Page 23 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 23
ทฤษฎีภาพยนตรแ์ นวรปู แบบนิยม 1 3-13
วิธีหนึ่งท่ีจะบอกได้ว่าภาพยนตร์มีพัฒนาการเพียงไรก็คือ การเปรียบเทียบตอนต้นเร่ืองกับตอน
ทา้ ยเรอ่ื งโดยมองหาความคลา้ ยคลงึ และความแตกตา่ งระหวา่ งตอนตน้ กบั ตอนทา้ ยนจ้ี ะทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจแบบรปู
(pattern) ทงั้ หมดของภาพยนตร์ เหน็ พฒั นาการของเรอื่ ง ลองเปรยี บเทยี บการเลา่ เรอ่ื งในตอนตน้ กบั ตอน
ทา้ ยของ The Wizard of Oz เรากจ็ ะพบว่า การเดินทางของโดโรธเี ร่มิ ขึ้นในตอนต้นแลว้ จบลงในตอน
ท้ายดว้ ยการกลับถงึ บา้ น การเดินทางเปน็ การค้นหาสถานท่อี ันดีงามในความฝันเหนอื สายรงุ้ (Over the
Rainbow) ซงึ่ กลบั กลายเปน็ การคน้ หาหนทางกลบั บา้ นในแคนซสั ฉากสดุ ทา้ ยเปน็ การซาํ้ และพฒั นาสว่ น
ประกอบทเ่ี ปน็ การเลา่ เรอ่ื ง (narrative elements) ของฉากแรก ฉากของเมอื งแคนซสั ในตอนตน้ และตอน
ท้ายเร่ืองเป็นส่วนที่ใช้สีขาวด�ำเน้นให้เห็นความขัดแย้งที่สร้างข้ึน โดยองค์ประกอบของการเล่าเร่ืองว่ามี
ความตา่ งกนั ระหวา่ งภมู ปิ ระเทศอนั จดื ชดื ของแคนซสั กบั ดนิ แดนในฝนั อนั มสี สี นั ของเมอื งออซในตอนกลาง
เรื่อง
5. ความมีเอกภาพ/ความไม่มีเอกภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ในภาพยนตร์
กอ่ ใหเ้ กดิ ระบบของภาพยนตรท์ ง้ั เร่ือง แม้กระทงั่ สว่ นประกอบที่ดเู หมือนจะเขา้ กนั ไม่ไดก้ บั สว่ นอื่นๆ กย็ ัง
เปน็ สว่ นหนงึ่ ของภาพยนตร์ สว่ นประกอบทไี่ มส่ มั พนั ธก์ บั สว่ นอน่ื มกั จะดคู ลมุ เครอื หรอื ไมต่ อ่ เนอื่ ง ซง่ึ อาจ
เปน็ เพยี งขอ้ บกพรอ่ งของระบบทส่ี อดประสานกนั ของภาพยนตร์ หากแตม่ นั สง่ ผลกระทบตอ่ ภาพยนตรท์ ง้ั
เร่อื งทเี ดียว
ถา้ ความสมั พนั ธใ์ นภาพยนตรเ์ หน็ ไดช้ ดั เจน เรากถ็ อื วา่ ภาพยนตรม์ ี “เอกภาพ” (unity) เราเรยี ก
ภาพยนตร์ที่มีเอกภาพว่า “แน่น” (tight) เพราะวา่ ไมม่ ชี อ่ งวา่ งในความสมั พันธร์ ะหวา่ งสว่ นตา่ งๆ ส่วน
ประกอบทุกส่วนมีบทบาทหน้าที่แน่ชัด ความคล้ายและความแตกต่างก็ถูกก�ำหนดชัดเจน รูปแบบพัฒนา
อยา่ งมเี หตมุ ผี ลและไมม่ สี ว่ นประกอบใดทเ่ี กนิ จำ� เปน็ แต่ก็ไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดที่แน่นเสียจนจบเร่ืองได้
อย่างไม่หลวมเลย ภาพยนตร์อาจมีความไร้เอกภาพหรือส่วนท่ีไม่มีเอกภาพ (disunity) รวมอยู่ด้วย
ภาพยนตร์ท่ีล้มเหลวในการสร้างเอกภาพก็คือภาพยนตร์ท่ีไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ท่ีชัดเจน
ระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ ได้ ส่วนประกอบสว่ นหนึง่ ใน The Wizard of Oz กย็ ังดูหลวมในตอนจบ
คือเราไม่รวู้ า่ เกดิ อะไรขึ้นกับคุณนายกลั ช์ เราอาจคดิ กนั เองว่าเธอคงพยายามหาทางกำ� จดั โทโทตอ่ ไป แต่
ก็ไม่มีการพูดถึงในฉากสุดท้าย ความคาดหมายไม่ได้ถูกตอบสนอง จงึ ท�ำใหล้ ดความมเี อกภาพลงไปบา้ ง
แต่สมมติว่ามีภาพยนตร์สักเร่ืองหนึ่งให้ตัวละครตายอย่างลึกลับโดยไม่รู้สาเหตุ แล้วจบลงอย่าง
หลวมๆ ทง้ิ ปญั หาไวล้ อยๆ ทวา่ มคี วามซา้ํ ทท่ี ำ� ใหเ้ รารวู้ า่ การละเลยคำ� ตอบไมใ่ ชข่ อ้ ผดิ พลาด หากเปน็ ความ
จงใจ มิหน�ำซํ้าส่วนประกอบอ่ืนๆ ก็ยังไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจนอีก ซ่ึงเท่ากับว่าเป็นความจงใจ
ของผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการให้เป็นเช่นน้ี ฉะนั้นภาพยนตร์บางเรื่องจึงท�ำให้ความไม่มีเอกภาพเป็น
หัวใจส�ำคัญของรูปแบบ ซ่ึงไม่ได้หมายความว่าภาพยนตร์เหล่านี้หละหลวมไม่ต่อเน่ือง แต่ความไม่มี
เอกภาพของมันกลับเป็นระบบ และถูกน�ำเสนออย่างเหมาะสมจนกลายเป็นองค์ประกอบส�ำคัญของ
ภาพยนตร์นั้น รูปแบบของความไม่มีเอกภาพดังกล่าวอาจมีเอกภาพน้อยกว่าที่เราคุ้นเคยก็ได้ แต่ไม่ถึง
กับหลวมจนแยกออกเป็นส่วน ๆ (Bordwell & Thompson, 1997, pp. 64-68, 78-85)