Page 63 - สื่อศึกษา
P. 63
ผู้รบั สาร 6-53
คอื การทำ� เพราะความรกั มากกวา่ การตอ่ สเู้ ชงิ อำ� นาจ แตก่ ม็ ไิ ดห้ มายความวา่ ประเดน็ การตอ่ สเู้ ชงิ อำ� นาจ
จะหายไปโดยส้ินเชิง กลุ่มผู้รบั สารบางกลมุ่ กย็ ังคงยืนยันการต่อสู้เชงิ อำ� นาจเช่นกนั
เจนกินส์ (Jenkins) (อ้างถงึ ใน กาญจนา แกว้ เทพ, 2555) ขยายความลักษณะของแฟนว่า ควร
มีลกั ษณะอยา่ งน้อยห้าขอ้ คือ
ประการแรก แฟนเปน็ ผทู้ ม่ี คี วามคนุ้ เคยใกลช้ ดิ กบั สงิ่ ทชี่ น่ื ชอบ แตก่ ย็ งั มลี กั ษณะทสี่ ามารถวพิ ากษ์
วจิ ารณไ์ ด้
ประการท่ีสอง แฟนเปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญทง้ั ดา้ นการตคี วามและการวจิ ารณต์ วั บท นนั่ กห็ มายความวา่
แฟนเป็นกลุ่มคนท่ีไม่จ�ำเป็นต้องถอดรหัสความหมายไปตามท่ีผู้ส่งสารก�ำหนด แต่สามารถต่อรองและ
ปฏิเสธได้
ประการท่ีสาม แฟนจะเปน็ ผบู้ รโิ ภคผลงานท่ตี นเองชนื่ ชม สามารถให้ข้อเสนอแนะ เรียกร้องให้
เกิดการพัฒนาปรับปรงุ เนอื้ หารายการ หรอื แม้กระท่ังการกระตุ้นให้รายการตนเองทห่ี ลุดผังกลบั มาใหม่
ประการที่สี่ แฟนสามารถผลิตซ้ําตัวบทใหม่ท่ีต่อยอดไปจากเดิม กล่าวคือ สามารถสร้างตัวบท
ใหมข่ ้ึนมา ซ่ึงมักจะมาจากความรกั ในตวั บทเดิม เชน่ การเขยี นละครต่อเน่อื งจากเรอื่ งทีจ่ บลง
ประการท่ีห้า แฟนสามารถทจี่ ะกา้ วสกู่ ารตอ่ ตา้ นวฒั นธรรมกระแสหลกั ได้ และกอ่ ตวั ใหเ้ กดิ ชมุ ชน
ทางเลือกได้เช่นกนั เช่น กรณีของการกอ่ ตวั ของแฟนคลบั เพลงร็อก เพลงเพือ่ ชวี ติ เป็นตน้
จากแนวคิดดังกล่าว จะเห็นได้ว่า แฟนมิใช่เป็นพวกคลั่งไคล้ แต่กลับมีอ�ำนาจในการอ่านความ
หมาย และก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตตัวบทใหม่ที่ขยายไปจากตัวบทเดิม หรือรู้จักกันในนามของสหบทหรือ
สัมพนั ธบท (intertextuality) และในบางครงั้ แฟนก็สามารถตอ่ ต้านวฒั นธรรมกระแสหลกั ได้เชน่ กนั
กาญจนา แกว้ เทพ (2555) สรปุ ใหเ้ หน็ แนวทางการศกึ ษาแฟนไดห้ ลากหลาย โดยจำ� แนกเปน็ การ
ศกึ ษาตามแนวคิดสงั คมศาสตร์ จิตวิทยา และส่ือศกึ ษา
ในขณะทก่ี ารศกึ ษาสายสงั คมศาสตร์ มกั จะมงุ่ เนน้ พฤตกิ รรมของกลมุ่ คน และหากแฟนมกี ารรวม
ตวั กันเป็นกลุม่ กม็ กั จะไดร้ บั การศกึ ษาพิจารณาวา่ กลุ่มคนดังกล่าวคอื ใคร มีลักษณะอย่างไร และทส่ี ำ� คญั
คอื เพราะเหตใุ ดจงึ มคี วามผกู พนั กบั สือ่ ภายใต้บรบิ ทของสังคมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ค�ำตอบจึงอาจมี
ทง้ั การรวมตวั กนั เพอ่ื การหาทพี่ งึ ทางจติ ใจ และการมสี ว่ นรว่ มในธรุ กจิ ของอตุ สาหกรรม และหากมองในแง่
ลบ พฤตกิ รรมการรวมตวั กนั ดงั กล่าวอาจสง่ ผลตอ่ การท�ำร้ายศลิ ปนิ การบา้ คล่งั นน่ั กม็ ักจะถูกตคี วามว่า
เป็นพฤติกรรมท่ีเบ่ียงเบน นอกจากน้ัน ยังอาจมองได้ในเชิงเศรษฐกิจ โดยเน้นมิติของธุรกิจโดยเฉพาะ
อตุ สาหกรรมสอ่ื จะสง่ ผลตอ่ การกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การรวมตวั กนั ของแฟน เพอื่ ใหง้ า่ ยตอ่ การบรหิ ารจดั การ และ
การสรา้ งกลุ่มคนทีจ่ งรกั ภกั ดตี อ่ สนิ ค้าหรือศิลปิน
สายจิตวิทยา มักจะสนใจการอธิบายปัจจัยภายในตัวบุคคลถึงความต้องการของแฟน ท้ังการ
หลงใหลอย่างเกนิ ขอบเขต การหลบหนจี ากโลกความจรงิ การแสวงหาสง่ิ ชดเชย จนิ ตนาการ สภาวะการ
ขาดในจิตใจ อนั เป็นผลจากสงั คมสมัยใหม่
สว่ นในสายส่ือ การศึกษาแฟนมกั จะก้าวไปสกู่ ารใหค้ วามสนใจคนทีส่ นใจสือ่ ทัง้ เพลง รายการ
ดารา กีฬา เป็นตน้ แนวทางการศึกษาสามารถพิจารณาไดต้ ้งั แต่ (Abercrombie and Lognhurst, 1998
อา้ งถงึ ใน กาญจนา แกว้ เทพ, 2555)