Page 49 - ทักษะชีวิต
P. 49
บคุ ลิกภาพ มนษุ ยสัมพนั ธแ์ ละการสร้างความสัมพันธ์ภายในสงั คม 5-39
เพ่ือนมนุษย์ด้วยกัน แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ แต่ก็ถือว่าได้ช่วยรับฟัง ได้ช่วยแบ่งเบา
ความรสู้ กึ และทำ� ใหบ้ คุ คลเหลา่ นน้ั ไดผ้ อ่ นคลาย ซง่ึ ถอื เปน็ การชว่ ยลดปญั หาอน่ื ๆ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ตามมาได้
เช่น ปัญหาความเครียดทนี่ ำ� ไปสูป่ ญั หาอาชญากรรม การฆ่าตัวตาย เปน็ ตน้
3. ความอ่อนน้อมถ่อมตน หมายถงึ ลกั ษณะของการไมแ่ สดงออกถงึ ความสามารถทตี่ นมอี ยใู่ น
ลักษณะของการข่มผู้อื่น ไม่โอ้อวดหรือไม่อวดดี แต่เป็นการแสดงออกถึงการถ่อมตน อาการสงบเสงี่ยม
ความนมุ่ นวล และออ่ นหวาน เปน็ ตน้ สง่ิ ตา่ งๆ เหลา่ นจ้ี �ำเปน็ อยา่ งยง่ิ ในการสรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ เี นอื่ งจาก
โดยมากบุคคลทั่วไปมักไม่ชอบบุคคลที่โอ้อวด อวดดีหรือข่มเหงผู้อื่นเพราะจะท�ำให้เกิดการหมั่นไส้หรือ
รังเกียจได้ นอกจากนี้หากยิ่งบุคคลมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากเท่าใด ก็จะท�ำให้เป็นท่ีรักและสามารถ
สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ไี ดก้ บั บคุ คลทวั่ ไปไดง้ า่ ยยงิ่ ขนึ้ เพราะจะทำ� ใหบ้ คุ คลทวั่ ไปอยากพดู คยุ อยากเปน็ มติ ร
และอยากแบง่ ปนั ชว่ ยเหลือซึง่ กันและกนั
4. การใหค้ วามสำ� คญั และการใหเ้ กยี รตซิ งึ่ กนั และกนั เชน่ การไมน่ ำ� เอาเรอื่ งสว่ นตวั หรอื ความลบั
ของบุคคลทั่วไปไปพูดต่อ เป็นต้น สิ่งเหล่าน้ีแสดงออกถึงการเคารพในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ดี
นอกจากน้ีการให้เกียรติกันยังหมายรวมถึงการนับถือทั้งต่อตนเองและผู้อ่ืน ตัวอย่างเช่น หากบังเอิญว่า
บุคคลรู้ความลับของผู้อ่ืนก็ไม่จ�ำเป็นท่ีจะต้องน�ำความลับนั้นไปเผยแพร่แก่บุคคลท่ีสามหรือแม้แต่การพูด
ให้บคุ คลนั้นรับรู้ เพราะการกระทำ� ดังกลา่ วเปน็ การแสดงถึงความไม่ให้เกยี รตทิ ง้ั ตอ่ ตนเองและบุคคลอน่ื
5. การแสดงออกถึงความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ (ตามแต่สถานการณ์ท่ีเราสามารถ
ท�ำได)้ เชน่ การทบ่ี คุ คลเหน็ บคุ คลอ่ืนก�ำลงั ล�ำบากหรือตอ้ งการความชว่ ยเหลือ ซึ่งในความช่วยเหลอื นั้น
เป็นส่ิงที่บุคคลสามารถกระท�ำได้ ดังนั้นบุคคลจะต้องแสดงออกถึงความพร้อม ความเต็มใจที่จะให้ความ
ชว่ ยเหลอื บคุ คลอน่ื อยา่ งเตม็ ความสามารถ ทงั้ นบ้ี คุ คลตอ้ งมนั่ ใจวา่ การชว่ ยเหลอื นน้ั จะไมส่ รา้ งความเดอื ดรอ้ น
แก่ตนเองทั้งทางตรงและทางอ้อม
6. การยอมรับความคิดเห็น การแสดงออกทางความคดิ ของคสู่ นทนา หมายถงึ ความสามารถ
ของบคุ คลทจี่ ะตอ้ งยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของบคุ คลทว่ั ไปอยา่ งสงบ ไมแ่ สดงอาการโกรธ โมโห หรอื แมแ้ ต่
การแสดงปฏกิ ริ ยิ าตอบโต้ เนอื่ งจากในบางครงั้ ความคดิ เหน็ เหลา่ นน้ั อาจสง่ ผลดกี บั ตนเอง ดงั นน้ั สง่ิ ทสี่ �ำคญั
คอื บุคคลควรเปดิ ใจรับฟังและยนิ ดีตอบสนองตอ่ ข้อคิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะเหลา่ น้นั ได้
ดังน้ันในการที่บุคคลจะท�ำงาน หรือประกอบอาชีพได้น้ันมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิงที่ในการท�ำงาน
หรืออาชีพน้นั ๆ ต้องมีความเก่ียวข้องกบั บคุ คลมากมาย ไมว่ า่ จะเป็นผ้บู งั คับบัญชา เพื่อนรว่ มงาน ผใู้ ต้-
บังคับบัญชา หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป ซึ่งบุคคลแต่ละกลุ่มเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเฉพาะและพฤติกรรม
การแสดงออกท่ีแตกต่างกันออกไป ในขณะเดียวกันเรื่องหรือสาระของการติดต่อสื่อสาร การพูดคุย การ
ประสานงานกนั นน้ั กต็ า่ งมเี ปา้ หมายของการตดิ ตอ่ สอื่ สารทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไป ดงั นน้ั การสรา้ งความสมั พนั ธ์
จึงเป็นส่ิงที่มีความส�ำคัญในล�ำดับต้นๆ ที่สามารถท�ำให้บุคคลแต่ละกลุ่มดังกล่าวมีความรู้สึกท่ีดี
มีสัมพันธภาพที่ดี อันจะน�ำให้การท�ำงาน การประกอบอาชีพของบุคคลเป็นไปด้วยความราบร่ืน รวดเร็ว
และประสบความส�ำเรจ็ ดังท่ีปรารถนาในท่สี ุด
