Page 46 - การวางแผน การออกแบบ และการผลิตสื่อชุมชน
P. 46

15-36 การวางแผน การออกแบบและการผลติ สอื่ ชมุ ชน
ผู้สนับสนุนศิลปิน ช่วยเป็นลูกหาบขนของ ช่วยสร้างโรงหรือเวทีแสดง ช่วยประชาสัมพันธ์ ช่วยเป็น
ผู้อุปถัมภศ์ ลิ ปิน ฯลฯ แต่มาถงึ ปัจจบุ ัน สงั คมสมัยใหมม่ แี นวโนม้ จะตดั ขาดความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผ้สู ง่ สาร
กับผรู้ บั สารใหแ้ ยกขาดจากกัน โดยศลิ ปนิ กจ็ ะมหี นา้ ทแี่ สดงแตเ่ พียงอยา่ งเดียว ในขณะท่ีปกี ของผ้รู บั สาร
กจ็ ะเหลอื แตบ่ ทบาทเป็นผู้รับชมศิลปะเทา่ นั้น โดยเฉพาะปัญหาของการดึงเยาวชนรุ่นใหมใ่ ห้ตัดขาดออก
ไปจากกระบวนการสอ่ื สารแบบมสี ่วนรว่ ม (participatory communication) ของศลิ ปะการแสดง ดังน้นั
กลยทุ ธก์ ารทำ� งานทกุ วันนจ้ี ึงควรเนน้ การขยายสมรรถนะทางการสอ่ื สารของส่อื พน้ื บ้านออกไป และสร้าง
การมสี ว่ นรว่ มของผรู้ บั สารใหเ้ กดิ สำ� นกึ “ความเปน็ เจา้ ของมรดกวฒั นธรรม” รว่ มกนั เชน่ โครงการทำ� งาน
ของศิลปินหนังตะลุงกลุ่มหน่ึงในจังหวัดสงขลา ได้เล็งเห็นว่า ทุกวันนี้เม่ือกล่าวถึงส่ือหนังตะลุงพ้ืนบ้าน
คนจ�ำนวนมากจะนึกถึงเฉพาะบรรยากาศการแสดงท่ีเกิดข้ึนหน้าโรง/เวทีหนังตะลุงเท่านั้น ซึ่งในช่อง
ทางการสอื่ สารแบบน้ี จะทำ� ใหผ้ ชู้ มมสี ถานะเปน็ เพยี งผรู้ บั สารและเขา้ มสี ว่ นรว่ มในสอ่ื ไดจ้ ำ� กดั ดงั นนั้ พวก
เขาจงึ สนใจขยายศกั ยภาพของสอื่ โดยพฒั นาเปน็ กจิ กรรม “การฝกึ แกะสลกั ตวั หนงั ” ทม่ี ที งั้ ศาสตรแ์ ละศลิ ป์
และรหัสความเช่ือเรื่องการเคารพครู และในขณะเดียวกัน ก็สามารถใช้พ้ืนท่ีการสื่อสารเพ่ือฝึกแกะสลัก
ตวั หนังดงึ การมสี ่วนรว่ มของผู้รบั สารรุ่นใหมๆ่ เขา้ มา นอกเหนอื จากจะมีเฉพาะการฝึกให้เยาวชนมาเปน็
ศิลปินเชิดหนังตะลุงเพยี งด้านเดยี วเทา่ นน้ั

       7. 	กลยุทธ์การผสมผสานเก่าใหม่ เนื่องจากวัฒนธรรมชุมชนไม่ได้มีลักษณะที่หยุดนิ่ง หากแต่
เคลอ่ื นไหวเปลย่ี นแปลงไปตลอดเวลา (dynamic) ดงั นน้ั เมอื่ ตอ้ งเผชญิ หนา้ กบั สอื่ หรอื วฒั นธรรมสมยั ใหม่
กไ็ มไ่ ดแ้ ปลวา่ สอื่ พน้ื บา้ นจะมดี า้ นทย่ี อมถกู ครอบงำ� เสมอไป หากแตส่ ามารถขยายศกั ยภาพไปผสมผสาน/
ปรบั ประยกุ ต์ (articulation/hybridisation) แบบ “ของเกา่ กไ็ มท่ งิ้ ไป ของใหมก่ เ็ กบ็ ไวไ้ ด”้ แตท่ งั้ นี้ ตอ้ ง
ขึน้ อยกู่ บั ขอ้ ตกลงของบรรดาเจ้าของวัฒนธรรมทุกกลุ่ม (cultural stakeholders) ท่จี ะมาสื่อสารรว่ มกัน
เพื่อวิเคราะห์ให้เห็นว่า องค์ประกอบใดบ้างของสื่อพ้ืนบ้านที่เป็น “แก่น” ซึ่งปรับเปลี่ยนไม่ได้ และ
องค์ประกอบใดบ้างทีม่ ีสถานะเปน็ “เปลือก/กระพ”้ี ทีป่ รบั เปลี่ยนได้โดยไม่กระทบกบั คุณค่าความหมาย
จริงๆ ของวฒั นธรรม เชน่ กรณีของเพลงโคราชทีเ่ ม่อื ต้องปรบั ตัวเพอ่ื สื่อสารกบั คนรนุ่ ใหม่ซง่ึ ความสนใจ
เรม่ิ จะจางหายไป ศลิ ปนิ ไดม้ าประชมุ กนั เพอ่ื ออกแบบกจิ กรรมสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมแบบผสมผสานระหวา่ ง
เพลงโคราชเดมิ กบั การแสดงประยกุ ตร์ ว่ มสมยั ทคี่ ณะทำ� งานเรยี กวา่ “เพลงโคราชซงิ่ ” หรอื “เพลงโคราช
ซูเปอร์แดนซ์” และจัดประกวดเพลงโคราชประยุกต์ในโรงเรียน โดยมีศิลปินในสังกัดสมาคมเพลงโคราช
เป็นครูพ่ีเลี้ยงคอยฝึกสอน อย่างไรก็ดี เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดการประยุกต์ที่ผิดเพี้ยนไปที่ “แก่น” ศิลปิน
เหลา่ นจี้ งึ ลงมอื ประชมุ วเิ คราะหส์ อ่ื รว่ มกนั วา่ องคป์ ระกอบสว่ นใดบา้ งทปี่ รบั เปลยี่ นไมไ่ ดเ้ ลย (อาทิ บทไหว้
ครู บทไหว้ย่าโม การเทียบเสยี ง “โอโ้ อ”่ กอ่ นการแสดง ส�ำเนียงรอ้ งท่ตี อ้ งเป็นภาษาโคราช และการมบี ท
ปฏิพากย์หญิงชาย) กับองค์ประกอบส่วนใดบ้างท่ีปรับเปล่ียนได้ให้เหมาะกับรสนิยมของเยาวชนรุ่นใหม่
(อันได้แก่ ท่วงทา่ จงั หวะดนตรี เนอื้ ร้อง การเต้น) และเม่ือวเิ คราะห์องคป์ ระกอบสองสว่ นนแ้ี ลว้ กน็ �ำมา
เป็นสูตรผสมผสานเพ่ือออกแบบกิจกรรมการจัดประกวดเพลงโคราชซ่ิงที่ “พบกันครึ่งทาง” ระหว่าง
“สื่อเกา่ ” กับ “สื่อใหม่” ได้อยา่ งลงตวั
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50