Page 30 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 30

3-20 ภาษาและทกั ษะเพือ่ การส่ือสาร
       โดยท่ัวไปแล้วบุคลิกภาพภายนอก หรือท่วงท่าจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเนื่องมาจากการฝึกหัด

จนเคยชิน ดังน้ันการแสดงออกทางบุคลิกภาพจึงมักเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และ
การฝกึ ฝนใชซ้ าํ้ ๆ จนเปน็ นสิ ยั และสอื่ ความหมายออกไป เราอาจสามารถเดาไดว้ า่ คนทเี่ ราพบเปน็ ครู หมอ
ทหาร นางแบบ หรืออื่นๆ ก็เน่ืองมาจากบุคลิก ท่วงท่าของเขา เราอาจเข้าใจได้ว่าบุคคลมีความทุกข์
ความกลวั ความเชอ่ื มัน่ จากการแสดงออกทางบคุ ลิกของเขาทั้งส้นิ

       เม่ือเราพบปะกันในสังคม หากเราเห็นบุคคลคนหน่ึงปรากฏตัวข้ึน เบื้องต้นเราอาจสังเกตดูว่า
เขาเป็นใคร สิ่งแรกที่เราจะสังเกตได้ชัดเจนท่ีสุดคือโครงสร้างและขนาดของร่างกาย เช่น อ้วน ผอม สูง
หรือเตี้ยขนาดไหน หลังจากนั้นเรามักพิจารณาลักษณะอ่ืนประกอบ เช่น ท่าทางที่เดิน การแกว่งแขน
เป็นต้น ภายในทันทีเราจะใช้ความพยายามในการหาข้อสรุปหรือตีความหมายสิ่งเหล่าน้ันแล้วน�ำมา
ประมวลว่าบุคคลน้ันเป็นใครโดยไม่จ�ำเป็นต้องรู้จักหรือมีข้อมูลเก่ียวกับบุคคลน้ันมาก่อน นอกจากนั้น
บุคลิกลักษณะของคนยังสามารถบอกให้เห็นถึงอารมณ์และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี เช่น ลักษณะของ
คนท่ีตกอยู่ในความทุกข์จะมีท่าทางเดินเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดหมาย ศีรษะตก มือสองข้างล้วงกระเป๋า
การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเชื่องช้า หรือถ้าหากว่าเป็นคนที่ก�ำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ลักษณะก็จะแตกต่าง
ออกไปน่นั คอื มักจะเอามือทง้ั 2 ข้างประสานไว้ข้างหลัง ไมส่ นใจตอ่ สง่ิ รอบขา้ ง สายตามองผา่ นสงิ่ ต่างๆ
ไปเรื่อยๆ ไมม่ ีจดุ หมาย เปน็ ลักษณะทีพ่ ะวงอย่ใู นห้วงความคิดของตนเองเทา่ นัน้ ส�ำหรับคนท่มี คี วามสุข
ทา่ ทางการเคลอื่ นไหวจะเปล่ียนแปลงไป การเคลื่อนไหวมักจะรวดเรว็ มีพลัง กระตือรือร้น สายตาจ้องไป
ยงั สิ่งตา่ งๆ อย่างมคี วามหมาย มีความสนใจในส่งิ รอบตวั อยา่ งเหน็ ได้ชดั

       ย่ิงไปกว่าน้ัน บุคลิกภาพหรือท่วงท่าอาจก่อให้เกิดความหมายในเชิงวิชาชีพ เช่น คนที่มีอาชีพ
เปน็ ทหารหรอื ตำ� รวจสว่ นมากมบี คุ ลกิ ลกั ษณะทอ่ี งอาจเขม้ แขง็ เดนิ อกผายไหลผ่ ง่ึ การใชเ้ สยี งหรอื การเดนิ
หนกั แนน่ มอี �ำนาจ เตม็ ไปด้วยพละก�ำลัง หรือคนทเ่ี ปน็ นายจ้าง เจ้าของบริษทั ก็จะมีลกั ษณะแตกตา่ งจาก
คนที่เป็นลูกจ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือการวางท่าอ่ืนๆ ท่าทางการเคลื่อนไหวจะเป็นอิสระมากกว่า
ถ้านายจ้างกับลูกจ้างพูดคุยกันอยู่ เราจะสังเกตรู้ได้ทันท่ีว่าใครเป็นลูกจ้างหรือใครเป็นนายจ้าง คนท่ีเป็น
นายจ้างจะมีท่าทางตามสบาย ล�ำตัวยึดตรง ในขณะท่ีลูกจ้างอาจมีท่าทางนอบน้อมกว่า การเคล่ือนไหว
และบคุ ลกิ ลักษณะเหล่านส้ี ร้างให้ผู้พบเหน็ เกิดความเข้าใจและแปลความหมายไปในลักษณะตา่ งๆ ได้

       อวจั นภาษาโดยเฉพาะภาษาทา่ ทาง และบคุ ลกิ ภาพภายนอกทำ� ใหเ้ ราคาดหมายถงึ เรอื่ งราวตา่ งๆ
ไดโ้ ดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั ขอ้ มลู เชงิ คำ� พดู บคุ ลกิ ลกั ษณะของคนเราสามารถสรา้ งใหเ้ กดิ ทศั นคตใิ นรปู แบบ
ต่างๆ ได้ บางอย่างแสดงถึงระดับของการเปิดเผยตัวตน คนที่เวลาสนทนากับคนอื่นใช้การหันตัวมา
ตรงหนา้ ท้งั ขาและหน้าจะอยู่ลกั ษณะของการหนั หนา้ ตรงกบั ผูอ้ น่ื ได้ สบตาขณะพดู มกั เปน็ คนท่เี ปิดเผย
และพร้อมจะปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ขณะที่บุคคลที่มีท่วงท่าอาการไขว้ขาหรือกอดอก ลักษณะเช่นน้ี
แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การปดิ ตนเอง การปกปอ้ งพนื้ ทส่ี ว่ นตวั ของตนเอง ไมไ่ ดต้ อ้ งการจะปฏสิ มั พนั ธห์ รอื ตอ้ งการ
แสดงใหเ้ หน็ การตา้ นหรือขดั แยง้ กับส่ิงแวดลอ้ มรอบตัว

       กิริยาการนัง่ ดว้ ยความส�ำรวม ค่อยๆ นั่งลง หรือในทางตรงกันขา้ มนง่ั อย่างไมพ่ ึงพอใจ กระแทก
ตัวนั่งโดยแรง การรับประทานอาหารอย่างสุภาพหรือการรับประทานอาหารอย่างรีบร้อนมูมมาม กิจวัตร
เหลา่ นีส้ ามารถบ่งบอกความหมายไดท้ ั้งส้นิ บางครงั้ การเคล่อื นไหวบางลักษณะ หากกระทำ� บ่อยๆ ก็อาจ
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35