลังงานเ​พิ่มข​ ึ้นเ​ป็นพ​ ิเศษต​ ามธ​ รรมชาตจิ​ ากร​ ่างกายข​ องเ​ราเ​อง เป็นการ​
เพิ่ม​กำ�ลังวังชาใ​นก​ ารพ​ ูด​ในแ​ ก่เ​รา

       เมื่อ​เรา​มี​ทัศนคติ​เช่น​นี้ อาการ​ประหม่าก​ ็​คงจะไ​ม่​กลายเ​ป็น​อุปสรรคต​ ่อก​ าร​พูด แต่​คงจะ​ลดล​ ง​ได้ม​ าก
       นอกจากน​ แี​้ ลว้ เ​ราก​ ค​็ วรจ​ ะป​ ฏบิ ตั ต​ิ นเ​พือ่ เ​อาชนะค​ วามป​ ระหมา่ เ​วทใ​ี หไ​้ ดผ​้ ลจ​ รงิ ๆ อนั เ​ปน็ การส​ รา้ งค​ วามม​ ัน่ ใจ​
ให้​แก่ต​ ัว​เรา​เอง​นั่นเอง จึง​ขอ​แนะนำ�​วิธี​ปฏิบัติด​ ังนี้ค​ ือ
       2.1 เตรียม​ซ้อม​เรื่อง​ท่ี​เรา​จะ​พูด​มา​ให้​แม่นยำ�​ท่ีสุด​เท่า​ท่ี​จะ​ทำ�ได้   แต่​ไม่ใช่​ท่องจำ�​ทุก​คำ�​พูด คำ�​ว่า แม่นยำ�
​ในท​ ี่​นี้​หมายถ​ ึง​แม่นยำ�​ใน​เนื้อหา​สาระ และ​มี​ความ​คล่องต​ ัวพ​ อที่จ​ ะ​ใช้​คำ�​พูด​ให้​ได้​เนื้อหา​สาระด​ ัง​กล่าว
       2.2 ให้​ความ​สนใจ​ใน​เร่ือง​ราว​ท่ี​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ท่ี​เรา​จะ​พูด​ไว้​ให้​มาก​พอ เพ่ง​ความ​สนใจ​ให้​ออก​ไป​จาก
ตัว​เรา ไป​สู่​เรื่อง​ที่​เรา​จะ​นำ�​ไป​พูด อย่าง​เพ่ง​ความ​สนใจ​มา​ที่​ตัว​เรา​เอง​มาก​นัก เช่น สนใจ​ว่า​ท่วงที​วาจา​ของ​เรา​จะ​ดี​พอ​
หรือไ​ม่ เรา​จะไ​ด้ร​ ับ​คะแนนน​ ิยมจ​ าก​การพ​ ูดค​ รั้ง​นี้​หรือ​ไม่ คนฟ​ ัง​จะพ​ ึงพ​ อใจใ​น​คำ�​พูด​ของ​เราเ​พียง​ไร
       2.3 หา​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​คน​ฟัง​ให้​มาก​พอ เพื่อ​จะ​ได้​ดัดแปลง​เรื่อง​ที่​เรา​พูด​ให้​เหมาะ​สม​กับ​คน​ฟัง​ให้​มาก​ที่สุด
กล่าว​คือ​ต้อง​ทราบ​ว่า ผู้​ฟัง​ใน​กลุ่ม​มี​จำ�นวน​ทั้ง​สิ้น​เท่าใด ผู้​ฟัง​ประกอบ​ด้วย​บุคคล​เพศ​หญิง​หรือ​เพศ​ชาย วัย​ใด​ใน​
สัดส่วน​เท่าใด ผู้​ฟัง​ประกอบ​ด้วย​บุคคล​ที่มา​จาก​กลุ่ม​สังคม​และ​กลุ่ม​อาชีพ​ประเภท​ใด​มาก​น้อย​เพียง​ไร ผู้​ฟัง​มี​
พื้น​ฐาน​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​โดย​ทั่วไป​มาก​น้อย​เพียง​ไร ผู้​ฟัง​มี​พื้น​ฐาน​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​เกี่ยว​กับ​หัวข้อ​
เรื่อง​ที่​จะ​พูด​ให้​ฟัง​มาก​น้อย​เพียง​ไร ผู้​ฟัง​มี​ระดับ​ความ​สนใจ​ใน​หัวข้อ​เรื่อง​ที่​จะ​พูด​เพียง​ใด ผู้​ฟัง​มี​ความ​มุ่ง​หวัง​ที่​จะ
​ได้​รับ​อะไร​จาก​การ​ฟัง ผู้​ฟัง​มี​ทัศนคติ​ต่อ​ผู้​พูด ต่อ​หัวข้อเ​รื่อง​ที่​จะ​พูด​และ​ต่อ​สิ่ง​อื่น​ที่​เกี่ยวข้องอ​ ย่างไร ยิ่ง​รู้จักค​ น​ฟัง
ได้ถ​ ูกต​ ้อง​ตาม​ที่เ​ป็น​จริงเ​ท่าไร ก็​ยิ่งเ​ป็นการ​ดีเ​ท่านั้น
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55