Page 39 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 39
สาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมียนมา 11-29
เมอื งเมาะตะมะ เมอื งตองอู เมอื งแปร และเมอื งพะโค การปกครองระดบั มณฑลแสดงใหเ้ หน็ ความพยายาม
ของผู้น�ำส่วนกลางในการเข้ามาก�ำกับดูแลท้องถิ่นเพ่ือคานอ�ำนาจผู้น�ำท้องถ่ินที่เป็นคนพ้ืนท่ีน้ันๆ และ
สืบทอดอ�ำนาจกันต่อๆ มา43 ผู้ปกครองสูงสุดในการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ข้าหลวงประจ�ำมณฑล
เปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั แตง่ ตง้ั จากสว่ นกลาง โดยมขี นุ นางเปน็ ผชู้ ว่ ยและทำ� หนา้ ทด่ี แู ลเรอื่ งกำ� ลงั คนกองทหารประจำ�
มณฑล มีขุนนางที่ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ดูแลการเก็บภาษีอากรท่ีเก่ียวกับที่ดินและผลผลิตจากท่ีดิน มีขุนนางที่
ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ดูแลการเก็บภาษีอาการสินค้าทางทะเลตามเมืองท่าต่างๆ และมีผู้ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ดูแลเรื่อง
เรอื รบและเรอื ประเภทตา่ งๆ และนาขน้ั (Naknan) หรอื ยกกระบตั รตา่ งพระเนตรพระกรรณพระมหากษตั รยิ 4์ 4
ถดั จากมณฑลจะเปน็ หน่วยการปกครองท้องถิ่นทส่ี ำ� คญั ในระดบั พืน้ ฐาน คอื เมือง (Myo) ซง่ึ มี
เจ้าเมืองเป็นผู้ปกครอง เจ้าเมืองเป็นผู้ปกครองท้องถิ่นท่ีมาจากคนในพื้นท่ีและอาจสืบทอดต�ำแหน่งตาม
สายตระกูลมาหลายชั่วอายุคน คนกลุ่มนี้ได้รับต�ำแหน่งและสิทธิอ�ำนาจพิเศษ ได้รับยศหรือบรรดาศักดิ์
หน้าท่ีในการเก็บผลประโยชน์ ตัดสินคดีความและดูแลราษฎร โดยแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับรัฐ และท�ำ
หนา้ ทเี่ กณฑไ์ พรพ่ ลเมอื งราชสำ� นกั ตอ้ งการ ถดั จากนคี้ อื หวั หนา้ หมบู่ า้ น ทำ� หนา้ ทดี่ แู ลรกั ษาความเรยี บรอ้ ย
ในท้องถ่ิน เกบ็ ภาษอี ากร และการศาล
ขณะเดยี วกนั ยงั มปี ระเทศราช ผปู้ กครองทอ้ งถนิ่ ทส่ี บื เชอื้ สายกนั มาตง้ั แตด่ ง้ั เดมิ เปน็ เจา้ ผปู้ กครอง
พนั ธะหนา้ ทสี่ ำ� คญั คอื การถวายความจงรกั ภกั ดดี ว้ ยการสง่ เครอ่ื งราชบรรณาการ การแตง่ งาน การสง่ กำ� ลงั
ทหาร เจา้ ผปู้ กครองทอ้ งถนิ่ มอี ำ� นาจอสิ ระในการปกครองแวน่ แควน้ ของตน รฐั ประเทศราช อาทิ แวน่ แควน้
ของบรรดาเจา้ ฟ้ารฐั ฉาน ดูวาของคะฉนิ่ และรัฐเจ้าฟ้าของกะเรนนหี รือคะยา และหัวหน้าเผา่ กะเหรยี่ งและ
ชนิ เป็นตน้ 45
การเมืองการปกครองสมัยอาณานิคม
สมัยอาณานิคม อังกฤษได้ท�ำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองการปกครองพม่าใหม่ เม่ือ
จักรวรรดินิยมอังกฤษได้ครอบครองดินแดนพม่าทั้งหมด ได้ท�ำการยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ส่วนการ
เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างการเมืองการปกครองได้เริ่มข้ึนตั้งแต่ส้ินสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งแรกปี 1825
เมอื่ องั กฤษไดค้ รอบครองดนิ แดนอะระกนั และดนิ แดนตะนาวศรี องั กฤษแบง่ เขตการปกครองออกเปน็ สว่ น
ทีเ่ ป็น “พม่ามาแต่เดิม” (Burma Proper) ซ่งึ ผนวกเอาทง้ั เขตท่ีเป็นส่วนใจกลางของศนู ยอ์ ำ� นาจพม่ากบั
เขตหัวเมืองที่ขึ้นกับพม่าในยุคก่อนสมัยใหม่ และ “พื้นที่ส่วนนอก” (Excluded Areas) หรือ “บริเวณ
ชายแดน” (Frontier Areas) ซึ่งเป็นเขตภูเขาท่ีอยู่รายรอบ โดยกรอบความคิดแล้วอังกฤษได้น�ำเอา
ความคิดเรื่องการแบ่งอ�ำนาจตามหลักพ้ืนที่ท่ีแน่ชัดมาใช้ ในแต่ละเขตจะมีรูปแบบการบริหารที่ต่างกันไป
ในเขตที่ราบใช้การปกครองโดยตรง ส่วนในเขตภูเขาใช้ระบบการปกครองทางอ้อม โดยให้การยอมรับ
43 เรยี บเรยี งจาก คณนิ สักกายะทฐิ กิ ุล. (2544). การปฏิรปู การเมือง-การปกครองพมา่ สมยั พระเจ้ามนิ ดง (ค.ศ. 1853-
1878) วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาประวัติศาสตรเ์ อเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร น. 31-32.
44 เรียบเรยี งจาก Daw Mya Sein. (1973). The Administration of Burma. Singapore: Oxford University Press.
pp. 32-37.
45 โรเบริ ต์ เอช. เทย์เลอร.์ (2550). รฐั ในพมา่ . กรงุ เทพฯ: มตชิ น. น. 33.