Page 86 - เมื่อวัยใสเขียนเรื่องภูมิปัญญาไทย
P. 86
แทงหยวก
ที่ความเจริญทางวิทยาการสามารถอำนวยความสะดวกแกชีวิตมนุษยไดอยางมี
ประสิทธิภาพกวา และเขาถึงชีวิตจิตใจของคนมากกวา อีกทั้งยังเปนสิ่งดึงดูดใจให
คนรุนใหมละความสนใจในวัฒนธรรมและหันไปหาความเจริญทางวัตถุแทน ดังนั้น
วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมานานแสนนานจึงเสื่อมถอยไปจากชีวิตของคนสมัยใหม
เมื่อไมมีผูใดเล็งเห็นความสำคัญ ยอมไมมีผูที่คิดจะสืบสานตอ อันเปนจุดเริ่มตน
ไปสูความเสื่อมสลายของวัฒนธรรมในที่สุด
ประเทศไทยเราเปน ทกี่ ลา วขานอยา งแพรห ลายวา เปน ประเทศทมี่ วี ฒั นธรรม
เจริญรุงเรืองในทุกๆ แขนง ในทุกๆ วันของสังคมลวนมีสิ่งนี้แฝงอยูตลอดเวลา แต
คำวาวัฒนธรรมนั้นไมไดจำกัดอยูเพียงภาษา หรือคานิยมตางๆ เทานั้น แตยัง
รวมถึงภูมิปญญาตางๆ มากมายที่บางครั้งอาจไมไดมีบทบาทในชีวิตประจำวันของ
พวกเราบอยนัก เปนเหตุใหวัฒนธรรมเหลานั้นไมไดเปนที่รูจักอยางแพรหลาย และ
กลายเปนขอจำกัดที่ทำใหมผี ูสนใจสืบสานตอนอยลงไปทุกที
คำทเ่ี ราไดย นิ อยา งหนาหเู กย่ี วกบั ภมู ปิ ญ ญาคอื คำวา “ภมู ปิ ญ ญาชาวบา น”
มีความหมายวา “ความรูความสามารถของชาวบานที่เรียนรูจากบรรพบุรุษหรือผูรู
ในทองถิ่นที่ใชประโยชนอยางแพรหลายภายในชุมชน หรืออาจครอบคลุมถึงระดับ
ประเทศ” เมื่อนำคำนี้มากลาวในแงของวัฒนธรรมแลว มันจึงไมใชเพียงการคิดคน
หรือประดิษฐสิ่งของตางๆ เพียงเพื่อผอนแรงกายของผูใช แตมันยังแฝงดวยความ
เชื่อ ความกลมเกลียวกับธรรมชาติ และคุณประโยชนตางๆ ที่ละเอียดและลึกซึ้ง
จนเราอดทึ่งไมไดเมื่อไดเรียนรูที่มาที่ไปของภมู ิปญญาเหลานั้น
ผเู ขียนจึงขอเลือกทีจ่ ะเขียนเรื่อง “การแทงหยวก” ซึ่งเคยไดยินครั้งแรกเมื่อ
ครั้งที่ยังศึกษาในระดับประถมศึกษา จนกระทั่งมาไดยินอีกครั้งเมื่อมีการแทงหยวก
ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจาพี่นางเธอ เจาฟากัลยานิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร (เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑) ผูเขียนไดเกิด
ความสนใจขึ้นมาอีกครั้งและลองคนควาหาขอมลู ของการแทงหยวก จึงไดรูวาเปน
ศิลปะที่มีทั้งความเชื่อ ความประณีตและใหคุณประโยชนดานการใชงาน นับเปน
ตัวแทนของภมู ิปญญาที่สมบูรณแบบที่สุดในใจของผูเขียนเลยทีเดียว
๗๘