Page 55 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 55
การศึกษาภาพยนตร์แนวผชู้ ม 15-45
ดังนั้น ผู้ชมกลายเป็นผู้กระตือรือร้นขีดสุดท่ีสามารถเลือกเนื้อหาหรือตัวบทภาพยนตร์ได้ตามที่
ตนเองตอ้ งการ ไมว่ า่ จะวนั เวลาใด เปดิ รบั ไดท้ นั ทที นั ใด ไมว่ า่ จะอยใู่ นประเทศใดในซกี ใดในโลกกส็ ามารถ
เลือกรับชมภาพยนตรท์ ี่ตนเองตอ้ งการ (อยา่ งไรกต็ ามในอีกดา้ นหน่ึง กย็ งั เกดิ ข้อวพิ ากษว์ ่า การเลือกรบั
ชมนั้นกลับตกอยู่ภายใต้การครอบง�ำของประเทศมหาอ�ำนาจท่ีเป็นเจ้าของส่ือผู้ให้บริการภาพยนตร์) อีก
ทง้ั การรบั ชมไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งชมจากตน้ จนจบ สามารถเลอ่ื นไปฉากทตี่ นสนใจ หยดุ ในจงั หวะทตี่ อ้ งการหยดุ
แลว้ หนั ไปทำ� กจิ กรรมอน่ื ๆ หรอื อาจทำ� กจิ กรรมอนื่ ๆ ไปพรอ้ มกบั การรบั ชมภาพยนตรใ์ นเวลาเดยี วกนั ซง่ึ
เปน็ ลกั ษณะทไ่ี มต่ า่ งไปจากการรบั ชมภาพยนตรข์ องชาวไทยทเี่ ปดิ รบั สอ่ื อนื่ ๆ ในเวลาเดยี วกนั ได้ ดงั ปรากฏ
ในงานของแลงเคสเตอร์ดังที่อธิบายไปในตอนต้น จุดนี้เองท่ีส่งผลให้ผู้รับสารมีอ�ำนาจอย่างสูง และส่ง
ผลกระทบตอ่ การผลติ การแพร่กระจายหรือการฉายภาพยนตร์
นอกเหนือจากน้ัน ซูลิแวน ยังตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชมในยุคใหม่เร่ิมมีวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมสูง
(participatory culture) ทั้งในกรณีของการเปน็ นักวจิ ารณภ์ าพยนตร์ด้วยการส่งสารผ่านสงั คมเครือขา่ ย
ออนไลนท์ นั ทหี ลงั จากรบั ชมภาพยนตร์ การนำ� ภาพยนตรท์ ต่ี นรกั หรอื ชนื่ ชอบมาตดั ตอ่ ใหม่ (remix) ตาม
ทตี่ นเองต้องการ รวมไปถงึ การกา้ วไปสกู่ ารเป็นผ้ผู ลิตภาพยนตร์ (สนั้ ) ซ่ึงถือเปน็ สิง่ ทผ่ี ูใ้ ชส้ รา้ งสรรคเ์ อง
(user created content) ทงั้ นี้ กเ็ พราะความไมส่ ลบั ซบั ซอ้ นของภาพยนตรท์ ำ� ใหก้ ารผลติ ภาพยนตรท์ ำ� ได้
งา่ ยกวา่ รวมไปถงึ มชี อ่ งทางการสอื่ สารหรอื การเผยแพรม่ ากกวา่ ในอดตี ดงั ตวั อยา่ งการเปดิ พน้ื ทข่ี องยทู ปู
(YouTube) เท่ากับว่า การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีส่งผลให้เปิดมิติใหม่ของผู้ชมและส่งผลกระทบ
ตอ่ อตุ สาหกรรมภาพยนตร์
3. ดาราศึกษาและแฟนศึกษา
ในชว่ งทศวรรษที่ 1980 เปน็ ต้นมา การศกึ ษาผูร้ ับสารเริม่ ขยายตัวขึน้ อย่างมาก หนงึ่ ในนนั้ ก็คอื
ดาราศึกษา (Star Studies) และแฟนศกึ ษา (Fan Studies)
ในความเปน็ จรงิ การศกึ ษาดารามมี านานแลว้ แตก่ ารศกึ ษาดาราในอดตี อาจมงุ่ เนน้ ประวตั ศิ าสตร์
การก้าวเข้ามาของดาราผู้นั้น ความสวย ความงาม รวมถงึ พรสวรรค์ แต่ทว่า ริชารด์ ไดเออร์ (Richard
Dyer) ถือเป็นนักวิชาการท่านแรกท่ีศึกษาไปถึงดาราในฐานะสัญญะแบบหนึ่งท่ีมีการก�ำหนดขึ้นภายใต้
กรอบสังคม และกระบวนการสร้างตัวดาราขึ้น ภายในงานเรื่อง สตาร์ส (Stars) และเฮเว่นลี บอดีย์
(Heavenly Bodies)
ในทศั นะของไดเออร์ ดาราถูกสร้างขน้ึ มาจากอุตสาหกรรมผ่านสื่อตา่ งๆ เชน่ นิตยสาร โทรทศั น์
บทบาทการแสดง และท่สี �ำคัญคอื สภาพสังคมและอุดมการณ์ต่างๆ ในสงั คมกม็ สี ่วนกำ� หนดตวั ดาราเช่น
กัน ตัวอย่างเชน่ อุดมการณ์เรื่องเพศ เขาได้ยกตวั อยา่ งการวเิ คราะห์มารลิ ีน มอนโร (Marilyn Monroe)
และพบว่า ในอดีตเรื่องเพศถือเป็นเรื่องผิดบาปและเก่ียวกับเรื่องศาสนา แต่ในช่วงบริบทสังคมในยุคของ
มารลิ นี รงุ่ เรอื ง ทศวรรษที่ 1950 ตวั เธอจงึ กลายเปน็ สญั ญะแบบใหมท่ นี่ ำ� เสนอใหเ้ หน็ การแสดงออกทางเพศ
ทเี่ ปดิ กวา้ งมากขนึ้ ภายใตบ้ รบิ ทของนติ ยสารเพลยบ์ อยและสงั คมอเมรกิ นั ทย่ี อมรบั เรอ่ื งเพศเปน็ เรอ่ื งปกติ
จึงชว่ ยท�ำให้เธอกลายเป็นดาราหรือดาวเด่น