Page 87 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 87

การพัฒนาภาวะผู้นำ� 15-75

            ข. เชิงอรรถ​อ้างอิง​ที่มา ซึ่ง​อาจ​เป็น​ชื่อ​บุคคล ชื่อ​หนังสือ หรือ​แหล่ง​ที่​ค้นคว้า​มา เชิงอรรถ​อ้างอิง​นี้​
อาจเ​ขียนแ​ ทรกใ​นเ​นื้อหาท​ ้าย​ข้อความห​ รือเ​ขียนไ​ว้​ข้าง​ล่าง​ท้ายห​ น้าน​ ั้น หรือเ​ขียนไ​ว้​ท้ายเ​รื่อง แล้วแ​ ต่​ความเ​หมาะส​ ม
ถ้า​มีไ​ม่​มาก​นัก​ก็​นิยม​เขียนแ​ ทรกห​ รือ​ไว้​ท้าย​หน้า แต่​ถ้าม​ ีม​ าก​เกรงจ​ ะ​รุงรังก​ ็​รวมไ​ว้ท​ ้ายเ​รื่อง ก่อนถ​ ึงบ​ รรณานุกรม

       นักศึกษา​อาจ​ศึกษา​ตัวอย่าง​เชิงอรรถ​ได้​จาก​เอกสาร​การ​สอน​ของ​มหาวิทยาลัย​สุโขทัย​ธร​รมาธิ​ราช และ
​เอกสารว​ ิชาการ​อื่นๆ

       1.3		ส่วนท​ า้ ย  ประกอบด​ ้วยส​ ่วนอ​ ้างอิงแ​ ละ​ภาค​ผนวก
            ก. ส่วน​อ้างอิง อาจ​มี​เชิงอรรถ​อ้างอิง และ​บรรณานุกรม การ​เขียน​เชิงอรรถ​นั้น เรียง​ลำ�ดับ​การอ้างอิง

แต่บ​ รรณานุกรม​จะ​เรียง​ลำ�ดับ​ตัว​อักษรช​ ื่อ​ผู้แ​ ต่ง
            ข. ภาค​ผนวก เป็น​ส่วน​เพิ่ม​เติม​ที่​จะ​เป็น​ประโยชน์​ให้​เนื้อหา​ชัดเจน​ขึ้น เช่น ตัวอย่าง​หรือ​เรื่อง​ราว  

ประกอบ ฯลฯ เหตุ​ที่​ไม่​แทรก​ไว้​ใน​เนื้อหา​เพราะ​อาจ​ทำ�ให้​ยืด​ยาว​หรือ​เยิ่นเย้อ​เกิน​ไป อาจ​ไม่ใช่​ส่วน​สำ�คัญ​เท่าเนื้อหา​
โดยตรง

       นอกจาก​นี้ อาจ​มี อภิธานศ​ ัพท์ หรือร​ ายการ​ศัพท์ท​ ี่​ต้องอ​ ธิบาย​ด้วย ใน​กรณี​ที่ม​ ีศ​ ัพท์​จำ�นวนม​ าก

2. ขั้นต​ อนก​ าร​เขยี นร​ ายงานว​ ิชาการ

       เมื่อน​ ักศึกษา​ได้​รับม​ อบ​หมาย หรือม​ ี​ความจ​ ำ�เป็นท​ ี่จ​ ะ​ต้อง​เขียนร​ ายงาน บางค​ น​อาจ​เกิดป​ ัญหาว​ ่า “​ไม่ท​ ราบ​
จะ​เริ่ม​ต้น​อย่าง​ไร” หรือ “ไม่​ทราบ​จะ​เขียน​เรื่อ​งอะ​ไร” ต่อ​ไป​นี้​เป็น​แนวทาง​ที่​จะ​แก้​ปัญหา​ดัง​กล่าว ขอ​ให้​นักศึกษา​
ลงมือ​ฝึก​ปฏิบัติท​ ี​ละ​ขั้น​ตอน​ดังนี้

       2.1 การเตร​ ี​ยมต​ ัว  จงต​ อบค​ ำ�ถาม​ต่อ​ไปน​ ี้ โดย​เขียน​คำ�​ตอบล​ งใ​นช​ ่องว​ ่าง​ขวา​มือ

	 ถาม	                                                                    ตอบ
1)	เราส​ นใจเ​รื่อง​อะไรม​ ากท​ ี่สุด	                --------------------------------------------------------------
2)	 เรา​เคย​อ่านเ​รื่อง​นี้ใ​ นเ​อกสารใ​ ด	           --------------------------------------------------------------
3)	เราจ​ ะ​ค้น​ข้อมูลเ​รื่อง​นี้​ได้ม​ าก​ไหม	        --------------------------------------------------------------
4)	เรื่องน​ ี้น​ ่าศ​ ึกษา​ไหม เพราะอ​ ะไร	           --------------------------------------------------------------
5)	เขียนเ​รื่องน​ ี้แ​ ล้วไ​ด้​ประโยชน์​อะไร	         --------------------------------------------------------------
6)	เราม​ ีเ​วลาใ​ห้​งาน​นี้แ​ ค่​ไหน	                 --------------------------------------------------------------
7)	ถ้า​จำ�เป็นต​ ้องใ​ช้ท​ ุน​หรือท​ รัพยากรอ​ ื่นๆ	  
�������������������������������������������������������������
	 เราจ​ ะ​หาไ​ด้​เพียง​พอ​หรือไ​ม่	                   --------------------------------------------------------------

                                 ฯลฯ	 	

       คำ�ถาม​เหล่า​นี้​เป็นการ​สำ�รวจ​ตนเอง​และ​เตรียม​ความ​พร้อม ถ้า​คำ�​ตอบ​เป็น​ไป​ใน​ทาง​บวก​ทุก​ข้อ แสดง​ว่า​
สามารถ​เริ่มต​ ้น​ได้​แล้ว ก็เ​ริ่มร​ วบรวม​ข้อมูล​อย่าง​กว้างๆ เพื่อต​ ัดสิน​ใจ​ขั้น​ต่อไ​ป

       2.2 การ​เลือก​เรื่อง​และ​ตั้ง​ชื่อ​เรื่อง ควร​เลือก​เรื่อง​ที่​มี​ขอบเขต​เหมาะ​สม ไม่​กว้าง​เกิน​ไป เพราะ​เรื่อง​ที่​
กว้าง​มาก​อาจ​ยาก​ที่​จะ​ศึกษา​ให้​ครอบคลุม​ทั้งหมด ส่วน​เรื่อง​ที่​แคบ​หรือ​เฉพาะ​เจาะจง​เกิน​ไป ก็​อาจ​หา​ข้อมูล​ได้​
ไม่เพียง​พอ เรื่อง​ที่​เลือก​ควร​เป็น​เรื่อง​ที่​ค้น​ข้อมูล​ได้​มาก​และ​เป็น​ประโยชน์​เอื้อ​ต่อ​การ​ค้นคว้า​ศึกษา​ต่อ​ไป​ภาย​หลัง
อาจ​ตั้ง​ชื่อ​ไว้​หลายๆ ชื่อ​และ​วิเคราะห์​เปรียบ​เทียบ​เพื่อ​เลือก​ชื่อ​ที่​เหมาะ​สม​ที่สุด สมมติ​ว่า​นักศึกษา​ตกลง​เลือก “​การ​
ค้นคว้า​ทางว​ ิชา​กา​ร” ก็ด​ ำ�เนินต​ ามข​ ั้น​ตอนต​ ่อไ​ป
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92