Page 62 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 62
6-52 ความรเู้ บื้องต้นการสื่อสารชุมชน
คขู่ นานไปกับ “โลกจริง” โดยในทนี่ ี้ยังมีเรียกพื้นทช่ี มุ ชนเสมือนนอี้ ยา่ งยอ่ วา่ เป็น พื้นที-่ โลก “ออนไลน์”
(On line) และพื้นทีใ่ นโลกจริงทอ่ี ยู่นอกพ้ืนท่ีเสมือนน้วี ่า พ้นื ท่ี-โลก “ออฟไลน์” (Off line)
พื้นท่ีแบบใหม่เช่นนี้จึงเอ้ือต่อการพัฒนาทางการเมืองและความสัมพันธ์ในทางการเมืองรูปแบบ
ใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน คือประเด็น “ความสัมพันธ์ทางอ�ำนาจ” ในโลกของ “สังคมเครือข่าย” (Network
Society) ซงึ่ มานเู อล คาสเทล (Manuel Castells) นกั สังคมวิทยาเช้อื สายสเปน อธบิ ายลกั ษณะความ
สัมพันธแ์ บบใหมไ่ ว้ 4 ประการ คือ
1) อำ� นาจของเครอื ขา่ ย (Networking Power) ขน้ึ อยกู่ บั ตวั แสดงและองคก์ รรวมอยใู่ นเครอื ขา่ ยน้ี
ไดส้ ถาปนา “แกน” ของเครอื ขา่ ยสงั คมโลกเหนอื สงั คมและปจั เจกที่ไม่ไดอ้ ยูใ่ นเครอื ขา่ ยอันนี้
2) อ�ำนาจเป็นผลมาจาก “มาตรฐาน” ที่ก�ำหนดข้ึนมาจากปฏิสัมพันธ์ภายในเครือข่ายนี้ ซ่ึงใน
กรณีนี้ “อำ� นาจ” หาไดเ้ กิดจากการ “แยกตัวออก” (Exclusion) แตเ่ ป็นผลมาจากการสะสมจากกฎของ
การ “รวมกันเขา้ ” (Inclusion)
3) อ�ำนาจของเครือข่าย เกิดจากอ�ำนาจของตัวแสดงทางสังคมท่ีมีอยู่เหนือตัวแสดงอ่ืนๆ ใน
เครอื ขา่ ยรปู ลกั ษณ์และกระบวนการของอำ� นาจเครือขา่ ยมีลักษณะอย่างจำ� เพาะอยใู่ นแตล่ ะเครอื ขา่ ย
4) เครอื ขา่ ย–การสรา้ งอำ� นาจ อำ� นาจนน้ั มาจากการวางโปรแกรมเครอื ขา่ ยเฉพาะทมี่ คี วามสนใจ
อย่างจ�ำเพาะและค่านิยมบางอย่างของโปรแกรมเมอร์ เป็นอ�ำนาจของการสลับสับเปล่ียนเครือข่าย ตาม
ยทุ ธศาสตร์ทีส่ อดรับกบั แนวรว่ มระหวา่ งตัวแสดงท่มี พี ลังในการชกั จูงครอบง�ำกบั เครือขา่ ยที่หลากหลาย
ข้อเสนอของคาสเทล เป็นได้จริงหรือไม่ เม่ือลองส�ำรวจดูอย่างเร็วๆ ก็พบว่ามีข้อเสนอที่ส�ำคัญ
จาก เอรคิ ชมทิ (Eric Schmidt) และ จาเร็ต โคเฮน (Jared Cohen) แห่งกูเกลิ กลา่ วไวใ้ นหนังสือทชี่ ื่อ
The New Digital Age (2013) โดยเฉพาะในบทที่ 4 ทวี่ า่ ด้วย “อนาคตของการปฏิวตั ”ิ อย่างสรปุ ว่า
แมแ้ นวโน้มของการลุกฮอื ขน้ึ ตอ่ ตา้ นรฐั (Uprising) ในปจั จบุ ันจะมแี นวโน้มทีส่ งู ขน้ึ จากพืน้ ท่ที ีเ่ ปดิ กวา้ ง
ตอ่ การแสดงความคดิ เหน็ ทร่ี องรบั จากระบบคราวซอสซงิ่ แตก่ พ็ บวา่ ความยงั่ ยนื ของการปฏวิ ตั นิ น้ั กลบั เปน็
เรื่องท่ีท�ำได้ยากกว่ามาก เพราะว่าในโลกแบบ “ออฟไลน์” นั้นเรียกร้องศักยภาพของการบริหารจัดการ
ทางการเมืองต่างๆ อีกทั้งเรียกร้องประสบการณ์ทางการเมืองท่ีจะต้องฟันฝ่าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซ่ึงก็พบว่ามีความล้มเหลวของการปฏวิ ตั ทิ ่เี มื่อเปล่ียนแปลงและโค่นล้มอำ� นาจเดมิ ไปแลว้ แต่กไ็ มส่ ามารถ
ท่ีจะ “พิทักษ”์ การปฏิวัติเอาไวไ้ ด้
การปฏิวัติแบบเดิมในโลก “ออฟไลน”์ นั้นมีธรรมชาติของความสมั พันธท์ างอำ� นาจแบบ “แกน”
(Node) และไล่ล�ำดับจากบนสู่ล่าง ในขณะที่แบบ “ออนไลน์” ความสัมพันธ์นั้นเป็นไปแบบไร้แกน ใน
อดีตแกนน�ำของการปฏิวัติน้ันเปน็ “เอกสิทธิ”์ ของคนกล่มุ น้อยทีถ่ ูกการ “จดั ตั้ง” และรับเขา้ มาสขู่ บวน
(Recruit) ในแบบทเ่ี ปน็ ความลบั ไดร้ บั การอบรมอยา่ งพเิ ศษจากตา่ งประเทศ ในขณะทก่ี ารปฏวิ ตั สิ มยั ใหม่
กลบั อาศยั การใชแ้ พลตฟอรม์ ทเี่ ราคนุ้ เคยกนั ดี มาระดมผคู้ นโดยไดส้ ลายอภสิ ทิ ธข์ิ องแกนนำ� เหลา่ นอี้ อกไป
ทง้ั นโี้ ลกแบบใหมย่ งั ลดความลงั เลในการเขา้ รว่ มขบวนในพนื้ ทอ่ี อนไลน์ เชน่ บทบาทของผหู้ ญงิ ในอาหรบั
สปรงิ เขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการเคลอ่ื นไหวเปน็ อยา่ งมาก รวมถงึ การระดมเขา้ สกู่ ารเคลอ่ื นไหวในพนื้ ที่ “ออฟ
ไลน์” ด้วย ครอบคลุมถึงระบบสนับสนุนทางการเงินออนไลน์ก็เอื้ออย่างมากในการท่ีจะระดมทุนเพ่ือ
สนบั สนุนการเคล่อื นไหวนีด้ ว้ ย