Page 31 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 31
การส่อื สารชุมชนกบั การพฒั นาสตรใี นชุมชน 9-21
เร่ืองที่ 9.1.4
การพัฒนาสตรีในสังคมไทย
การพัฒนาสตรีในสังคมไทยสามารถแบ่งช่วงเวลาการพัฒนาตามการเปล่ียนแปลงทางสังคมไทย
ซ่ึงส่งผลต่อสถานะของผู้หญิงไทยได้เป็น 3 ยุค คือ ช่วงก่อนการเปล่ียนแปลงการปกครอง ช่วงหลัง
เปลยี่ นแปลงการปกครอง และชว่ งหลงั จากสหประชาชาตปิ ระกาศปสี ตรสี ากลใน พ.ศ. 2518 ดงั รายละเอยี ด
ตอ่ ไปน้ี
1. ช่วงก่อนการเปล่ียนแปลงการปกครอง
สำ� หรบั สงั คมไทยกบั การพฒั นาสตรนี นั้ กลา่ วไดว้ า่ เรม่ิ ตน้ จากการปรบั ปรงุ พระราชบญั ญตั ผิ วั เมยี
ในสมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว ในปี พ.ศ. 2411 ท่รี ะบวุ ่า “การที่กฎหมายยอมใหผ้ วั ขาย
เมยี ได้ เสมอื นหนึ่งผหู้ ญิงเป็นควาย ผชู้ ายเปน็ คน หายุติธรรมไม่ ให้ยกเลิกเสีย” นอกจากน้นั พระองคย์ งั
ได้สนับสนุนในพระราชธิดามีโอกาสทางการศึกษาทัดเทียมกับพระราชโอรส ส่วนในทางศาสนาพระองค์
ทรงแก้ไขพระราชพิธีเพ่อื ล้างอิทธพิ ลของศาสนาพราหมณ์ทีก่ ดบทบาทของผหู้ ญงิ ซ่งึ ในทางออ้ มส่งผลให้
สถานะของผู้หญิงสูงข้ึน ประกอบกับในขณะน้ันสังคมไทยได้รับอิทธิพลจากการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของ
มชิ ชนั นารที เี่ ขา้ มาใหก้ ารศกึ ษา ทำ� ใหผ้ หู้ ญงิ ไทยมโี อกาสทางการศกึ ษามากยง่ิ ขนึ้ (ฉตั รสมุ าลย์ กบลิ สงิ ห,์
2539)
ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงโปรดใหม้ กี ารเลกิ ทาสท�ำใหท้ ง้ั หญงิ และชาย
พ้นจากการซอื้ ขาย รวมทง้ั ยงั โปรดให้ต้ังโรงเรยี นส�ำหรับผหู้ ญงิ นอกราชส�ำนกั คอื โรงเรยี นกลุ สตรีวังหลงั
(ปจั จุบันคือโรงเรยี นวัฒนาวทิ ยาลัย) ซึง่ ในหลักสูตรนอกจากจะสอนใหผ้ ้หู ญิงให้อา่ นออกเขียนไดแ้ ล้ว ยงั
ประกอบดว้ ยการบรหิ ารกิจการงานในบา้ น เชน่ สอนท�ำอาหาร เย็บปกั ถกั ร้อย และงานฝมี อื อ่นื ๆ กล่าว
กันวา่ ลูกสาวบ้านใดจบการศกึ ษาจากโรงเรียนนี้ จะมีข้าราชการหนุ่มมาจับจองเพ่อื ขอแตง่ งานเปน็ จำ� นวน
มาก
ตอ่ มาสมยั รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงมสี ว่ นในการยกสถานภาพหลายๆ
ดา้ นของผหู้ ญิง เช่น กำ� หนดใหม้ กี ารศกึ ษาภาคบังคับให้เด็กหญงิ และเดก็ ชายมโี อกาสไดเ้ รียนหนังสอื เท่า
เทยี มกนั ผหู้ ญงิ มโี อกาสไปศกึ ษาตอ่ ยงั ตา่ งประเทศ และทรงสนบั สนนุ ใหผ้ หู้ ญงิ ออกมามกี จิ กรรมทางสงั คม
มากขึ้น มกี ารเปลี่ยนแปลงเรอื่ งการแตง่ กายซงึ่ รบั อิทธิพลมาจากยโุ รป นอกจากน้ยี งั ทรงสนบั สนุนใหก้ าร
แตง่ งานแบบผัวเดียวเมยี เดยี ว (monogamy) ตามแบบท่ีปฏบิ ตั ิกันในยุโรป ซ่ึงภายหลงั นักวิชาการ เชน่
นิธิ เอียวศรวี งศ์ และยศ สนั ตสมบตั ิ ไดว้ ิเคราะหว์ า่ การรบั วัฒนธรรมจากตะวนั ตกดงั กลา่ วทำ� ให้สถานะ
ของผู้หญงิ ตกต�่ำลง เน่อื งจากผ้หู ญิงถกู ทำ� ใหก้ ลายเปน็ วัตถุทางเพศดงั ท่ีไดก้ ลา่ วไปแลว้