Page 41 - สังคมมนุษย์
P. 41
มนษุ ย์กับสถาบนั สังคมและการจัดช่วงชนั้ ทางสงั คม 3-31
จะเป็นพหสูตรรอบรู้ มีคุณธรรม และมีจิตส�ำนึกท่ีจะเป็นคนระดับมันสมองของประเทศในกิจการท้ังปวง
ดงั นนั้ การศกึ ษาทจี่ ะสบื ทอดวฒั นธรรม (Cultural Transmission) จงึ ไมเ่ กดิ ประโยชนป์ ระกอบกบั สภาพ-
การณใ์ นการมุ่งพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศใหเ้ ป็นประเทศอตุ สาหกรรมใหม่เพอ่ื ความรา่ํ รวย จึงสง่ ผลให้
ความหวังท่ีจะใช้การศึกษาเป็นเคร่ืองมือส�ำคัญในการสืบทอดวัฒนธรรมก็คงจะหมดความหมายและไม่มี
การปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นจรงิ ไดเ้ ลย
ดังนั้นการศึกษาระดับอุดมศึกษาจึงขาดศักยภาพในการพัฒนางานวิชาการ การควบคุม
คณุ ภาพการศกึ ษาไมด่ พี อ มกี ารเปดิ หลกั สตู รทไี่ มไ่ ดค้ ณุ ภาพ (www.kriengsak.com/node/1207 สบื คน้
เมื่อวนั ที่ 10 พฤศจกิ ายน 2557)
7) การจัดการศกึ ษา 12 ปี ไมไ่ ด้ฟรจี รงิ อย่างทคี่ ดิ เพราะตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.
2550 มาตรา 49 และ พรบ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มผี ลให้ผเู้ รยี นทกุ คนตอ้ งได้รับ
การศึกษาขนั้ พื้นฐานที่มคี ุณภาพไมน่ อ้ ยกว่า 12 ปี โดยไมเ่ สยี ค่าใช้จ่าย แตใ่ นความเปน็ จริงมเี พยี งรอ้ ยละ
36.8 ที่ไม่เก็บค่าใช้จ่าย และร้อยละ 63.2 มีการเก็บค่าใช้จ่าย เน่ืองจากงบประมาณที่จัดสรรให้และเงิน
อดุ หนนุ ไมเ่ พยี งพอกบั คา่ ใชจ้ า่ ยจรงิ ทโ่ี รงเรยี นตอ้ งรบั ผดิ ชอบประกอบกบั ไมม่ กี ฎหมายลกู รองรบั ตงั้ แตแ่ รก
ขณะทผี่ บู้ รหิ ารการศกึ ษาเขา้ ใจดวี า่ หากปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายจะทำ� ใหง้ บประมาณไมเ่ พยี งพอ จงึ หาชอ่ งทาง
โดยการจดั โปรแกรมพเิ ศษตา่ งๆ เพอื่ หารายได้ และยงั สรา้ งความไมเ่ ทา่ เทยี มทางการศกึ ษาเพราะคนรวย
ไดเ้ ปรยี บคนจน
2.5 สถาบันศาสนา เป็นสถาบันที่ตอบสนองและเสริมสร้างความม่ันคงของจิตใจ ธ�ำรงรักษา
จรยิ ธรรมและคณุ ธรรม ศาสนาเปน็ สงิ่ ศรทั ธาเชอ่ื ถอื และปฏบิ ตั ติ ามคำ� สอนแสดงถงึ ธรรมจรรยา เพอ่ื ใหเ้ กดิ
สง่ิ ดงี ามตอ่ ชวี ติ ผทู้ ยี่ ดึ ถอื ปฏบิ ตั ติ ามเกดิ ความมน่ั คงทางจติ ใจ กฎเกณฑแ์ หง่ ศลี ธรรมชว่ ยใหก้ ระทำ� ดี ความ
สงบสขุ ทางสงั คม และปลกู ฝังค่านิยมทถ่ี ูกต้อง ศาสนาจงึ ท�ำหนา้ ที่สร้างความเป็นระเบยี บทางจติ ใจ
สังคมไทยเป็นสังคมทม่ี คี วามศรัทธาและนบั ถอื ศาสนาตา่ งๆ กนั หลายศาสนา เน่ืองจากชาวไทย
มีเสรีภาพในการเลือกนับถือศาสนาได้โดยเสรี ดังนั้นคนไทยจึงมีการนับถือศาสนาแตกต่างกัน คนไทย
ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาตามบรรพบุรุษของตน ศาสนาที่คนไทยนับถือมากตามล�ำดับมี 4 ศาสนา คือ
ศาสนาพุทธคนไทยนับถือมากที่สุดถึงร้อยละ 95.4 ของคนไทยท้ังหมด ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่
ชาวไทยนับถอื มาเป็นอันดบั สองคิดเป็นรอ้ ยละ 3.7 ของประชากรทัง้ หมด ชาวไทยทน่ี ับถือศาสนาอสิ ลาม
ส่วนใหญอ่ าศยั อยู่ใน 4 จังหวดั ภาคใต้ ไดแ้ ก่ จงั หวดั ปตั ตานี ยะลา สตลู และนราธวิ าส
ศาสนาครสิ ตเ์ ปน็ ศาสนาที่มคี นไทยนับถอื มากเป็นอนั ดบั 3 มผี ู้นับถือประมาณร้อยละ 0.6 ของ
ประชากรทงั้ หมด คนไทยทน่ี บั ถอื ศาสนาครสิ ตส์ ว่ นใหญอ่ าศยั อยใู่ นกรงุ เทพฯ และในจงั หวดั เชยี งใหม่ และ
ศาสนาฮนิ ดหู รอื ศาสนาพราหมณ์ มคี นไทยนบั ถอื ประมาณรอ้ ยละ 0.1 และศาสนาอน่ื ๆ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.2
ของประชากรท้งั ประเทศ (ทศั นีย์ ทองสวา่ ง, 2549, น. 190)
ประเทศไทยมศี าสนาพทุ ธเปน็ ศาสนาประจำ� ชาติ บทบาทของพระสงฆค์ อื ผสู้ บื ทอดศาสนาดว้ ยวธิ ี
ศึกษาปฏิบัตธิ รรม วนิ ยั และเผยแพรพ่ ระธรรมใหเ้ กิดกรอบศลี ธรรมส�ำหรบั ด�ำเนนิ ชีวติ แกพ่ ุทธศาสนกิ ชน
จริยธรรมมีผลควบคุมและจัดการชีวิตได้เท่าเทียมกับวัตถุนิยมเมื่อชาวพุทธละลดเลิกจากความเชื่อและ
พธิ กี รรมของลทั ธพิ ราหมณ์ ลทั ธวิ ญิ ญาณนยิ มทตี่ ดิ ปนอยกู่ บั ศาสนาพทุ ธ เชน่ เลกิ ศรทั ธาตอ่ การสรา้ งวตั ถุ