Page 52 - ไทยศึกษา
P. 52

๕-42 ไทยศกึ ษา

       ในสงั คมไทยสมยั ใหม่ โครงสรา้ งชนชน้ั เปลยี่ นลกั ษณะมาเปน็ ชนชน้ั สงู ชนชนั้ กลาง และชนชนั้ ลา่ ง
ชนช้ันกลางจึงเป็นกลุ่มท่ีก่อเกิดข้ึนจากการปรับปรุงบ้านเมืองให้ทันสมัยเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสมัยใหม่
แตโ่ ครงสรา้ งชนชนั้ ทกี่ ลา่ วมานใ้ี นแตล่ ะชว่ งสมยั กม็ คี วามตา่ งกนั ในรายละเอยี ดตามสภาพของสงั คมในชว่ ง
นน้ั เพราะสงั คมไทยทเ่ี คลอ่ื นมาในกระแสแหง่ กาลเวลานน้ั พฒั นาหลากหลายซบั ซอ้ นขนึ้ ปจั จยั ทเ่ี กย่ี วพนั
กบั การจดั ชว่ งชน้ั ทางสงั คมมเี พมิ่ ขน้ึ จงึ มคี วามเหมอื นในโครงสรา้ งรวมและความตา่ งในรายละเอยี ดทแี่ ปร
เปลีย่ นไปตามยุคสมยั ภาพรวมของโครงสร้างชนชน้ั ในสงั คมไทยร่วมสมัยท่จี ะกล่าวถงึ นีจ้ ะพจิ ารณาเรือ่ ง
กลุ่มคนในแตล่ ะชนชั้น และการเลือ่ นฐานะทางสังคม

๑. 	กลุ่มคนในแต่ละชนชั้น

       สังคมไทยร่วมสมัยที่ด�ำรงอยู่ในทุกวันน้ีปัจจัยที่ใช้ก�ำหนดช่วงช้ันทางสังคมมีหลายประการตั้งแต่
ชาติตระกูล การศึกษา ต�ำแหน่งหน้าท่ี การงานอาชีพ ฐานะทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงค่านิยมทางสังคม
นอกจากนั้นกลุ่มคนที่อยู่ในแต่ละช่วงช้ันก็มิได้ก�ำหนดไว้แน่นอนตายตัว ไม่เหมือนสังคมไทยสมัยจารีตที่
บอกชดั เจนว่า ใครอย่ใู นระดับช้ันไหน เป็นเจา้ นาย หรือขุนนาง หรือไพร่ ทาส และในระดบั ชน้ั เดียวกนั
ยังมี ระบบศักดินา ท่ใี หร้ ้วู ่า สถานะของแตล่ ะคนในช่วงชัน้ น้นั อยู่ ณ ระดบั ใด ลดหลัน่ กันมาอย่างไร จึง
มีความชัดเจนเรื่องช่วงชั้นทางสังคม แต่สังคมไทยสมัยใหม่มิได้เป็นเช่นนั้น เพราะมีความหลากหลาย
ซบั ซอ้ นมากกวา่ และเพมิ่ ขนึ้ ตามสภาพของการพัฒนาประเทศ เกณฑ์การแบ่งชน้ั ทางสงั คมจึงผนั แปรไป
ตามความเปล่ยี นแปลงทางการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม ไมม่ ีลักษณะทช่ี ดั เจนแน่นอน ยกตัวอยา่ ง เชน่
ในสังคมไทยสมัยใหม่ก่อนทศวรรษ ๒๕๐๐ ข้าราชการระดับสูงมีสถานะทางสังคมสูงกว่าพวกพ่อค้าหรือ
นักธุรกิจ จนมีคำ� กลา่ วว่า “สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเล้ียง” แตใ่ นปจั จบุ ันสภาพดังกลา่ วกลับแปรเปล่ยี นไป
ในโครงสร้างชนชั้น จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปล่ียนแปลงทางการเมือง ข้อมูลเกี่ยวกับ
ชนชน้ั สงู ชนชนั้ กลาง และชนชนั้ ลา่ งในสงั คมสมยั ใหมข่ องไทยจากจดุ แรกเรม่ิ ตอ่ เนอ่ื งมาถงึ ปจั จบุ นั มสี าระ
สังเขปดงั นี้

       ๑.๑ 	ชนช้ันสูง กลมุ่ คนในชนชน้ั นเี้ รม่ิ แรกปรบั เปลยี่ นมาจากพวกมลู นายระดบั สงู ในสงั คมไทยสมยั
จารตี จึงมที ั้งพวกท่มี ีชาตติ ระกูลสูง เป็นเจ้าท่ดี นิ ใหญ่ กลมุ่ ขา้ ราชการชน้ั สูงทง้ั ทหารและพลเรือนในระบบ
ราชการสมัยใหม่จากการปฏิรูปการปกครอง เม่ือเปล่ียนมาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย ผู้ท่ีกุม
อำ� นาจทางการเมอื งเปน็ ผบู้ รหิ ารปกครองประเทศกอ็ ยใู่ นกลมุ่ ชนชน้ั นดี้ ว้ ยเชน่ กนั นอกจากนนั้ เศรษฐกจิ ไทย
ภายใต้ระบบทุนนิยมที่เติบโตขยายตัวตามการพัฒนาประเทศ ก็ท�ำให้เกิดชนช้ันสูงที่มีฐานมาจากความ
ม่ังคั่งร่�ำรวยมากๆ และส่งผลต่อเนื่องให้เกิดพวกชนชั้นสูงท่ีมาจากกลุ่มนักวิชาการนักวิชาชีพท่ีมีปัญญา
ความรคู้ วามเชยี่ วชาญเลศิ ลำ�้  เปน็ ทรพั ยากรบคุ คลทห่ี าไดย้ าก เปน็ เฟอื งจกั รสำ� คญั ในการพฒั นาเศรษฐกจิ
ทนุ นยิ ม กลุ่มนเ้ี รียกขานกนั ในภาษาอังกฤษว่า พวกเทคโนแครต (technocrat) ภาษาไทยไดย้ มื คำ� นี้มา
ใช้ส่ือความในนยั เดียวกนั

       อนง่ึ พวกชนชน้ั สงู จะเก่ียวพันแนบเน่ืองกับการเปน็ “ชนช้ันน�ำที่มีอ�ำนาจ” หรอื power elites
ในสงั คมด้วย ค�ำน้ีใช้สอื่ ความถงึ คนสว่ นนอ้ ยในสังคมทีม่ ีอำ� นาจ อิทธพิ ล ทรพั ยส์ นิ และความมัง่ คงั่ มาก
ท่สี ุด และใชค้ วามไดเ้ ปรียบดงั กลา่ วเข้าควบคมุ การตดั สินใจของสงั คมทีจ่ ะใหเ้ ป็นไปในทางใด ชนช้ันนำ� ท่ี
มอี ำ� นาจมกั ประกอบดว้ ยคน ๓ กลมุ่ คอื ชนชนั้ นำ� ทางการเมอื งการปกครอง เศรษฐกจิ และการทหาร แต่
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57