Page 53 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 53

การศึกษาภาพยนตรแ์ นวผู้ชม 15-43
       เดวดิ มอรเ์ ลย์ (David Morley) เป็นนักวชิ าการทา่ นแรกๆ ในปลายทศวรรษท่ี 1980 ทเ่ี สนอ
แนวทางการศึกษาผู้รับสารใหม่ให้พิจารณาถึงการบริโภคสื่อในชีวิตประจ�ำวัน โดยศึกษาการบริโภค
โทรทศั นข์ องผคู้ นชาวองั กฤษภายในบา้ น โดยใชว้ ธิ กี ารชาตพิ นั ธว์ุ รรณนา (ethnography) หรอื การเขา้ ไป
สังเกตการณเ์ ขา้ ไปสู่วถิ ีชวี ิตของผรู้ บั สารกบั การบริโภคสอื่ ในลกั ษณะการสงั เกตแบบมสี ่วนรว่ ม เพราะเขา
เช่ือว่า แนวทางดงั กลา่ วจะท�ำให้เข้าใจผู้ชมทล่ี ึกซ้ึงมากขึ้น ทง้ั การเห็นการอา่ นความหมายของผ้ชู มควบคู่
กบั ความสัมพันธ์ของผู้ชมกับบริบทการชมโทรทศั น์
       ในจุดหลังนี้เองที่มอร์เลย์ ค้นพบว่า กลุ่มคนชั้นล่างและชนชั้นล่างระดับกลางในอังกฤษ มีการดู
โทรทศั น์ที่เกยี่ วข้องกบั มิตกิ ารเมืองแห่งห้องนงั่ เล่น (the politics of the living room) ขยายความได้
ว่า บนพนื้ ทีข่ องการดโู ทรทศั น์แฝงไปดว้ ยมิติเชิงอ�ำนาจในการครอบง�ำพฤตกิ รรมการดู ภายใต้บรบิ ทของ
สงั คมชายเปน็ ใหญท่ ห่ี าเลยี้ งครอบครวั ผชู้ ายมอี ำ� นาจในการควบคมุ การดโู ทรทศั น์ ทงั้ การถอื รโี มตคอนโทรล
ในทางตรงกันข้ามผู้หญิงกลับมีความรู้สึกผิดในการรับชมเพราะต้องหนีจากงานบ้าน และในด้านของลูกก็
ต้องถูกอ�ำนาจการควบคมุ วา่ เม่อื ไรจะไดด้ ูและเมอ่ื ไรจะต้องถึงเวลาทำ� การบา้ น
       แตใ่ นอกี ดา้ นหนงึ่ มอรเ์ ลย์ กใ็ หค้ วามสนใจวา่ แลว้ ตวั ผชู้ มแตล่ ะกลมุ่ จะตอ่ รองอำ� นาจนนั้ ไดอ้ ยา่ งไร
ดังเช่น บรรดาแม่บ้านที่จะเปิดชมโทรทัศน์ก็มักจะท�ำกิจกรรมอ่ืนๆ ไปพลาง เพื่อท่ีจะท�ำให้ความรู้สึกผิด
จากการหนีงานบา้ นลดลง
       ในขณะทงี่ านของมอร์เลย์ อาจมงุ่ เนน้ การดูโทรทศั น์ แตก่ ส็ ร้างคณุ ูปการตอ่ การศกึ ษาผู้ชมทต่ี อ้ ง
ผนวกไปกับบริบทของการบริโภคหรือการรับชมภาพยนตร์ด้วย ในกรณีของภาพยนตร์บริบทการรับชม
ภาพยนตร์ได้รบั ความสนใจศึกษาในชว่ งทศวรรษที่ 1970 ในสำ� นักสกรีน ท่ีสนใจวา่ ผู้ชมภาพยนตรช์ มใน
ทม่ี ดื และถกู ครอบงำ� ทำ� ใหเ้ กดิ การจอ้ งมองแบบชายและการเลยี นแบบตวั ละครทส่ี มบรู ณแ์ บบในภาพยนตร์
แตส่ ำ� หรบั สำ� นกั วฒั นธรรมศกึ ษาการศกึ ษาผชู้ มภาพยนตรอ์ าจมคี วามแตกตา่ งไปจากการมองเพยี งมติ เิ ชงิ
อำ� นาจทีก่ ดทับผูช้ ม
       นิธิ เอียวศรีวงศ์ (2538) อาจถือเป็นนักวิชาการท่านแรกๆ ของไทยที่ให้ความสนใจศึกษาผู้ชม
ภาพยนตรไ์ ทย และชีใ้ หเ้ ห็นวา่ บริบทการชมภาพยนตรไ์ ทยอาจมคี วามแตกต่างไปจากการชมภาพยนตร์
ของตะวันตก และจุดน้ีเองท�ำให้อ�ำนาจในการครอบง�ำผู้ชมอาจไม่เท่าและท�ำให้ลักษณะการบริโภคของ
ผชู้ มมคี วามแตกตา่ งกนั นธิ ิ อธบิ ายการชมภาพยนตรโ์ ดยเทยี บกบั สอ่ื เดมิ ของไทย คอื การชมลเิ ก ทผี่ ชู้ ม
มีลักษณะกระตือรือรน้ สงู มวี จิ ารณญาณ การชมมลี ักษณะท้งั ดูไปวิพากษว์ ิจารณไ์ ป จดุ น้เี อง ผ้ชู มจึงไม่
ไดถ้ กู ชักจูงไปตามเนอ้ื หาท้ังหมด เม่ือเกดิ ส่ือใหม่เช่น สือ่ ภาพยนตร์ การชมภาพยนตร์ของชาวไทยกโ็ ยก
วธิ กี ารชมลเิ กเขา้ ไปในการชมภาพยนตร์ ต่างจากตะวนั ตกท่มี กั จะแยกการแสดงออกไปจากผชู้ ม เมื่อคน
ดไู มต่ ดั ขาดจากผแู้ สดงกส็ ง่ ผลใหก้ ารแสดงของไทยมกั อยทู่ ป่ี ฏภิ าณของนกั แสดงมากกวา่ ตวั บท นธิ ิ จงึ ตง้ั
ขอ้ สงั เกตวา่ คนดสู นใจรสมากกวา่ เรอ่ื ง อนั สง่ ผลใหเ้ มอื่ โยกมาสตู่ วั ภาพยนตรก์ ท็ ำ� ใหเ้ นอื้ หาอาจไมไ่ ดส้ ำ� คญั
เท่าปฏิภาณของตวั ตลกและตัวประกอบ
       การโยกการชมลเิ กไปในโรงภาพยนตรแ์ บบไทยๆ นนั้ ทำ� ไดก้ เ็ นอื่ งจากโรงภาพยนตรข์ องไทยอาจ
มิใช่เป็นโรงภาพยนตร์ท่ีเป็นแบบตะวันตกเสียท้ังหมดที่ปิดมิดชิดหรืออยู่แต่ในท่ีมืด แต่กลับมีการฉาย
ภาพยนตรท์ ม่ี กี ารตงั้ โรงภายนอกกลางแจง้ หรอื เรยี กวา่ วกิ หนงั โรงหนงั เร่ ผชู้ มจงึ สามารถพดู คยุ วพิ ากษ์
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58