Page 60 - สื่อศึกษา
P. 60
6-50 สอ่ื ศึกษา
อกี หนง่ึ ในอตั ลกั ษณท์ ส่ี ำ� นกั วฒั นธรรมศกึ ษาใหค้ วามสนใจศกึ ษาคอื กลมุ่ เชอ้ื ชาติ (ethnic) เพราะ
มองว่า เป็นส่วนท่ีแสดงให้เห็นถึงการกดทับเชิงอ�ำนาจากชาตินิยม และการแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ของ
คนแตล่ ะเชื้อชาติ ซงึ่ มกั จะมนี ยั ถงึ ความเป็นชนสว่ นนอ้ ย (ethnic minority) แตจ่ ุดท่พี ึงสงั เกตคือ ความ
เป็นส่วนน้อยมิได้หมายถึงปริมาณ แต่มักจะติดกับมิติเชิงอ�ำนาจ กล่าวคือ แม้จะมีปริมาณน้อยแต่หากมี
อำ� นาจกย็ งั ถอื ไดว้ า่ ไมใ่ ชช่ นสว่ นนอ้ ย ตวั อยา่ งเชน่ คนขาวทอ่ี พยพไปยงั นอกทวปี ไมค่ อ่ ยเปน็ คนสว่ นนอ้ ย
สุจิตรา เปล่ียนรุ่ง และกาญจนา แก้วเทพ (2555) ศึกษาอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ของชาวมอญใน
ประเทศไทย ทอี่ าจจดั ไดว้ า่ เปน็ ชนสว่ นนอ้ ย เพราะอพยพเขา้ มาดนิ แดนไทยและมอี ำ� นาจนอ้ ยกวา่ คนไทย
และอาจเรียกได้ว่าเป็น “คนพลัดถิ่น” (diaspora) ด้วยเหตุนี้ จึงท�ำให้เกิดค�ำถามว่า สังคมไทยได้สร้าง
อตั ลกั ษณข์ องชาวมอญพลดั ถน่ิ วา่ อยา่ งไร และรวมถงึ ชาวมอญพลดั ถนิ่ เหลา่ นน้ั จะตอ่ สตู้ อ่ รองความหมาย
สร้างตวั ตนวา่ อะไรและอย่างไร
จุดที่น่าสนใจ คือ ชาวมอญท่ีอพยพในไทยมีอยู่หลากหลายพื้นท่ี เช่น พระประแดง เกาะเกร็ด
บางกระดี่ ด้วยเหตุน้ี ในการก�ำหนดอตั ลักษณข์ องชาวมอญจงึ ย่อมมคี วามแตกต่างหลากหลาย กล่าวคือ
มอญพระประแดง คอื มอญชนชน้ั ปกครอง มอญเกาะเกรด็ คอื มอญคา้ ขาย และมอญบางกระดี่ คอื มอญ
นํ้าเค็ม แนวคิดดังกล่าวต่างไปจากสายตาคนนอกท่ีมองว่า มอญก็คือมอญ ควรจะมีลักษณะหรือแบบ
เดยี วกันหมด เชน่ ชนชาติทมี่ อี ารยะธรรม ความเป็นพ่ีน้องกับไทย
สจุ ติ รา และกาญจนา ยงั แสดงใหเ้ หน็ วา่ ภายใตบ้ รบิ ทสงั คมทแ่ี ปรเปลยี่ นไปสสู่ งั คมทนั สมยั ความ
เป็นมอญในไทยก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุน้ี มอญจึงจำ� เป็นต้องธ�ำรงรักษาอัตลักษณ์
และสืบทอดความเปน็ มอญให้สืบต่อไป ทั้งรูปธรรม เชน่ ภาษา เคร่อื งแต่งกาย อาหาร วัฒนธรรม ฯลฯ
และรปู ธรรม คอื จติ สำ� นกึ ของความเปน็ มอญ ทงั้ ประวตั ศิ าสตร์ วฒั นธรรม และการระลกึ ถงึ แผน่ ดนิ กำ� เนดิ
เพยี งแตว่ า่ มอญอาจมคี วามหลากหลายในแตล่ ะพนื้ ทต่ี ามอตั ลกั ษณย์ อ่ ยได้ เชน่ มอญชนชน้ั ปกครอง มอญ
ค้าขาย มอญน้ําเคม็ ทำ� ให้เครอ่ื งแตง่ กาย อาหาร จติ ส�ำนึกของพน้ื ท่สี ามารถดดั แปลงไปได้บ้าง อยา่ งไร
ก็ดี เม่ือเกิดวิกฤติของการเปลี่ยนแปลงสังคม อัตลักษณ์บางส่วนก็อาจเร่ิมสูญหายไป เช่น พิธีกรรม
บางอย่าง
ชาวมอญเองก็มักจะต่อสู้ต่อรองให้อัตลักษณ์มอญด�ำรงอยู่ ทั้งการใช้การส่ือสารผ่านภาษา สื่อ
บคุ คล สอื่ ประเพณี สอ่ื วตั ถุ เครอื ขา่ ยการสอื่ สาร ไดแ้ ก่ สมาคมไทยรามญั และชมรมเยาวชนมอญกรงุ เทพฯ
และส่ือส่ิงพิมพ์ เช่น วารสารเสียงรามัญ ในชีวิตจริงอาจมิได้ประกาศว่า เป็นมอญ แต่จะเรียกว่าไทย
แต่หากถกู ถามว่า เป็นมอญหรอื ไม่กม็ ักจะไมป่ ดิ บัง แต่ถา้ ในกรณีการสือ่ สารกบั ชาวมอญดว้ ยกนั เอง ชาว
มอญก็จะส่ือสารบอกตนเอง โดยอ้างอิงตามชื่อหมู่บ้าน และหากเป็นกรณีการติดต่อกับมอญต่างถ่ินก็จะ
ระบุว่า เราเป็นมอญพ้ืนทใี่ ด ท้ังน้ี กเ็ พ่ือเปน็ การเรียกใหท้ ราบวา่ เราคอื ใคร มากกวา่ การดถู กู และหาก
เปน็ กรณกี ารสรา้ งอตั ลกั ษณใ์ หค้ นนอกไดร้ บั รคู้ วามเปน็ มอญ กจ็ ะมงุ่ เนน้ ความเปน็ มอญทเ่ี กยี่ วกบั ไทย คอื
ความผูกพันกับไทยและจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การมองความเป็นมอญที่มีอารยะ ความ
เกย่ี วพนั กบั ศาสนา การมสี มั มาคารวะ การแตง่ ตวั ทมี่ สี ไบ การไมส่ น้ิ ชาติ และทส่ี ำ� คญั คอื การชไี้ ปวา่ มอญ
ตา่ งจากพมา่ และมองวา่ คอื ศตั รเู ดยี วกนั นเี่ อง อาจท�ำใหม้ อญสามารถอยรู่ ว่ มกบั ไทยไดอ้ ยา่ งเปน็ สขุ เพราะ
มีความคลา้ ยคลึงกันในหลายด้าน