Page 26 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 26
5-16 วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละสงิ่ แวดล้อมเพ่อื ชวี ติ
ปะปนมาในอาหารเพยี งเลก็ นอ้ ย จงึ ไมเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย ยกเวน้ สารนกิ เกลิ อาจเปน็ สาเหตทุ ำ� ใหเ้ กดิ
อาการของผิวหนังได้ โดยที่นิกเกิลจะละลายออกมาในอาหารที่เป็นเครื่องปรุงและมีฤทธ์ิเป็นกรด เช่น
น้าํ สม้ สายชูหรือซอสมะเขือเทศสำ� หรบั คนที่มีอาการแพ้สารนิกเกิล
ภาชนะทที่ ำ� มาจากทองแดงสามารถน�ำความร้อนได้ดี อาหารสุกเรว็ แตถ่ ้าในอาหารมีสารปรุงรส
ทเี่ ปน็ กรดจะสามารถละลายทองแดงออกมาได้ ซงึ่ ทองแดงเปน็ ธาตทุ สี่ ำ� คญั ตอ่ รา่ งกายชว่ ยสรา้ งเมด็ เลอื ดแดง
ถา้ ได้รับในปริมาณเล็กนอ้ ยจะไม่เกดิ อนั ตราย แต่ถ้าร่างกายไดร้ บั และมีการสะสมทองแดงในปรมิ าณมาก
เกนิ ไปในกระแสเลอื ด จะทำ� ใหเ้ กดิ อาการทอ้ งเสยี และอาเจยี นจากทองแดงเปน็ พษิ ได้ เพอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาน้ี
จงึ มกี ารพฒั นาการผลติ ภาชนะทที่ ำ� จากทองแดงใหม้ กี ารเคลอื บดบี กุ และตอ้ งเปลย่ี นใหมเ่ มอื่ ดบี กุ ทเี่ คลอื บ
ไว้หมดอายุ
ในเรอื่ งการใชห้ มอ้ ตม้ อาหารไดม้ ปี ญั หารอ้ งทกุ ขเ์ รอ่ื งของหมอ้ กว๋ ยเตย๋ี วสารตะกวั่ ลงหนงั สอื พมิ พ์
แนวหน้าฉบบั วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2551 มใี จความว่าในการผลติ สินคา้ ภาชนะสำ� หรบั ปรุงหรือบรรจอุ าหาร
ทใี่ ชต้ ะกวั่ เปน็ ตวั ประสานรอยเชอื่ มตอ่ เชน่ หมอ้ ตม้ กว๋ ยเตย๋ี ว หมอ้ ตม้ กาแฟทท่ี ำ� ดว้ ยสแตนเลสแตใ่ ชโ้ ลหะ
ผสมตะกวั่ 40% และดบี กุ 60% เมอื่ นำ� มาใชง้ านในอณุ หภมู สิ งู จะเรง่ ใหต้ ะกวั่ จากแนวประสานละลายออกมา
ปนเปื้อนในอาหาร ท้ังน้ีศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไดท้ ำ� การทดสอบในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารดว้ ยการตม้ นาํ้ ในหมอ้ ทใี่ ชโ้ ลหะผสมตะกวั่ เปน็ ตวั ประสาทรอยตอ่ ตอ่ เนอื่ ง
3-9 ช่วั โมง พบวา่ มีสารตะกัว่ ละลายปนเป้อื นในน้ําต้มและมปี ริมาณมากขึ้น ถ้ามสี ว่ นผสมของเกลือ และ
สารนถี้ า้ เขา้ สรู่ า่ งกายจะไมส่ ามารถยอ่ ยสลายได้ จะไปสะสมทก่ี ระดกู ตบั ไต กลา้ มเนอื้ และระบบประสาท
สว่ นกลางมผี ลตอ่ รา่ งกาย ในเดก็ จะมรี ะดบั สตปิ ญั ญาตาํ่ กวา่ เดก็ ปกตเิ ปน็ สาเหตขุ องการเกดิ โรคมะเรง็ และ
ยงั มผี ลตอ่ การทำ� ลายระบบประสาทสว่ นปลาย ทำ� ใหเ้ ปน็ อมั พาตทน่ี ว้ิ เทา้ และมอื ทำ� ลายเซลลส์ มอง ทำ� ลาย
การทำ� งานของไขกระดูก มีผลต่อระบบทางเดนิ อาหารและระบบเลอื ด
จากข้อมูลข้างต้นท�ำให้เกิดความตระหนักในการเลือกใช้ภาชนะในการต้มอาหารโดยเฉพาะ
ก๋วยเต๋ียวเป็นอาหารที่ท�ำง่าย และได้รับความนิยมของผู้บริโภค ในปัจจุบันมีการผลิตหม้อต้มก๋วยเตี๋ยว
4 ชนดิ ดงั น้ี
1) หมอ้ ต้มกว๋ ยเต๋ยี วชนดิ ใช้ตะก่ัวเปน็ ตัวประสานรอยเชื่อมต่อของตะเขบ็
2) หมอ้ ตม้ กว๋ ยเตีย๋ วชนิดใช้วิธีการเช่ือมแบบ TIG (Tungsten Inert Gas) เปน็ การเช่ือม
โดยใชก้ ระแสไฟฟา้ ผา่ นทางเครอื่ งเชอื่ มทม่ี หี วั เชอ่ื มทำ� จากโลหะทงั สเตน เพอ่ื ใหค้ วามรอ้ นสงู ในการหลอม
โลหะ ในท่ีนีค้ อื สแตนเลสซึง่ ตอ้ งใชค้ วามร้อนสูงถึง 1,600 องศาเซลเซียส จนท�ำใหเ้ นอื้ สแตนเลสผสานกัน
และในระหว่างการเช่ือมจะใช้แก๊สเฉ่ือยเป็นตัวเชื่อม เช่น ใช้อาร์กอนมาปกคลุมรอยเช่ือมเพ่ือป้องกันการ
เกดิ ปฏิกริ ิยาระหวา่ งโลหะกับแกส๊ ออกซิเจนและท�ำใหแ้ นวเชอ่ื มมีความคงทนสงู
3) หม้อต้มก๋วยเตย๋ี วชนดิ ขึ้นรปู ผลติ ภณั ฑไ์ มม่ ีรอยตะเข็บ ทีม่ ีข้อจำ� กัดคอื มีราคาแพง และ
ไมส่ ามารถแบ่งช่องยอ่ ยไดใ้ นกระบวนการผลิต
4) หม้อต้มกว๋ ยเตย๋ี วชนดิ ใช้วสั ดอุ ื่นเปน็ ตวั ประสานรอยเชอื่ มตอ่ คอื ดบี กุ ผสมกบั เงิน และ
ดีบุกผสมกับทองแดง ท่ีมีข้อเสียคือ ดีบุกละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหารเม่ือใช้งานได้ระยะหน่ึงจะเกิด
อนั ตรายกบั ผบู้ ริโภค