Page 31 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 31

สารเคมีในชวี ิตประจ�ำวันและสิง่ แวดลอ้ ม 5-21

เร่ืองท่ี 5.1.2
สารเคมีในอาหาร

       อาหารคือส่ิงท่รี ับประทานแล้วมปี ระโยชน์ต่อรา่ งกาย ท�ำให้ร่างกายมีพลงั งานเพ่อื การทำ� งานและ
กิจวัตรประจ�ำวัน ในอาหารประกอบด้วยสารเคมีและยังมีความเก่ียวข้องกับสารเคมีอ่ืนๆ ด้วย ในที่น้ี
จะกล่าวถึงสารเคมีในอาหาร 3 กลุ่ม คือ สารอาหาร สารปรุงแต่งอาหาร และสารปนเปื้อนและสารพิษ
ในอาหาร ดังรายละเอยี ดดังนี้

1. 	สารอาหาร

       ตามท่ีได้กล่าวแล้วว่า สารอาหาร คือ สารท่ีรับประทานแล้วท�ำให้ร่างกายมีพลังงาน และช่วย
ซอ่ มแซมสว่ นท่ีสกึ หรอของรา่ งกายมี 6 ประเภท และอาจแบ่งสารอาหารได้ 2 กลุ่ม คอื กลุ่มทีใ่ หพ้ ลังงาน
และกลุ่มที่ไม่ให้พลังงาน แต่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายรวมถึงการช่วยควบคุมให้ระบบของ
รา่ งกายทำ� งานไดอ้ ยา่ งปกติ ดงั จะไดก้ ล่าวถงึ ตอ่ ไปนี้

       1.1	 สารอาหารกลุ่มท่ีให้พลังงานกับร่างกาย สารอาหารกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี และ
ไขมนั มอี งค์ประกอบหลักคอื คารบ์ อน (C) ไฮโดรเจน (H) ออกซเิ จน (O) และไนโตรเจน (N)

       1.2	 สารอาหารที่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย สารอาหารกลุ่มน้ี ได้แก่ วิตามิน เกลือแร่ และนํ้า
ท�ำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมถึงการช่วยควบคุมให้ระบบของร่างกายท�ำงานได้อย่าง
ปกติ ประกอบดว้ ย ธาตปุ รมิ าณน้อย 7 ธาตุ และธาตปุ รมิ าณนอ้ ยมาก 13 ธาตุ ดงั นี้

            1.2.1	 ธาตทุ ่ีมปี ริมาณนอ้ ย 7 ธาตุ ได้แก่ แคลเซียม (Ca) ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซี่ยม
(K) ซลั เฟอร์หรอื กำ� มะถัน (S) โซเดยี ม (Na) คลอรีน (Cl) และแมกนีเซีย (Mg)

            1.2.2	 ธาตทุ ่มี ปี ริมาณนอ้ ยมาก 13 ธาตุ ไดแ้ ก่ เหล็ก (Fe) ไอโอดนี (I) ทองแดง (Cu)
สงั กะสี (Zn) แมงกานสิ (Mn) โคบอลต์ (Co) โครเมยี ม (Cr) เซเลเนยี ม (Se) โมลบิ ดนิ มั (Mo) ฟลอู อรนี
(F) ดบี กุ (Sn) ซิลกิ อน (Si) และเวนาเดยี ม (Vd)

       ธาตุแต่ละชนิดมีหน้าท่ีและบทบาทส�ำคัญที่ท�ำให้มนุษย์สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น เป็น
สว่ นประกอบสำ� คญั ของสารชวี โมเลกลุ เปน็ องคป์ ระกอบของสารประกอบอนื่ ในรา่ งกาย และเปน็ องคป์ ระกอบ
ของโครงสร้างของร่างกาย และยังมบี ทบาทในปฏิกริ ิยาเคมี ในกระบวนการต่างๆ ของร่างกายด้วย

2. 	สารปรุงแต่งอาหาร

       สารปรงุ แตง่ อาหารหมายถงึ สารปรงุ รส และแตง่ สอี าหารใหน้ า่ รบั ประทาน สารปรงุ รสอาหารไมใ่ ช่
อาหารเพราะไม่ได้ท�ำให้เกิดพลังงานหรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่อาจเข้าไปมีส่วนเก่ียวข้องกับ
กระบวนการทำ� งานของรา่ งกาย แตเ่ ปน็ สารทใ่ี ชป้ รงุ แตง่ กลน่ิ และรสชาตขิ องอาหารใหน้ า่ รบั ประทาน ในทน่ี ี้
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36