Page 19 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 19

สารเคมใี นชีวิตประจ�ำวันและสิ่งแวดลอ้ ม 5-9
            1.1.4	 นํ้ายาบ้วนปาก (gargle) เปน็ ของเหลวทใี่ ชอ้ มในปากและบว้ นออกเพอ่ื จดุ ประสงคใ์ ห้
ปากหอมสะอาดและฆ่าเช้ือโรคในปาก เป็นการรักษาความสะอาดในช่องปากเสริมจากการแปรงฟัน
ผลติ ภณั ฑน์ าํ้ ยาบ้วนปากมี 5 ประเภทคือ

                1)	 ประเภทช่วยกลบกล่ินและสร้างความสดชื่น นาํ้ ยาบว้ นปากประเภทนมี้ สี ว่ นผสม
เปน็ นา้ํ มนั หอมระเหยทไี่ มเ่ พยี งใหก้ ลน่ิ หอมเทา่ นน้ั ยงั มฤี ทธร์ิ ะงบั การเจรญิ เตบิ โตของจลุ นิ ทรยี ด์ ว้ ย นาํ้ มนั
หอมระเหยทนี่ ยิ มใช้กนั คอื เมธิลซิลิไซเลต (Methyl salicylate) ไธมอล (Thymo) เมนทอล (Methol)
เพพเพอร์มติ (Peppermint oil) และนํ้ามนั กานพลู (Clove oil) เปน็ ตน้ เนือ่ งจากนาํ้ มนั หอมระเหยจะ
ออกฤทธิ์ได้ดีในแอลกอฮอล์ จึงมีการผสมแอลกอฮอล์ลงไปด้วยซึ่งอาจมีผลให้เกิดอาการแสบร้อนในปาก
จงึ ทำ� ให้ผใู้ ช้ไมส่ ามารถอมน้าํ ยาไว้ในปากไดน้ าน ซงึ่ จะมผี ลให้มีประสิทธภิ าพในการใช้ลดลง

                2)	 ประเภทผสมสารฆา่ เช้อื จุลนิ ทรยี ร์ ว่ มกับฟลอู อไรด์ เนอื่ งจากจลุ นิ ทรยี เ์ ปน็ สาเหตุ
ของการเกดิ กลิน่ ปาก จงึ มีการเตมิ สารฆา่ เช้อื จุลนิ ทรียแ์ ละฟลูออไรดช์ ว่ ยปอ้ งกนั ฟนั ผุ ในการใชต้ ้องอมให้
น้าํ ยาอยใู่ นปากนานตามท่ีกำ� หนดไวใ้ นค�ำแนะน�ำการใช้ ถ้าอมไม่นานพอจะไมส่ ามารถฆ่าเชอ้ื จุลินทรีย์ได้
แต่อาจมีอาการแสบร้อนในปากเน่ืองจากแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่จึงมีการใช้ตัวท�ำละลายตัวอื่นแทนคือ
สารซีทิวไพริดินัมคลอไรด์ (Cetylpyridinum) ที่ไม่ท�ำให้แสบร้อนแต่จะท�ำให้มีรสขมติดปากจึงต้องใส่
น้ําตาลลงไปชว่ ยปรบั รสชาติ

                3)	 ประเภทชว่ ยลดปญั หาในชอ่ งปาก ในนาํ้ ยาบว้ นปากประเภทนจ้ี ะใชส้ ารโพแทสเซยี ม
ไนเตรท (Potassium nitrate) รว่ มกบั สารฆา่ เชอ้ื ลดอาการเสยี วฟนั และใชส้ ารซงิ คค์ ลอไรด์ ซงิ คแ์ ลคเตท
หรือซงิ คซ์ ิเตรท (Zinc chloride zinc lactate zinc citrate) ช่วยลดคราบหินปนู และชว่ ยลดคราบตา่ งๆ
ท่ีมาติดฟนั

                4)	 ประเภทส�ำหรับเด็ก นาํ้ ยาบว้ นปากทใี่ ชก้ บั เดก็ จะเนน้ การปอ้ งกนั ฟนั ผคุ อื ใชส้ าร
ฟลอู อไรด์ และไม่มสี ารฆา่ เชื้อจลุ ินทรีย์และไม่ผสมแอลกอฮอล์ แต่ห้ามใช้กบั เด็กทอี่ ายตุ ่าํ กวา่ 6 ปี เพราะ
จะทำ� ให้เดก็ ไดร้ ับสารฟลอู อไรด์มากเกินไป

                5)	 ประเภทเอนกประสงค์ นาํ้ ยาบว้ นปากประเภทนใี้ หก้ ารดแู ลในภาพรวมทเี่ รยี กวา่
total care ทง้ั ฆ่าเช้อื ท�ำให้ปากหอมสะอาด ป้องกนั ฟันผุ ลดการเสียวฟนั และคราบหนิ ปูน

                ในการใชน้ าํ้ ยาบว้ นปากใหเ้ กดิ ประโยชนค์ วรเลอื กใชป้ ระเภทใหเ้ หมาะสมและควรเขา้ ใจ
วา่ ไมค่ วรใชแ้ ทนการแปรงฟนั เพราะการรกั ษาสขุ ภาพชอ่ งปากทสี่ ำ� คญั คอื การแปรงฟนั และรกั ษาโรคเหงอื ก
และฟัน ถ้าท�ำได้ดีแล้วการใช้นํ้ายาบ้วนปากก็ไม่มีความจ�ำเป็น การใช้น้ํายาบ้วนปากเป็นเพียงการดูแล
เสรมิ เทา่ นนั้

            1.1.5 	ผงซักฟอก เปน็ สารชว่ ยทำ� ความสะอาดเสอื้ ผา้ โดยทำ� งานรว่ มกบั นาํ้ ซงึ่ โดยปกตนิ า้ํ
เป็นสารที่มีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลสูง ท�ำให้ไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปในเนื้อผ้าเพ่ือพาเอาอนุภาคของ
สง่ิ สกปรกออกมาได้ แตใ่ นผงซกั ฟอกมีส่วนประกอบท่ีส�ำคญั คอื สารลดแรงตงึ ผวิ สารนีม้ คี วามสามารถทำ�
ให้นํ้าเปียกเส้ือผ้าได้ เพราะในตัวสารนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบสองส่วน โดยส่วนท่ีหนึ่งแตกตัวเป็น
ไอออนจงึ เข้าไปอยรู่ วมกับนํ้าไดเ้ รียกสว่ นนว้ี ่าส่วนทีช่ อบน้าํ สว่ นทสี่ องไม่แตกตวั เป็นไอออน ไม่สามารถ
เขา้ ไปอยรู่ วมกบั นา้ํ ไดเ้ รยี กวา่ สว่ นทไ่ี มช่ อบนาํ้ เมอ่ื นำ� ผงซกั ฟอกลงไปในนาํ้ สว่ นทชี่ อบนา้ํ จะไปรวมตวั อยู่
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24