Page 86 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 86
15-74 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
เรอ่ื งท ่ี 15.4.2
การเขียนร ายงานวชิ าการ
รายงานวิชาการ คือ “ผลของก ารศึกษาค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่นำ�มาเรียบเรียงไว้อย่างมีระบบ” ในตอน
ที่ 15.3 ได้กล่าวถึงการค้นคว้าทางวิชาการมาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาค้นหาข้อมูลอย่างมีระบบ นอกจากสื่อต่างๆ
ดังกล่าวแ ล้ว การศึกษาค้นคว้าอาจทำ�ได้โดยวิธีอื่นๆ อีก เช่น การฝึกงาน การอ บรม การท ดลอง เป็นต้น
ในหัวเรื่องนี้ จะกล่าวถึงเฉพาะรายงานที่เป็นเนื้อหาวิชาการล้วนๆ ได้แก่ รายงานที่ใช้ประกอบการศึกษา
ตามหลักสูตร หรือรายงานวิชาการในหน่วยงาน ตลอดจนรายงานในรูปแบบของบทความวิชาการที่พิมพ์เผยแพร่
ในหนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ โดยจะก ล่าวถึงร ูปแบบและข ั้นต อนการเขียน ดังนี้
1. รปู แ บบของรายงานว ิชาการ
รูปแ บบข องรายงานวิชาการประกอบด้วยส่วนน ำ� ส่วนเนื้อค วาม และส่วนท ้าย
1.1 สว่ นน �ำ
ก. ปกรายงาน ถ้าเป็นรายงานฉบับสั้นๆ ในลักษณะบทความหรือสารคดีอาจไม่จำ�เป็นต้องมีปก
แต่ถ้าเป็นรายงานฉบับยาว มักทำ�ปกเรียบร้อย ปกของรายงานจะมีชื่อเรื่องและชื่อผู้เขียนรายงาน การตั้งชื่อเรื่อง
อาจต ั้งเป็น คำ� กลุ่มค ำ� หรือป ระโยคก ็ได้ ชื่อรายงานค วรก ะทัดรัดแ ละช ัดเจนต รงป ระเด็น เช่น “คำ�ลักษณะน ามใน
ภาษาไทย” “ประเพณีข ันโตกของชาวเหนือ” เป็นต้น
ปกรายงาน ถ้ามีการเย็บเล่มเรียบร้อย อาจม ีทั้งป กหน้าแ ละปกใน โดยปกในจะม ีรายล ะเอียดเพิ่มเติม
จากปกหน้า ได้แก่ ชื่อเรื่อง ชื่อผู้เขียน ชื่ออาจารย์หรือผู้รับรายงาน ชื่อรหัสวิชาและชื่อวิชา คณะหรือแผนกที่สังกัด
ภาคเรียนแ ละปีก ารศ ึกษา หรือวัน เดือน ปี ที่เสนอรายงาน
ข. คำ�นำ� ถัดจากปกในจะเป็นคำ�นำ� เป็นส่วนที่ผู้เขียนจะบอกเล่าแก่ผู้อ่านก่อนจะอ่านเนื้อหา ซึ่งอาจ
กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเขียน ขอบเขต ข้อจำ�กัด ขอบคุณผู้เกี่ยวข้อง ตลอดถึงความรู้สึกนึกคิดในการเขียน
คำ�นำ�มักเขียนส ั้นๆ ไม่อธิบายข ยายความให้เยิ่นเย้อ เพราะผู้อ ่านย่อมต ้องการพลิกผ่านไปอ่านเนื้อเรื่องโดยเร็ว
ค. สารบัญ หรือสารบาญ อยู่ถัดจากคำ�นำ� สารบัญคือหัวข้อของรายงานเรียงลำ�ดับมีเลขหน้ากำ�กับ
หากม ีภ าพหรือตารางประกอบ ก็อาจม ีสารบัญภ าพห รือตารางด้วย
1.2 ส่วนเนื้อความ ได้แก่ ส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องเป็นเนื้อหาสาระของรายงาน แสดงขั้นตอนวิธีการค้นคว้า
วิธีการรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ ตลอดจนผลของการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเป็น
รายงานการว ิจัย จะต้องม ีรายละเอียดอ ย่างสมบูรณ์ย ิ่งก ว่ารายงานว ิชาการทั่วไป
เนื้อหาสาระในรายงาน หากผู้เขียนได้ข้อมูลจากแหล่งอื่น มิใช่คิดค้นขึ้นด้วยตนเอง เช่น ได้มาจากการ
ค้นคว้าเอกสาร หรือจากการสัมภาษณ์ จะต้องเขียนอ้างอิงที่มาให้ชัดเจน ไม่ขโมยความคิดหรือข้อเขียนของผู้อื่น
ม าเป็นของตน เพราะเป็นการล ะเมิดล ิขสิทธิ์ตามก ฎหมาย และเสียมารยาทอ ย่างร้ายแรง
การอ้างอิงในเนื้อหาเรียกว ่า เชิงอรรถ เชิงอรรถม ี 2 ชนิด คือ
ก. เชิงอรรถขยายความ คือขยายความเนื้อเรื่องให้กว้างขวางชัดเจนขึ้นโดยเขียนไว้ท้ายหน้านั้น อาจ
ใช้เครื่องหมายด อกจัน หรือต ัวเลขอ้างอิงก็ได้