Page 54 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 54
15-44 ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
วจิ ารณร์ ะหวา่ งการชมภาพยนตรไ์ ด้ ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ ในบางครงั้ ผชู้ มยงั สามารถลกุ นง่ั นอน เปลยี่ นอรยิ าบถ
ระหวา่ งการรับชม ท�ำให้การครอบงำ� อาจเปน็ ไปไมไ่ ดท้ ั้งหมด
จากแนวคดิ ดงั กลา่ ว อญั ชลี ชยั วรพร (2560) กข็ ยายความลกั ษณะการบรโิ ภคภาพยนตรก์ ลางแปลง
ในประเทศไทยท่ีมีลักษณะโดดเด่น ทั้งการรับชมท่ีผู้ชมน่ังกับพ้ืนหรือเก้าอ้ีที่น�ำมาจากบ้าน ลักษณะ
การฉายภาพยนตรท์ ีอ่ าจมคี วามไมต่ อ่ เนื่อง เพราะตอ้ งถูกค่นั ด้วยการโฆษณาขายยาท�ำใหผ้ ้ชู มไม่มีสมาธิ
จดจ่อกบั เนื้อหาในภาพยนตร์ และท่ีส�ำคญั คือ ภาพยนตร์ทแ่ี ยกมกั จะมลี กั ษณะการพากษ์ท�ำให้การรับชม
ไมส่ มบูรณ์ เหลา่ น้เี องท่ี อัญชลี ช้ีว่า ผชู้ มชาวไทยจึงอาจไมไ่ ดต้ กอยูภ่ ายใตก้ ารครอบงำ� เสียทั้งหมด ผชู้ ม
อาจตอ้ งมสี มาธจิ ดจำ� เนอ้ื หาเรอ่ื งราวและปะตดิ ปะตอ่ ใหมเ่ พอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา นนั่ กอ็ าจเรยี กได้
วา่ เปน็ ศลิ ปะการปะตดิ ปะตอ่ ของผู้ชมชาวไทย
ย่ิงกว่าน้ัน หากพิจารณาบริบทการฉายภาพยนตร์ที่มักจะฉายในช่วงเทศกาลหรือช่วงเวลาของ
การพกั ผอ่ น กย็ งิ่ พบวา่ การฉายภาพยนตรบ์ างครงั้ กอ็ าจผสมรวมกบั มหรสพอน่ื ๆ อกี ดว้ ย ทำ� ใหก้ ารดหู นงั
กลายเปน็ กจิ กรรมทางสงั คมทที่ งั้ ไดร้ บั ความบนั เทงิ จากภาพยนตรแ์ ละมหรสพอน่ื ๆ แลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ ปน็ การ
พบปะเพอ่ื นฝงู อกี ดว้ ย ผชู้ มจงึ มใิ ชพ่ งุ่ เปา้ ไปทต่ี วั ภาพยนตรอ์ ยา่ งเดยี ว แตก่ ลบั เปดิ รบั กจิ กรรมอนื่ ๆ ระหวา่ ง
การชมไปดว้ ย แนวคดิ ดังกลา่ วใกลเ้ คยี งกับงานของแลงแคสเตอร์ (Lancaster, 1977 อา้ งถึงใน กาญจนา
แก้วเทพ, 2544) ท่ีศึกษาการบริโภคหนังขายยาของคนไทย และพบว่า การบริโภคสื่อของชาวไทยมี
ลกั ษณะการเปดิ รบั เหมอื นตวั ปลาหมกึ ซงึ่ จะมลี กั ษณะเคลอื่ นไหวไปพรอ้ มๆ กนั ทงั้ หมด ดงั เชน่ เมอ่ื เทย่ี ว
งานวดั ก็จะพบสอ่ื ทุกอยา่ งพร้อมๆ กนั มวี งดนตรี มวย หนังหลายจอ มอเตอร์ไซคไ์ ต่ถงั ทำ� ใหผ้ ชู้ มไมม่ ี
ทางทจี่ ะพ่งุ ความสนใจไปในทิศทางใดทศิ ทางหน่ึงเทา่ นัน้ เม่อื น�ำวิธกี ารดังกลา่ วมารับชมภาพยนตร์ ผชู้ ม
จงึ จะไมส่ นใจชมโครงเรอื่ งทงั้ หมด แตจ่ ะสนใจเปน็ รายละเอยี ดบางสว่ นบางตอน เมอื่ มใี ครชวนยา้ ยไปทสี่ อื่
อ่ืนๆ ก็จะย้ายไปตามค�ำเชิญ ความสนุกของการบริโภคของไทยก็คือการข้ามไปข้ามมาของการใช้ส่ือท่ี
หลากหลายตรงกนั ขา้ มการบรโิ ภคสอื่ ของตะวนั ตกจะมลี กั ษณะเปน็ ระบบมด คอื ดแู ตล่ ะสว่ นใหจ้ บไปเสยี ที
เดยี ว
ในขณะท่ีงานของนิธิและอัญชลี สนใจผู้รับสารกับบริบทสังคมท้องถิ่น แต่ส�ำหรับทัศนะของ
ซลู ลแิ วน (Sullivan, 2013) การศึกษาผู้ชมได้ขยายความไปได้ถึงภายใต้บริบทของสังคมสมัยใหม่ทเี่ กดิ
การเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ระบบดิจิทัล ส่วนน้ีส่งผลต่อการบริโภคภาพยนตร์ ผู้ชมแตกตัวย่อย
(audience fragmentation) และกลายมามีอ�ำนาจมากข้ึน (audience autonomy) ในการเลือกรับชม
ตามตอ้ งการ
จากในอดีตการชมภาพยนตร์อาจต้องรับชมเพียงในโรงภาพยนตร์ บางคร้ังการชมภาพยนตร์ที่
ต้องการก็อาจต้องรอชมภาพยนตร์ท่ีมีการจัดโปรแกรม แม้จะมีวีดิทัศน์เกิดขึ้นการรับชมก็อาจจ�ำกัดด้วย
ภาพยนตรบ์ างเรอื่ งทผี่ ลติ เปน็ วดี ทิ ศั นแ์ ละตอ้ งรบั ชมผา่ นเครอ่ื งรบั ในบา้ น แตใ่ นยคุ ปจั จบุ นั การชมภาพยนตร์
เรม่ิ ขยบั เขา้ มาส่วู ิถีชวี ิตประจ�ำวนั ของผ้ชู มไดง้ า่ ยขนึ้ โดยอาศัยเพยี งโทรศพั ท์เคล่อื นท่ีทีม่ กี ารเช่ือมต่อกบั
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดังเช่น ระบบเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ผู้ชมก็สามารถรับชมภาพยนตร์ที่ตนเองเลือก
หรอื อยากชมไดไ้ มว่ า่ จะ ณ จุดใดทมี่ ีคลนื่ สญั ญาณกำ� กบั