Page 53 - จุลยุทธการวงศ์
P. 53
จุลยุทธการวงศ์ 3399 ฉบับความเรียง (ตอนต้น)
ราชบุรุษท้ังหลายก็ให้ไปเที่ยวตีฆ้องร้องป่าวท่ัวทุกทิศตามรับสั่ง
ฝ่ายบุรุษท้ังหลายรู้ว่ารับสั่งให้เข้าไปในพระราชวังดังน้ัน ได้ขนมบ้างได้
ผลไม้ต่างๆ กัน เผือกมันกล้วยอ้อยตามท่ีมีก็ถือเข้าไปในพระราชวัง
สมเด็จพระอัยกาให้ตกแต่งประดับพระราชนัดดาด้วยเคร่ืองกุมาร
อาภรณ์อลังการอันวิจิตร วิภูษิตสังวาลงามเลิศแล้ว จึงให้พระหลานแก้ว
นิสีทนาการเหนือราชาอาสน์ อันตกแต่งเป็นอันดีในที่พระราชฐานแล้วให้
เรียกหาบุรุษเข้ามาทีละคน ให้ถือขนมของกินกล้วยอ้อยผลไม้เข้าไปสู่
สำนักแห่งพระราชกุมาร
สมเด็จพระอัยกาจึงอธิษฐานว่า บุรุษผู้ใดเป็นบิดาของพระราช
กุมารแท้จริงไซร้ ก็ให้พระราชกุมารนี้จงถือข้าวของวัตถุของบุรุษนั้น ถ้า
มิใช่บิดา อย่าให้พระราชกุมารถือข้าวของวัตถุของบุรุษผู้น้ันเลย ครั้น
อธิษฐานแล้วก็ให้พระราชกุมารเข้าไปถือเอาของวัตถุบุรุษน้ัน แลชายแสน
ปมนั้นได้แต่ก้อนข้าวเย็นถือมาก้อนหน่ึง พระราชกุมารก็เข้ากอดเอาคอ
แล้วรับเอาก้อนข้าวเย็นมาเสวย ชนท้ังปวงเห็นพิศวงชวนกันติเตียนต่างๆ
พระเจ้าไตรตรึงละอายพระทัยได้ความอัปยศ จึงพระราชทานพระราชธิดา
แลพระราชนัดดาให้แก่ชายแสนปม ให้ใส่แพลอยไปถึงท่ีไร่มะเขือ อันเป็น
ท่ีอยู่ไกลจากพระนครทางวันหน่ึง ชายแสนปมก็พาบุตรภรรยาขึ้นสู่ไร่ ด้วย
เดชะบุญชนทั้ง ๓ บันดาลให้สมเด็จอมรินทราธิราชนิมิตกายเป็นวานร เอา
กลองทิพย์มาส่งให้ชายแสนปม แล้วตรัสบอกว่า ท่านจะปรารถนาส่ิงไรจง
ตีกลองนี้ อาจให้สำเร็จความปรารถนาได้สิ้น ชายแสนปมจึงปรารถนาให้
รูปงาม จึงตีกลองนั้น ปมเปาท้ังปวงก็อันตรธานสูญหาย รูปกายนั้นก็บริสุทธ์ิ
แล้วก็นำกลองน้ันมาสู่ที่อยู่ แล้วก็บอกแก่ภรรยา นางก็มีความยินดี จึงตี
กลองทิพย์ นิมิตทองให้ช่างตีอู่ทองให้พระโอรสบรรทม เหตุดังน้ันพระราช
กุมารจึงมีนามว่าเจ้าอู่ทองจำเดิมแต่นั้นมา จุลศักราช ๖๘๑ ปีมะแม
เอกศก บิดาเจ้าอู่ทองจึงตีกลองทิพย์นิมิตเป็นพระนครข้ึนในที่น้ันให้นาม