Page 43 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 43
สนุ ทรียศาสตร์ของภาพยนตร์ 1-33
เร่ืองท่ี 1.2.3
วิวัฒนาการของสุนทรียศาสตร์ทางภาพยนตร์
สมมติฐานด้ังเดิมเก่ียวกับวิวัฒนาการของสุนทรียศาสตร์ของภาพยนตร์นั้น เปรียบภาพยนตร์ใน
ยคุ 20-30 ปแี รกวา่ เปน็ เสมอื นทารกแรกเกดิ ทยี่ งั พฒั นาไปไดไ้ มเ่ ตม็ ที่ ซง่ึ สมมตฐิ านนส้ี ะทอ้ นรบั กบั แนวคดิ
ดั้งเดิมที่ว่า ภาพยนตร์ในยุคแรกเริ่มเป็นเพียงบันไดข้ันแรกที่น�ำไปสู่รูปแบบการเล่าเรื่องท่ีดีท่ีสุดของ
ภาพยนตร์ นน่ั คอื รปู แบบทเี่ ดวดิ บอรด์ เวลล์ และ ครสิ ตนิ ทอมปส์ นั ตงั้ ชอื่ วา่ “ภาพยนตรแ์ บบคลาสสกิ
ฮอลลีวดู ” (classical Hollywood cinema) (Bordwell & Thompson, 1993, pp. 82-84)
อย่างไรกต็ าม ตัง้ แตต่ ้นทศวรรษที่ 80 เป็นตน้ มา สมมติฐานนไี้ ด้เปล่ียนแปลงไปหลงั จากทีม่ กี าร
จดั การประชุม The 1978 Congress of the International Federation of Film Archives (FIAF)
ขึ้นที่เมืองไบรท์ตัน ประเทศอังกฤษ ซ่ึงมีนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ด้านภาพยนตร์มาร่วมประชุม
สัมมนาและชมภาพยนตร์ท่ีสร้างข้ึนในระหว่างปี ค.ศ. 1900-1906 หลายร้อยเร่ือง ซ่ึงภาพยนตร์เหล่าน้ี
หลายเรื่องก็เพ่ิงถูกค้นพบ แล้วน�ำฟิล์มมาซ่อมแซมและพิมพ์ข้ึนใหม่ วาระเหตุการณ์น้ีท�ำให้เกิดโครงการ
เฉพาะกจิ ทเี่ รยี กวา่ “Brighton Project” หรอื โครงการไบรทต์ นั อนั เปน็ ความรว่ มมอื กนั ระหวา่ งนกั วชิ าการ
เพอื่ ทำ� การศกึ ษาวจิ ยั และทบทวนแนวคดิ ทเี่ คยมมี าตอ่ ภาพยนตรย์ คุ แรกเรม่ิ และเพอื่ บนั ทกึ ประวตั ศิ าสตร์
ของภาพยนตรย์ คุ แรกเรมิ่ เสียใหม่
สุนทรียศาสตร์ของภาพยนตร์ในยุคแรก “ภาพยนตร์แห่งความดึงดูดใจ”
หลังจากโครงการไบรท์ตัน การศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับภาพยนตร์ยุคแรกเริ่มก็ได้สานต่อความ
พยายามในการบันทึกประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในช่วง 10 ปีแรกให้ถูกต้องเท่ียงตรง ซึ่งเป็นการศึกษา
ภาพยนตรย์ คุ แรกเรม่ิ ในแงข่ องการเปน็ “ภาพยนตรแ์ หง่ ความดงึ ดดู ใจ” (cinema of attractions) อนั เปน็
ค�ำที่ทอม กันน่ิง (Tom Gunning) ใช้เรียกภาพยนตร์ในยุคดังกล่าว ซ่ึงตามข้อเท็จจริงจากการค้นคว้า
ของกนั นงิ่ ภาพยนตรย์ คุ แรกเรม่ิ ไมไ่ ดม้ คี วามเกยี่ วพนั โดยตรงกบั ววิ ฒั นาการของภาษาภาพยนตรป์ ระเภท
เล่าเรื่อง (narrative cinema) ทว่ามีลักษณะโดดเด่นเฉพาะเป็นของตนเอง น่ันคือลักษณะที่แสดงถึง
“สุนทรียภาพแห่งความดึงดูดใจ” (aesthetic of attractions) ท่ีมุ่งกระตุ้นและสนองตอบต่อความสนใจ
ใครร่ ้แู ละความอยากรอู้ ยากเหน็ ของผูช้ ม ด้วยภาพท่ีแสดงถงึ ผคู้ น การกระทำ� สง่ิ ของ ฉาก หรือทวิ ทัศน์
ที่แปลกตา นา่ ประหลาดใจ หรือแม้กระทัง่ น่าต่นื ตะลึง (Gunning, 1986, pp. 63-70)
ภาพยนตร์ยุคแรกเร่ิมจึงมักประกอบขึ้นจากภาพท่ีถ่ายในลักษณะเดียวกันกับภาพน่ิง คือภาพท่ี
ถ่ายให้เห็นด้านหน้า ไม่มีการเคลื่อนกล้อง เปล่ียนมุมภาพหรือขนาดของภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากปล้นใน
The Great Train Robbery (Porter, 1903) หรอื ฉากในภาพยนตรแ์ ฟนตาซขี องเมลเิ อส์ ซงึ่ การถา่ ยภาพ
ในลักษณะท่คี ลา้ ยกบั ภาพนิง่ นี้ ทำ� ใหน้ กั แสดงกลายเป็นเพยี งวัตถุทีเ่ คล่อื นไหวอยูต่ อ่ หน้ากล้อง มากกว่า
ท่ีจะเป็นตัวละครท่ีผู้ชมสามารถมีความรู้สึกร่วมด้วยได้ การจับภาพระยะใกล้มาก (extreme close-up)