Page 23 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 23
การออกแบบการวิจัย 3-13
หลกั การส�ำคัญอนื่ ๆ ทค่ี วรค�ำนึงในการออกแบบการวจิ ัย
1. ความคลาดเคลอื่ นในการทดสอบสมมตฐิ าน และอำ� นาจของการทดสอบ ในการทดสอบทางสถิติ
จะมีความคลาดเคล่ือนเกิดข้ึนจากการทดสอบสมมติฐานสองประเภท คือ ความคลาดเคล่ือนประเภทที่ I
(Type I error) และความคลาดเคล่ือนประเภทที่ II (Type II error) ความคลาดเคลื่อนประเภทที่ I หรือ α
เกดิ เมอื่ ผวู้ จิ ยั ปฏเิ สธสมมตฐิ านศนู ย์ (null hypothesis: H0) ทงั้ ทสี่ มมตฐิ านศนู ยถ์ กู ตอ้ ง นกั วจิ ยั นยิ มกำ� หนด
ระดับของความคลาดเคลื่อนประเภทท่ี I เป็น α = 0.01 หรือ α = 0.05 ส่วนความคลาดเคลื่อนประเภทที่
II หรือ β เกิดขน้ึ เมอ่ื ผูว้ จิ ัยยอมรับสมมตฐิ านศนู ย์ ทั้งทสี่ มมติฐานศนู ยไ์ มถ่ ูกตอ้ ง ซง่ึ สรุปไดใ้ นตารางที่ 3.1
ตาราง 3.1 ความคลาดเคลอ่ื นในการทดสอบสมมตฐิ าน
การตัดสินใจ ความจริง
ปฏิเสธ H0, ยอมรับ H1 H0 ถกู , H1 ผดิ H0 ผิด, H1 ถกู
ยอมรับ H0, ปฏิเสธ H1 Type I error ตัดสินใจถูกต้อง
ตัดสินใจถูกต้อง Type II error
ไม่ถูกต้อแงตเ่ถป้า็นนกักาวริจตัยัดยสอินมใรจับทส่ีถมูกมตต้อิฐงานทั้งHส0องเมกื่อรณสมี มในตทิฐาานงสHถิต0 ิเถรูกาสตา้อมงาหรถรือคป�ำนฏวิเสณธวส่ามโตอิฐกาานสทH่ีน0ักเวมิจ่ือัยHจะ0
ตัดสินใจได้ถูกต้องมีมากน้อยเพียงใด ดัชนีนี้เรียกว่า อ�ำนาจของการทดสอบสมมติฐาน (power) ซ่ึงหมาย
ถึง ความน่าจะเป็นในการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์ เม่ือสมมติฐานทางเลือก (alternative hypothesis)
ถูกต้อง หรืออาจพูดได้ว่า อ�ำนาจของการทดสอบสมมติฐาน คือ ความน่าจะเป็นในการตัดสินใจได้ถูกต้อง
เมื่อสมมติฐานศูนย์ไม่ถูกต้อง อ�ำนาจของการทดสอบสมมติฐาน ค�ำนวณมาจาก 1 - β
การอธิบายความหมายของอ�ำนาจของการทดสอบสมมติฐาน อยู่ในตัวอย่างดังภาพที่ 3.2 ท่ีมีการ
แจกแจงของค่าคะแนนเมื่อสมมติฐานศูนย์ถูกต้อง (μ = 0) และการแจกแจงของค่าคะแนนเม่ือสมมติฐาน
ทางเลือกถูกต้อง (μ > 0 ) เม่ือ แสดงความคลาดเคลื่อนประเภทท่ี I หรือระดับนัยส�ำคัญ (α) ส่วน
แสดงความคลาดเคล่ือนประเภทที่สอง หรือ β และ แสดงอ�ำนาจของการทดสอบ ซึ่งตามแผนภาพนี้
ค�ำนวณจาก 1-β ณ ต�ำแหน่งของค่าวิกฤต (critical value) บนแกนของค่าคะแนน จะเห็นว่า ถ้าการกระจาย
ของค่าคะแนนห่างกันมากเท่าไร อ�ำนาจของการทดสอบก็จะมากขึ้นด้วย ถ้าก�ำหนด α ให้น้อยลง เช่น จาก
α = .05 เป็น α = .01 ก็จะท�ำให้อ�ำนาจของการทดสอบลดลง เพราะความคลาดเคล่ือนประเภทท่ี II จะ
สูงขึ้น