Page 34 - การศึกษาชุมชนเพื่อการวิจัยและพัฒนา
P. 34

7-24 การศกึ ษาชุมชนเพื่อการวจิ ัยและพัฒนา

เรื่องที่ 7.2.1
หลักการการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ

       วิธีวิทยาวิจัยเชิงปริมาณยืนอยู่บนความเชื่อพื้นฐาน หรือกระบวนทัศน์ท่ีเชื่อว่าหลักการทาง
วิทยาศาสตร์เป็นวิธีการเดียวท่ีมีความถูกต้องแม่นย�ำ ไม่มีความล�ำเอียงในการเสาะแสวงหาและศึกษา
“ความจริง” ทั้งน้ีเพราะฐานคติเชิงปรัชญาของวิธีวิทยาเชิงปริมาณ คือ กระบวนทัศน์แบบปฏิฐานนิยม
(positivism) ที่ให้ความส�ำคัญกับการสืบค้นธรรมชาติของปรากฏการณ์ที่สนใจมากกว่า การแสวงหา
มลู เหตรุ ะดับรากฐานทส่ี ุดของปรากฏการณ์ (องอาจ นัยพฒั น์, 2551)

       องอาจ นยั พัฒน์ (2551) ไดส้ รุปหลกั การพน้ื ฐานของวธิ วี ทิ ยาเชิงปรมิ าณ ทส่ี ำ� คญั ดังน้ี
       1.	 เชอ่ื วา่ ความรแู้ ทแ้ ละความจรงิ สงู สดุ สามารถเขา้ ถงึ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งแมน่ ยำ� และเชอื่ ถอื ได้ ดว้ ย
วธิ กี ารทดลองและการจดั กระทำ� ทางวทิ ยาศาสตร์ เชอื่ มโยงขอ้ เทจ็ จรงิ ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ โดยเรม่ิ กำ� หนด
ประเดน็ ปญั หา ตงั้ สมมติฐาน ทดสอบด้วยข้อมลู เชิงประจักษ์
       2. 	การสบื คน้ หาความรู้ อาศยั การวดั คา่ เชงิ ปรมิ าณ ดว้ ยการกำ� หนด “ตวั เลข” แทนสงิ่ ตา่ งๆ หรอื
ปรากฏการณ์ ค่านิยม ความเช่ือตา่ งๆ แลว้ นำ� ตวั เลขท่วี ัดไดม้ าวิเคราะหด์ ว้ ยวิธกี ารทางสถิติ ทเ่ี ช่อื ว่าไม่มี
ความล�ำเอยี ง และเป็นกลาง
       3.	 มุ่งพิสูจน์ความถูกต้องยืนยันทฤษฎี อธิบายความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ ท�ำนายและควบคุม
ปรากฏการณท์ นี่ ักวจิ ยั ศกึ ษา โดยทดสอบสมมตฐิ านทต่ี ัง้ ขน้ึ ลว่ งหนา้
       4.	 ธรรมชาติของปัญหาน�ำวิจัย ทราบตัวแปรแน่ชัด ใช้กรอบแนวคิดทฤษฎีเป็นรากฐานในการ
สบื คน้
       5.	 ผวู้ จิ ัยหรอื ผู้วเิ คราะห์ขอ้ มลู ต้องมที ักษะและความรู้เกยี่ วกบั วธิ กี ารทางสถติ ิ
       6.	 กลุ่มตัวอย่างของการวิจัย มีลักษณะขนาดใหญ่ เป็นตัวแทนของประชากรโดยอาศัยการสุ่ม
ตวั อย่างโดยอิงกับทฤษฎคี วามน่าจะเปน็
       7.	 วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้เคร่ืองมือท่สี รา้ งขึน้ เช่น แบบสอบถาม แบบทดสอบ และมาตร
ประมาณค่า
       8.	 วธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ มลู ใชว้ ธิ กี ารแบบนริ นยั (deduction) โดยวธิ กี ารทางสถติ วิ เิ คราะห์ ขอ้ มลู
ของข้อสรปุ อยใู่ นรปู ตัวเลข
       เมอื่ พจิ ารณาเฉพาะขอ้ ทวี่ า่ ดว้ ยการวเิ คราะหข์ อ้ มลู คอื ขอ้ 8 ซงึ่ กลา่ วถงึ วธิ กี ารแบบนริ นยั หมายถงึ
การค้นหาความรู้ความจริงโดยการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริงใหญ่ที่มีลักษณะกว้างๆ หรือส่วนใหญ่ไปหา
ขอ้ เทจ็ จรงิ ยอ่ ย แลว้ จงึ หาขอ้ สรปุ ทเี่ ปน็ เหตผุ ลระหวา่ งขอ้ เทจ็ จรงิ ใหญก่ บั ขอ้ เทจ็ จรงิ ยอ่ ย โดยสามารถแสดง
องคป์ ระกอบ 3 อยา่ ง พร้อมตัวอยา่ งไดด้ ังนี้ (ณรงค์ โพธิ์พฤกษานันท,์ 2556, น. 20)
       ข้อเท็จจริงใหญ่ ซ่ึงเป็นเหตุใหญ่ หรือเหตุการณ์หรือสาเหตุใหญ่ท่ีบอกถึงลักษณะท้ังมวลกว้างๆ
ในเร่ืองนน้ั ๆ
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39