Page 64 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 64
3-54 การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
เบนมาตรเฐมา่ือนμค1่าแσทนหาคได่าเ้จฉาลกี่ยงใานนสวิจมัยมทตี่เิฐคายนทH�ำใ1น, อμด0ีตแทหนรือคจ่าาเกฉกลา่ียรขทอดงลสอมงมกตับิฐกาลนุ่มHขน1 าแดลเะล็กσ คือ ส่วนเบ่ียง
(pilot study)
ดังน้ัน จะเห็นว่า d เป็นการวัดความแตกต่างของค่าเฉลี่ยในรูปของคะแนนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สูตรในการค�ำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง คือ
n = δ 2
d
เม่ือ δ หาได้จากตารางท่ี 3.6 เช่น ถ้าก�ำหนด α = .05 อ�ำนาจของการทดสอบ = .80 ค่า δ ในตาราง
ที่ 3.6 จะมีค่าเท่ากับ 2.80
ตัวอย่าง ถ้านักวิจัยต้องการตรวจสอบความคิดท่ีว่าค่าเฉลี่ยของไอคิวของกลุ่มตัวอย่างในเมือง
สูงกว่าค่าเฉล่ียในกลุ่มชนบท (μ1 = 105, μ0 = 100 และ σ = 15) โดยก�ำหนด α = .05 และอ�ำนาจของ
การทดสอบ = .80 ดังนั้น จ�ำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ค�ำนวณได้จะเท่ากับ
n = 2.80 2
.33
= 71.91 หรือ 72 คน
3.2 การก�ำหนดกลุ่มตัวอย่างส�ำหรับการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียสองกลุ่มท่ีเป็นอิสระต่อกัน การเลือก
กลุ่มตัวอย่างต้องเร่ิมต้นจากการค�ำนวณขนาดอิทธิพล (effect size: d) จากสูตร
d = (μ1 — μ2)
σ
และ n = 2 δ 2
d
ตวั อยา่ งที่ 3.1 ถ้าก�ำหนดอ�ำนาจของการทดสอบ = 0.80 และคาดว่าค่าเฉล่ียของท้ังสองกลุ่มต่างกัน
5 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 10 (α = .05) กลุ่มตัวอย่างท่ีทั้งสองกลุ่มควรใช้ ค�ำนวณดังนี้
d = 5 = 0.5
10
จากตารางท่ี 3.6 เม่ืออ�ำนาจของการทดสอบ = 0.80, α = .05 จะได้ δ เท่ากับ 2.80
ดังนั้น
n = 2.80 2 = 62.72
0.50
ดังน้ันกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ คือ ประมาณกลุ่มละ 63 คน รวม 126 คน