Page 33 - พื้นฐานสังคมเเละวัฒนธรรมเขมร
P. 33

ความรู้เกย่ี วกับสงั คมและวัฒนธรรมเขมร 1-23

2. ฝรั่งเศส

       ฝร่ังเศสมีปฏิสัมพันธ์กับเขมรตั้งแต่เร่ิมขยายอิทธิพลและในท้ายที่สุดก็เข้าครอบครอง ชาว
ฝรั่งเศสกลุ่มแรกเป็นมิชชันนารีโดยไปอยู่บริเวณเขตเมืองอุดง ภายหลังจึงมีการร่างสนธิสัญญาใน ค.ศ.
1863 ทาให้ฝร่ังเศสสามารถซื้อไม้สักจากเขมรเพื่อใช้ต่อเรือได้ ชาวฝร่ังเศสสามารถเดินทางไปทั่วประเทศ
ได้อย่างเสรี จึงเป็นจุดตั้งต้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรมของฝร่ังเศส สาหรับเนื้อหาในเร่ืองน้ีจะ
กลา่ วถึงปฏสิ ัมพนั ธใ์ นดา้ นระบบการศกึ ษา โครงสร้างพนื้ ฐาน และวถิ กี ารดารงชวี ติ ดังต่อไปน้ี

       2.1 ระบบการศึกษา ระบบการศกึ ษาเดมิ มี “วัด” เปน็ สถานศกึ ษาหลัก และมี “บ้าน” เปน็ แหล่ง
สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก เมื่อฝรั่งเศสเข้าสู่เขมรก็เริ่มวางระบบการศึกษาตามรูปแบบตะวันตก โดย
ระยะแรกจัดการศึกษาควบคู่กับการศึกษาแบบเดิม จนภายหลังคนเขมรเร่ิมให้ความสนใจระบบ
การศึกษาแบบใหม่ แม้ว่าบางช่วงของประวัติศาสตร์เขมรระบบการศึกษาแบบใหม่จะชะงักไปบ้าง เช่น
ช่วงเขมรแดงในทศวรรษที่ 1970 แต่ภายหลังเมื่อบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภาครัฐก็ฟื้นฟูระบบ
การศึกษาขึ้นอีกครง้ั

       การศึกษาทีฝ่ ร่ังเศสได้วางไวก้ ็ทาให้คนและสังคมเกิดความต่ืนตัวในด้านการปกครองหรือความ
เท่าเทียมของคน เหตุการณ์ในช่วงทศวรรษท่ี 1930 ท่ีมีกลุ่มผู้ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมช้ันสูง
แห่งแรก คือ นักศึกษาวิทยาลัยสีสุวัตถ์ิ ได้ถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์เพ่ือประท้วงการแสดงความ
ลาเอียงต่อนักเรียนเชื้อสายเวียดนาม การเรียกร้องความเท่าเทียมทางสังคมของกลุ่มผู้ได้รับการศึกษา
สะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษาสร้างความต่ืนตัวและความตระหนักในการเป็นสมาชิกของสังคม ท่ีทุก
คนควรได้รับการดูแลจากรัฐ สถานศึกษาบางแห่งมีการจัดตั้งสมาคมนกั เรยี นเกา่ เพื่อดาเนนิ กิจกรรมร่วมกัน
แม้ฝร่ังเศสจะวางรากฐานดา้ นการศึกษาแบบตะวนั ตกไว้กต็ าม แต่ยังคงคานึงถึงขนบธรรมเนียมของเขมร
ไวอ้ ยู่บ้าง เช่น เด็กนักเรยี นชายกบั หญิงจะแยกหอ้ งเรียน (ภายหลงั จากท่เี ดก็ ผู้หญิงได้รบั โอกาสเข้าศึกษา
ในระบบ) รวมถึงปลูกฝังเดก็ ให้อยู่ในกรอบของสังคมท้ังการอยู่รว่ มกนั การกิน การนอนใหเ้ ป็นระเบียบ (Say
Tola in Khmeng Sala Barang in www.khmertime skh.com retrieved 25 December 2018) การวาง
ระบบการศึกษาดังกล่าวทาให้มีการเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศสด้วย แม้ว่าไม่ใช่ทุกโรงเรียนแต่ก็ทาให้
ช่วงท่ีฝรั่งเศสปกครองเขมรมีคนเขมรพูด อ่าน และเขียนภาษาฝรัง่ เศสได้ และภาษาฝรั่งเศสกก็ ลายเป็น
ภาษาท่ีสองของคนเขมรไปโดยปริยาย

       ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบันยึดรูปแบบ 6-3-3 ประกอบด้วยระดับประถมศึกษา 6 ปี
มัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี และมัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี รับผิดชอบโดยกระทรวงศึกษาธกิ าร เยาวชน

และกฬี า (RksgY Gbr; M yuvCn ngi kILa) ระบบการศึกษาของเขมรผ่านการพัฒนาและปรับปรงุ หลายครง้ั
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38